หน้า: 1 ... 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 17 ... 37
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ฝึกถ่ายรูปประจำเดือนพฤศจิกายน 2551  (อ่าน 261547 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
รูปของพี่อู๋ องค์ประกอบแบบหลบมุมแบบนี้ เห็นบ่อยใน bigpicture เนอะ อ๊าง~
โดยเฉพาะล่าสุดที่เห็นแต่หน้าโอบาม่าหลบมุม โคตรเจ๋งเลย กร๊าก
ไม่เคยดูอะ ไอ้มืดหมี

ของอู๋:
ไม่แน่ใจความหมายว่า มีเครนก่อสร้างแล้วมันเหงา ด้วยความหมายแฝงของมันหรือเปล่านะครับ
แต่ดูแล้วถ้าไม่ใช้เครน(ซึ่งถ้านับความคลุมเครือมันคลุมเครือกว่าเพราะไปได้หลายความหมายมากๆ)
เปลี่ยนเป็นตึกหรือเป็นอะไรสักอย่างที่ให้ความหมายเกี่ยวกับเมือง
จะเป็นเมืองที่แห้งแล้ง เมืองที่สับสน หรือเมืองที่จืดชืดก็แล้วแต่ แล้วทิ้งท้องฟ้าไว้แบบนั้น
มันก็จะเหงาเหมือนกัน แต่เป็นเหงาที่สื่อออกมาถึงความเหงาได้ชัดเจนกว่าครับ

ขอบคุณครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

แถวๆสีลม เมื่อคืนครับ  เกย์ออก



ตามแอนขอมาเลย
กลับมาสู่บรรยากาศเดิมๆ ที่มีไอร้อน ไออุ่น เต็มจู๋ฝึกหัดไปหมด
ทำตัวหละหลวม ไม่สมเป็นจาน คนตั้งจู๋เอาเสียเลย
ตั้งแต่เดือนนี้ จะมาวิจารณ์แบบจริงจังแล้วค่ะ เริ่มจะว่างแล้ว

สำหรับภาพนี้ ขอให้ความคิดเห็นว่า
สีที่ออกส้มแดง กับ คำว่าเหงา มันค่อนข้างสวนทางกัน
องค์ประกอบของภาพ ค่อนข้างดี
ตัวคุณลุงอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น ตัดจุดแบ่งสามช่องอย่างพอเหมาะ
ป้ายหน้าร้าน ทำให้ภาพดูแนวๆดีนะ ชอบ
สรุปง่ายๆคือ โทนสี มันร้อนเกิน
ไม่ใช่ตรงป้ายร้านอย่างเดียวนะ
ตรงเงาในรถกะบะ ก็ยังแดงไปด้วย
ถ้ารอจังหวะอีกนิด กับปรับไวท์บาลานซ์อีกหน่อย
น่าจะสวยเลยล่ะ
มันเลยทำให้เหงา ไม่เหงาเท่าไหร่
บันทึกการเข้า
ชื่อภาพ: Alone in my dorm.  ฮือๆ~



อยู่หอคนเดียว พอดีฝนตกหนัก ออกไปกินข้าวไม่ได้  (T-T)
เลยหยิบมากกดซะหนึ่งดอก
ไม่ได้แต่งรูปใดๆ แค่ resize อย่างเดียว  อืมมมมห์

ภาพนี้ เรียกได้ว่าเกือบค่ะ
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว
ที่บอกว่าเกือบคือ ตากล้อง อาจจะรู้จักตัวแบบ ก็เลยเข้าใจคำว่าเหงาได้
แต่ทีนี้ อาจลืมนึกไปได้ว่า แสงจากประตูที่ส่องมา และโทนภาพที่โอเวอร์นิดๆ
มันทำให้แสง ลอดผ่านทางประตูมา และให้อารมณ์รอแบบมีความหวัง
ความเหงาอาจมีหลายแบบ แต่ความเหงากับความหวัง มันค่อนข้างจะตัดกันไปแรงนิดนึง
ถ้าสื่อไม่ชัด ก็อาจจะถือว่า ตีโจทย์ไม่แตกนะ สู้ๆ ใกล้แล้ว
บันทึกการเข้า
ส่งการบ้านค้าบบบบบ



เหงาค่ะ อารมณ์เหงาของคนถ่ายค่ะ  หยี หยี

รูปนี้ ถ้าตอบโจทย์ที่ถามว่าสวย
ตอบได้ว่า สวยค่ะ สวยเลยล่ะ แสงเอย องค์ประกอบเอย
แหม ก็พี่ดาราถ่ายนี่เนาะ  กร๊าก

แต่ถ้าถามว่า เหงาไม่
ตอบได้เปรี้ยงเลยล่ะ
ว่า มันเหงาตรงไหนหว่า
การดูภาพ โดยองค์รวม อารมณ์และตัวประกอบในฉาก
สำคัญมาก เรียกได้ว่า ยากที่สุดกว่าเทคนิคใดในโลกหล้าเลย
มันคือ สิ่งที่ทำให้ตากล้องมืออาชีพ และสมัครเล่น
ถูกตัดกันอย่างสิ้นเชิง คือ มันยากน่ะนะ
จากตำแหน่งของใบเมเปิ้ล ที่สีแสงมาตรงกระทบ
ตรงใบไม้ จนตัวใบค่อนข้างสว่าง แถมยังมีแบลคกราวด์
เป็นเศษใบไม้ ที่เรียงตัวกัน คล้ายๆ สายฟ้าฟาด
ไปกันใหญ่เลยทีนี้ เลยคล้ายๆกับที่เอบอก คือ
กำเนิดใบเมเปิ้ล หรือ อะไรที่ให้ความรู้สึกเกิดใหม่
ถ้าภาพนี้ ถ่ายมุมหลบสายฟ้า และ ให้แสงมากระทบ แบบ
มีเงาพาดบ้าง เหมือนถูกทอดทิ้ง การถ่ายรูปให้ติดโทนอันเดอร์นิดๆ
และใช้สีที่เหงาๆ ช่วยหน่อย เช่น น้ำตาลๆ หรือ เขียวเข้มๆ
น่าจะทำให้เมเปิ้ลดูเหงากว่าที่เคย
บันทึกการเข้า
อันนี้พอจะเหงาได้รึป่าว



ในที่สุดก็เจอ ภาพที่เหงาจนได้สินะ เย้  ไหว้

ภาพนี่ ตอบโจทย์เหงาได้ดีเลย
ไม่ใช่เรื่องขององค์ประกอบที่ชนะเลิศ
แต่ดวงตา ขอนายแบบ ที่สื่อให้เห็นความเหงา
ความเบื่อ สิ่งที่ตีโจทย์ได้ง่าย และไม่ต้องใช้องค์ภูมิแห่งเทคนิคมากมาย
คือ การจับอารมณ์ของตัวแบบได้ได้จั๋งหนับ และนำมาเผยผิวในรูป
ให้เห็นชัดว่า ความเหงาน่ะนะ มันบอกได้ง่ายๆ ผ่านลูกตา ผ่านแขนที่พาดไปกับขอบหน้าต่าง
คางที่วางทับแขน ให้ความรู้สึกเหงาเซ็ง และยังมีตา  ปาก
ภาพนี้บวกให้เลยค่ะ ไม่ใช่เรื่องของความสวย
แต่ตีโจทย์แตก เจ๋ง
บันทึกการเข้า
(เป๋กลับ)





ชื่อภาพ คิดถึงทับแก้ว

ขอเล่าเรื่องประกอบสักหน่อย
วันนี้ไปทับแก้วมาครับ (ทับแก้วคือศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์ ถิ่นเก่าโบว์แอน)
ไปพบ อ.ปัญจพล อดีต ผช.อธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ที่เคยสนิทสนมกันสมัยทำกิจกรรมมหาลัย
อาจารย์ปัญจ้าเลยพาเราขับวนรอบๆ มหาลัย ดูความเปลี่ยนแปลง ตึกโน้นงอก ตึกนี้ผุด
อาจารย์ท่านนั้นเกษียณ เจ้าหน้าที่คนนี้ยังอยู่ ร้านข้าวแกงร้านนั้นก็อยู่ สโมเปลี่ยนไปเยอะ ฯลฯ
เย็นวันนี้เลยเหมือนเป็นเย็นที่เราสอง(สาม)คนมานั่งรำลึกความหลังกันเหมือนคนแก่ กร๊าก

ศิลปากร... เมื่อตอนจะจากกันไป
ใครรู้บ้างหรือไม่ ในฤทัยโหยอ่อน
นานแสนนานผ่านไปด้วยใจนิวรณ์
ไม่ลืมศิลปากร.. กลิ่นจันทร์กำจรมิคลาย

ภาพนี้สวยนะแอน
ได้อารมณ์ดีด้วย
การอ่านเรื่องที่แอนเขียน รวมกับภาพ มันทำให้ภาพดูสวยขึ้นอีก
แต่ทีนี้ลองตัดคำอธิบายทิ้ง แล้วอ่านภาพเพียวๆ
แสงบนท้องฟ้า ขาวไปติด ไม่รู้ถ่ายด้วยเอฟต่ำหรือเปล่า
ทำให้รายละเอียดของท้องฟ้าหายไป
เราว่าถ้ารูปนี้ ฟ้ามีรายละเอียดหน่อย น่าจะสวยกว่านี้
ภาพนี้ ถ้าเป็นซีเปีย คิดว่า น่าจะสื่อคำว่า คิดถึงทับแก้วได้สวยกว่านี้



ภาพในจินตนาการของเราประมาณโทนสีนี้
ขออนุญาติเปลี่ยนสี ไปตามความอำเภอในโดยสุจริต ไหว้
บันทึกการเข้า
 กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

ตัวคนเดียว :]
รอกลับจากเชียงใหม่ก่อนนะครับ ไปตะเวนหามุมเหงาๆแถวๆเชียงใหม่ก่อน  ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

วาว วาว เสียงรถไฟแล่นไปฤทัยครื้นเครง
่ขอบคุณค่ะพี่ปุก  กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด +
บันทึกการเข้า


ของอู๋ส์ ผมดูแล้ว อ้างว้างมากกว่าเหงานะครับ
และรู้สึกอีกต่อมา คือ อย่างไรก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก
จะว่าเหงา ก็ไม่เหงาแฮะ จะว่าไม่เหงาก็ไม่ใช่อีก
มันเป็นภาพที่ออกแนว เพื่อชีวิต นะครับ
คือเห็นฟ้าแล้ว มันน่าจะเหงานะ
เพราะปกติเห็นท้องฟ้าแล้ว ต้องเหงา
ถ้าไม่เหงาก็ต้อง ว่าเหว่แหละ
แต่นี่เห็นฟ้า เริ่มบิ้วได้กำลังจะเหงาแล้ว
ดันมีเครนมาอีก แบบนี้เหมือนอารมณ์ คิดถึงบ้านเลย
เหมือนแรงงาน บ้านไกล นั่งรถไฟจากบ้านมา
เป็นระยะทางไกลลิบๆ มองฟ้าแบบนี้แล้ว
ทำน้ำตาตกได้เชียว ว่าแล้วก็ ใช้มือถือเติมเงินโทรกลับบ้าน

ผมมองภาพนี้แล้ว จินตนาการต่อไปว่า
ข้างล่างของเครนนั้น มีอะไรอีกนะ
อีกกี่ชีวิต ที่ดิ้นรนใต้เครยสร้างเมือง
เพื่อรองรับคนอีกชนนั้นนึง

ผมว่า งานชิ้นนี้ ว่าเหว่ ครับ

 เจ๋ง
บันทึกการเข้า

ขออีกสักรูปค่ะ..



มองไม่เห็นรูปจาก ฮิ5 ครับ
บันทึกการเข้า

มองไม่เห็นรูปจาก ฮิ5 ครับ

รูปนี้ครับ

บันทึกการเข้า

กาก
รูปนี้ครับ



อะฮ๊า ขอบคุณพี่ถลอกมาก  เจ๋ง
มาว่าที่รูปนะครับ

ไม่เหงา
ไม่เหงาแน่นอน
เพราะ รูปการถ่ายเจาะไปที่ใบหน้า
ของคนแบบนี้ มันต้องแสดงอารมณ์ บ่งบอกมากกว่านี้นะครับ
แบบนี้มันนอกจากไม่เหงาแล้ว เหมือนจะบอกว่า
มึงมาตบกะกูไหม?
หรืออะไรไปในอารมณ์ทำนอนนั้นนะครับ
ภาพขาวดำช่วยส่งเสริมให้เหงาได้
แต่ก็ไม่ใช่ในทุกกรณี ภาพสีหน้าคน
บางสีหน้าบางอารมณ์ก็เหงามาก
แต่ไม่ใช่กรณีนี้อีกนั่นแหละ

ป้าในรูป ถ้าแกเหงาจริง
ก็คงเลยเหงาแบบ เหงา เศร้า และรักแล้วนะครับ
เหงาแบบป้าต้อง เย็นนี้ไอ้แก่จะกลับบ้านไหม
หรือ เย็นนี้จะมีอะไรกินบ้าง
บันทึกการเข้า


คุณลุงคนเดิม

วันนี้ไม่อยากเรียนหนังสือ
เลยเดินทอดน่องไปเรื่อยเปื่อย หวังจะไปสวนดอกกล้วยไม้
แอบหวังในใจนิดๆ ว่าคุณลุงคนนั้น ที่นั่งอยู่ตรงกองขยะ
จะยังอยู่ อยากรู้ว่าคุณลุงยังอยู่ไหม
อยากรู้ว่าคุณลุงเขียนอะไรวันนั้น

และวันนี้ก็เจอ

คุณลุงกำลังเล่นสุโดกุ
ไอ้เกมคิดเลขน่ะ
ตั้งใจเล่นมากๆ แต่พอมองไปที่ปมขมวดบนหน้าผากแก
ดูกองขยะรอบๆแก
สัมผัสไอหนาวรอบๆตัวแก
ไม่มีใครเลยสักคน
ลูก เมีย แม้กระทั่งเพื่อน
มีแค่หนังสือสุโดกุเก่าๆ ในมือแก
กับผ้าห่มเกรอะฝุ่น

เห็นคุณลุงกี่ครั้ง ก็รู้สึกเหงาอ้างว้าง
บันทึกการเข้า


เอว่าเหมือน "ครุ่นคิด" มากกว่านะครับ

สายตาของลุงที่มุ่งมั่น ไม่ได้สนใจโลกภายนอก ไม่ได้หวั่นไหวไปกับการอยู่ตัวคนเดียว
ถ้าถ่ายลุงแกตอนที่นั่งเฉยๆ สายตาเหม่อออกไปน่าจะเหงากว่านี้นะครับ

คิดเองล้วน ๆ  ไหว้


ปล. เจ๊ครอปภาพด้วยรึเปล่าครับ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
หน้า: 1 ... 3 4 5 6 7 8 9 [10] 11 12 13 14 15 16 17 ... 37
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!