หน้า: 1 ... 31 32 33 34 35 36 37 [38] 39 40 41 42 43
 
ผู้เขียน หัวข้อ: สินเชื่อเรื่องบ้าน  (อ่าน 232159 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ตอนนี้งดความคิดเรื่องโปะและ เก็บตังทำร้านก่อน
ไว้รเานอยู่ตัวค่อยโปะใหม่  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน แต่ถ้าคิดนาน บ้านจะเป็นของมิตร  (อิอิ)
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
ตอนนี้งดความคิดเรื่องโปะและ เก็บตังทำร้านก่อน
ไว้รเานอยู่ตัวค่อยโปะใหม่  กรี๊ดดดดด

คิ้วหนากู้เท่าไหร่ ผ่อนกี่ปี แล้วก็ผ่อนเดือนละเท่าไหร่เหรอ
กำลังคำนวนเรื่องโปะบ้านแล้วก็รีไฟแนนซ์น่ะ ใช่ซี้~
บันทึกการเข้า

กู้ ล้านแปด ล้านเก้า นี่ล่ะ
ผ่อน 20 ปี เดือนละประมาณ 14,000
บันทึกการเข้า
รู้สึกดีใจที่พ่อแม่มีบ้านให้ แค่ไม่ชอบเท่านั้นเอง กร๊าก
ถ้าจะให้ชอบคงต้องรื้อทั้งบ้าน น้องดำเหงื่อตก
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ถามค่ะ!!!
มีใครรู้บ้างคะ ว่าเวลาเราจะเอาเงินไปโปะบ้านในแต่ล่ะเดือนเนี่ย
ควรจะตัดยอดตอนไหนถึงจะคุ้มสุด อย่างของโบว์เนี่ย
มันจะตัดยอดเดือนละ 20,800 บาทจากบัญชีธนาคารทุกวันที่ 30 ของเดือน
แล้วถ้าเราจะเอาเงินไปตัดต้น เราควรตัดก่อนหรือหลังวันที่ 30 คะ
ใครรู้ช่วยทีนะคะ อ๊าง~


ปล.เดือนนี้บิลมาแล้ว 20,800 บาทเนี่ย หักต้นไปแค่ 7 พันกว่า
ที่เหลือหมื่นสามกว่าๆ เป็นดอกเบี้ยหมดเลย โคตรโหดเลยค่ะ ฮือๆ~ ฮือๆ~

เวลาจ่ายค่างวดแต่ละเดือน ธนาคารจะตัดดอกเบี้ยก่อน แล้วค่อยเอาส่วนที่เหลือไปตัดเงินต้น
ดอกเบี้ยอันนี้จะคิดจากยอดคงเหลือทั้งหมด
ทำให้ปีแรกๆ ค่างวดที่จ่ายไปเป็นดอกเบี้ยซะส่วนใหญ่ เหลือส่วนน้อยเป็นเงินต้น
เมื่อเวลาผ่านไปนานวัน ดอกเบี้ยก็จะลดลงเรื่อยๆ (*ถ้าไม่มีการค้างค่างวดนะ) ส่วนของเงินต้นก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ

ธนาคารมักจะบอกว่าค่างวดเอยอะไรเอยจ่ายเป็นรายเดือน แต่จริงๆ แล้ว ส่วนของดอกเบี้ย ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเหมือนบัญชีกระแสรายวัน

(
ดอกเบี้ยรายวัน = ยอดคงเหลือ x (ดอกเบี้ยรายปี%/365)

เช่น ถ้าจ่ายค่างวดไปล่าสุดวันที่ 10 พ.ค. แล้วมียอดคงเหลือ 2,000,000 บาท
      ดอกเบี้ยปีละ 5%

ดอกเบี้ยรายวัน = 2,000,000 x (0.05/365) = 273.97 บาท

หมายความว่า ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. เป็นต้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากเงินต้นวันละประมาณ 274 บาท
)

แปลว่า ภายใน 1 รอบเดือน (บางธนาคารเริ่มนับจากวันที่ 1 ของเดือน บางธนาคารเริ่มนับจากวันที่ระบุในสัญญา) ยิ่งจ่ายเร็ว ยิ่งดี เพราะจะเสียดอกเบี้ยน้อย

บางธนาคารนับรอบ 30 วันเริ่มจากวันทำสัญญา บางธนาคารนับแค่ว่าภายในเดือนนึงต้องมีการจ่ายค่างวดครบหรือเกิน

แบบแรก ถ้าทำสัญญาวันที่ 10 เดือนต่อๆ ไปก็ต้องจ่ายค่างวดไม่เกินวันที่ 10 (หรือ 9 นะไม่แน่ใจ)

แบบที่สอง ถ้าทำสัญญาวันที่ 10 แต่เดือนต่อๆ ไปจะจ่ายค่างวดวันไหนก็ได้ เช่น เดือน พ.ค. จ่ายวันที่ 10 เดือนมิ.ย. อาจจะจ่ายวันที่ 30 และเดือนก.ค. อาจจะจ่ายวันที่ 1 เลยก็ได้

แน่นอนว่าทั้งสองแบบ คิดดอกเบี้ยรายวัน


ตอบตรงคำถามไหมหว่า หมีโหด~
บันทึกการเข้า

งบน้อย


ถ้าคิดดอกเบี้ยรายวันละก็

ที่เคยอ่านก็คือ ให้แบ่งเงินที่ตองจ่ายแต่ละงวดออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน จ่ายเป็นสองรอบ
รอบกลางงวดทีนึง เมื่อครบงวดทีนึง

จะช่วยลดดอกเบี้ยได้อย่างนึกไม่ถึงเลยทีเดียว  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
อ้ะ ทำแบบนี้ได้ด้วยรึ  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
ชะอุ่ย โชคดีที่ไม่กู้ซื้อบ้านแบบคนอื่นมั่ง
ผ่อนต่อเดือนขี้แตกแน่ๆ  เอือม

ผมกะกู้โครงการ ชพค ปลายปี
ประมาณ 1.8 ล้านบาท ผ่อนราวๆ (ราวๆ นะ 9xxx ต่อเดือนได้)
แต่ยาวหน่อย 30 ปี (แต่ถ้าโป่ะก็ได้)

แล้วค่อยไปดูเรื่องบ้านเอา
หลังละล้านต้นๆ ก็น่าจะพออยู่
โครงการนี้ใหญ่ที่สุดละที่จะใช้เงิน

เอาตีนก่ายหน้าผากอยู่  อืมมมมห์
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
เอ้า!! ใครอยากได้บ้านมือสองราคาดีๆ เตรียมตัวนะครับ โวย
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
 กร๊าก กร๊าก
บันทึกการเข้า
 กร๊าก จังหวะได้จริงๆ
บันทึกการเข้า

สู่ความโดดเดี่ยว อันไกลโพ้น
อิห้าบวบ  ชิ
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
อ๊าง~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
เวลาจ่ายค่างวดแต่ละเดือน ธนาคารจะตัดดอกเบี้ยก่อน แล้วค่อยเอาส่วนที่เหลือไปตัดเงินต้น
ดอกเบี้ยอันนี้จะคิดจากยอดคงเหลือทั้งหมด
ทำให้ปีแรกๆ ค่างวดที่จ่ายไปเป็นดอกเบี้ยซะส่วนใหญ่ เหลือส่วนน้อยเป็นเงินต้น
เมื่อเวลาผ่านไปนานวัน ดอกเบี้ยก็จะลดลงเรื่อยๆ (*ถ้าไม่มีการค้างค่างวดนะ) ส่วนของเงินต้นก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ

ธนาคารมักจะบอกว่าค่างวดเอยอะไรเอยจ่ายเป็นรายเดือน แต่จริงๆ แล้ว ส่วนของดอกเบี้ย ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเหมือนบัญชีกระแสรายวัน

(
ดอกเบี้ยรายวัน = ยอดคงเหลือ x (ดอกเบี้ยรายปี%/365)

เช่น ถ้าจ่ายค่างวดไปล่าสุดวันที่ 10 พ.ค. แล้วมียอดคงเหลือ 2,000,000 บาท
      ดอกเบี้ยปีละ 5%

ดอกเบี้ยรายวัน = 2,000,000 x (0.05/365) = 273.97 บาท

หมายความว่า ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. เป็นต้นไป ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากเงินต้นวันละประมาณ 274 บาท
)

แปลว่า ภายใน 1 รอบเดือน (บางธนาคารเริ่มนับจากวันที่ 1 ของเดือน บางธนาคารเริ่มนับจากวันที่ระบุในสัญญา) ยิ่งจ่ายเร็ว ยิ่งดี เพราะจะเสียดอกเบี้ยน้อย

บางธนาคารนับรอบ 30 วันเริ่มจากวันทำสัญญา บางธนาคารนับแค่ว่าภายในเดือนนึงต้องมีการจ่ายค่างวดครบหรือเกิน

แบบแรก ถ้าทำสัญญาวันที่ 10 เดือนต่อๆ ไปก็ต้องจ่ายค่างวดไม่เกินวันที่ 10 (หรือ 9 นะไม่แน่ใจ)

แบบที่สอง ถ้าทำสัญญาวันที่ 10 แต่เดือนต่อๆ ไปจะจ่ายค่างวดวันไหนก็ได้ เช่น เดือน พ.ค. จ่ายวันที่ 10 เดือนมิ.ย. อาจจะจ่ายวันที่ 30 และเดือนก.ค. อาจจะจ่ายวันที่ 1 เลยก็ได้

แน่นอนว่าทั้งสองแบบ คิดดอกเบี้ยรายวัน


ตอบตรงคำถามไหมหว่า หมีโหด~

สรุปว่าถ้าจะเงินไปโปะบ้าน อย่างของพี่มันตัดยอดทุกวันที่ 30
ยอดที่ต้องผ่อนเราก็ผ่อนไป แต่ถ้าพี่เอาไปโปะก้เอาไปวันที่ 1 เลย ดีที่สุดป่ะ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 31 32 33 34 35 36 37 [38] 39 40 41 42 43
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!