เบิ้ลเองเลยด้วยความรวดเร็ว
ต่อไปขอให้ใช้ วิจารณญาณในการรับชมด้วย เพราะคนทำมันเลวได้ใจจริงๆ
ช่วงจบมาใหม่ๆจนถึง 2-3 ปีในชีวิตการทำงาน
ผมงานค่อนข้างเยอะ และกำลังเห่องาน ด้วยความเป็นฟรีแลนซ์
ทำให้ผมทำงานหามรุ่งหามค่ำ กิจวัตรประจำวันถ้าไม่เจอลูกค้า
ก็นอนกลางวันตื่นบ่ายหรือเย็น แล้วก็ทำงานยันเช้า ทุกวันๆ
เราจะเจอกันบ้าง ก็ตอนเย็น หลังเค้าเลิกงาน ไปกินข้าว ไปดูหนัง ไปซื้อของกันก็แล้วแต่จะว่าง
และด้วยความมั่นใจโง่ๆ+ความเจ้าอารมณ์ของผมเองอีกเช่นเดิม
ที่ทำให้ช่วงนั้น ผมรู้สึกเบื่อ เบื่อชีวิตที่เป็นอยู่ เบื่อชีวิตซ้ำๆเดิมๆทุกวัน
อึดอัดกับการที่เราจะทำอะไรก็ต้องบอกต้องถามต้องขออนุญาต อยากมีชีวิตอิสระ
อยากคุยกับคนเยอะๆ ประกอบกับ เพื่อนผมเริ่มชวนเล่นเกมส์ออนไลน์ (บุ๋มอ่านแล้วคงจี๊ด
)
ทำให้ผมและเค้าเริ่มติดเกมส์ออนไลน์ เค้าเองก็มีโลกมีสังคมของเค้า (ซึ่งเพื่อนผมส่วนใหญ๋ก็เล่นกับเค้านะ)
และผมเองก็มีสังคมออนไลน์ของผมเช่นเดียวกัน (แน่นอน ผมแยกมาเล่นเองคนเดียว เพราะเบื่อ)
และแล้วเราก็เริ่มห่างกัน...ไปอยู่ในโลกของตัวเองกันไป
ช่วงนั้นผมเองก็ได้คุยกับคนโน้นนี้ มากขึ้น เค้าเองก็มีสังคมของเค้า มีเพื่อนฝูงเพิ่มขึ้น
จนกลายเป็น ต่างคนต่างก็เจอคนที่ชอบ เจอคนที่คุยกันได้มากขึ้นกันไป โลกของเราเลยกลับมาเหมือนตอนที่เรา
เป็นเพื่อนกันใหม่ เราต่างให้คำปรึกษากันเวลาที่แต่ละคนมีปัญหา ด้วยความรู้สึกแค่ว่า
ยังไงเราก็มีกันอยู่แล้ว ที่คบๆคุยๆ กับคนใหม่ๆ ก็แค่ความสัมพันธ์อะไรสักอย่างที่ไม่ยั่งยืน
จากที่เจอกันทุกวัน ก็กลายเป็น อาทิตย์ละครั้ง/ 2 อาทิตย์ครั้ง และห่างกันมากขึ้น
ในตอนช่วงนั้นเอง ผมมีปัญหาเรื่องงาน และปัญหาเรื่องการเงินในบ้านพอสมควร
เพราะถูกโกงไปจากคนรู้จัก ทำให้โลกของผมยิ่งมืดหม่น ผมปิดตัวไม่คุยกับใคร
เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันมา ผมก็ไม่คุย ไม่อยากเจอ ไม่อยากเห็นอะไรทั้งนั้น
เรียกได้ว่า ผมอยู่แต่กับบ้าน งานการไม่ทำอยู่พักนึงเลย เคยคิดสั้นอยู่ก็บ่อย เค้าเองพอได้รับรู้ ก็มาหา
พยายามพาออกไปเที่ยวบ่อยๆ ชวนคุยให้สบายใจ ให้เงินใช้ตอนไม่มีงานทำ อะไรอยากได้ก็ทำให้
มาทบทวน เค้าก็ดีกับผมมากจริงๆ แต่ด้วยความที่ผมอารมณ์ไม่ค่อยปรกติ ผมก็เลยป่วนเค้าหนักขึ้นทุกครั้งที่
เจอกัน ผมเองก็หาเรื่องทะเลาะกับเค้ามากขึ้น และไม่สนใจเค้าอีกเลย รู้สึกตอนนั้นแค่ เบื่อๆๆ แบกโลกไว้คน
เดียวแล้วไปลงที่คนอื่น เค้าเองก็ทนน่าใจหาย หลังๆเค้าเห็นผมไม่สนใจอะไรเลยปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว เผื่อ
จะดีขึ้น แต่ก็มาดูแลความเป็นอยู่ให้เรื่อยๆ แค่นั้น..
ตอนนั้น ผมคบกับอีกคนนึงไปด้วย เพราะตอนที่ต่างคนต่างห่างกันไป ด้วยความเลวของผมเอง ผมก็ไม่ได้
บอกคนที่ผมคบด้วยว่า ผมมีแฟนแล้ว ใจคิดแค่อยากคบอยากคุย กลัวเค้าจะไม่คุยด้วย จนกลายเป็นความผูก
พันธ์ในระดับนึง และผมก็คบกับเค้าต่อ เรื่อยมา
ผ่านไปได้สักพัก ผมเริ่มทำใจได้ กลับมาหางานทำอีกครั้ง เค้าก็กลับมาอยู่ใกล้ผมอีกครั้งหนึ่ง
ตอนนั้นอะไรๆก็เหมือนจะเริ่มกลับขึ้นมาดีขึ้น แต่ผมเองก็ทำใจเลิกกับอีกคนไมได้ด้วยความอ่อนแอของผมเอง
ทำให้ผมต้องคบไปด้วยกันทั้งสองคน โดยไมได้บอกความจริงให้ทั้งคู่ฟัง...วันๆได้แต่หาทางสลับยังไงก็ได้
ไม่ให้ทั้งสองคนรู้ เรียกได้ว่า ผมโกหกเป็นไฟเลยล่ะ ทำทุกวิถีทางที่คนบนโลกจะคิดได้ เพื่อไม่ให้ความแตก
แต่ความลับไมมีในโลก จนวันนึง ความก็แตก จนได้ในวันนั้น....
วันนั้น คือวันที่ผมต้องเลือก ระหว่างคนเก่าและคนใหม่
เราสามคนได้เจอกัน และนั่งคุยกันทั้งหมด ว่าอะไรเป็นยังไง และมันจะเป็นอะไรต่อไป
เค้าคนนั้น ได้แต่ร้องไห้ บอกแค่ว่า เค้าคิดจะแต่งงานกับผมเท่านั้น ... อย่างห่างเค้าไปเลยได้มั๊ย
คนใหม่ ก็ได้แต่เงียบ และบอกว่าเป้นความผิดของเค้าเอง แต่ก็ยังทำใจไม่ได้
ผม...ไม่มีคำพูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ในหัวสมองผม เต็มไปด้วยเรื่องราวร้อยแปดอย่าง
สุดท้าย ผมเลือก คนใหม่... อย่าถามผมด้วยเหตุผลเลย ผมไม่มี ไม่มีจริงๆ ผมรักเค้าทั้งคู่ รักมากด้วย
ผมตัดสินด้วยความรู้สึกล้วนๆ ความรู้สึกที่ผมคิดอยู่ในใจ... วันนั้น เป็นวันที่ผมคิดว่า
ผมบาปมากที่สุดในชีวิตแล้ว ผมทำคนที่รักผมเสียใจมาก..
และมันก็เป็นบาปฝังอยู่ในใจผมถึงตอนนี้.....
ปัจจุบัน ผมกับแฟนเก่าผม ก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ
ถึงแม้ว่า จะเหมือนมีฟิล์มบางๆกั้นเราไว้ ไม่เหมือนเดิม แต่เราก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้ว
แฟนเก่าผมสุดท้าย ก็กลายเป็นแฟนกับเพื่อนสนิทของผมไป และเค้าดูแลได้ดีกว่าผมมาก ในทุกๆเรื่อง
กับคนใหม่ ปัจจุบัน ผมก็ยังคบกับเค้าอยู่ และพยายามจะดูแลรักครั้งนี้ให้ดีที่สุด
เราผ่านเรื่องราวกันมาเยอะมาก เค้าไม่ไว้ใจผมจากที่เหตุการณ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
ผมไม่คิดจะอุธรณ์หรือเรียกร้องอะไรอีก
ปัจจุบันผมต้องรับกับสิ่งที่ผมทำไว้ และได้แต่ให้ความรักที่ผมจะทุ่มเทให้ได้
ชดเชยกับบาปกรรมที่ผมทำไว้กับเธอ
ผมยังคงมีนะ โลกส่วนตัวของผม แต่ผมก็ไม่ให้มันไปล้ำเส้นกับใครอีกแล้ว...
มุมมองของความรักผมเปลี่ยนไป..จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ความรักสีชมพู ที่เต็มไปด้วย ความหึงหวง เป้นเจ้าของ บางครั้งมันสุขหอมหวานมาก
และหลายครั้ง มันก็ทำให้เจ็บช้ำ เป็นรักสีเลือดที่ปวดร้าว และทำลายทั้งสองฝ่าย
ปัจจุบันผมมองความรักเป็นสีฟ้า
ผมได้แต่ดีใจ ที่ได้ทำอะไรดีๆให้คนที่ผมรัก
ผมดีใจ ที่อะไรก็ได้ ที่เค้าจะมีความสุข ถึงแม้จะไม่ได้มีความสุขกับผมก็ตาม
คนเราควรอยู่กันด้วยความเข้าใจ เราเหนี่ยวใครไว้ด้วยคำลวง คำโกหกได้
แต่เราเหนี่ยวใจไม่ให้เค้ามีอิสระได้เลย ผมยินดีนะ ถ้าวันนึงคนที่ผมรัก จะเจอคนที่เค้ารักมากกว่าผม
คนเราก็แค่นี้นะ เราเติมเต็มตัวเราด้วยความรัก จนบางครั้ง
หลงลืมไปล้ำเส้นคนอื่น หลงคิดความรู้สึกคนอื่น ทำร้ายคนอื่น
จริงๆ ความสุขของความรัก มันง่ายกว่านั้นเยอะนะ ผมว่า...