Hardy นี่ก็ถือว่าเป็นไวน์โลกใหม่
ที่รสชาติได้มาตรฐานใช้ได้เลย
ส่วน Gallo Family บางตัวก็กินได้ดีเลยนะครับ
เหมาะกับการกินพร้อมอาหาร
เมื่อมีไวน์โลกใหม่แล้ว ก็ต้องมีไวน์โลกเก่าด้วย
หลายๆ คนคงสงสัยว่า มันต่างกันยังไง
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนคือไวน์โลกเก่า ไวน์โลกใหม่
ข้อแตกต่างหลักๆ
ของไวน์โลกเก่ากับโลกใหม่คือ
ความเก่าแก่ของพื้นที่ในการปลูกองุ่นทำไวน์
เอาเป็นว่า ยุโรป ก็ถือเป็นไวน์โลกเ่ก่า
พวกประเทศอาณานิคมทั้งหลายก็เป็นไวน์โลกใหม่
ไวน์โลกเก่า ส่วนใหญ่เลย
จะมีการควบคุมคุณภาพการผลิต
ที่คัดสรรจากธรรมชาติเกือบทั้งหมด
รวมถึงขั้นตอนต่างๆ เรียกว่าเหมือนเป็นกฎหมายเลยก็ว่าได้
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจไปว่า
ทำไมจึงเห็นไวน์โลกเก่าที่เก็บไว้จนได้ที่
มีราคาต่อขวดนับแสนบาท
กฎหมายที่ว่า เป็นที่รู้จักกันคือ
Medoc 1855 Classification
ซึ่งเป็นการควบคุมคุณภาพของแคว้น Bordeaux (บอร์กโดซ์)
ก็จะจัดชั้นลำดับผู้ผลิตของไวน์ฝรั่งเศส
เป็นชั้นๆ หรือที่เราเรียกกันว่า
Grand cru Classe อ่านว่า กรอง ครู คลาสเส
ซึ่งมีอยู่ห้าลำดับชั้น
ไวน์ชั้นดีที่สุด หรือที่เรียกว่า
Premiers Crus อ่านว่า เปรมิเยร์ ครู
มีอยู่ห้าตัว คือ
* Chateau Lafite-Rothschild อ่านว่า ชาโต ลาฟิต ฮอตชิลล์
* Chateau Latour อ่านว่า ชาโต ลาตู
* Chateau Mouton-Rothschild อ่านว่า ชาโต มูตอง ฮอดชิลล์
* Chateau Margaux อ่านว่า ชาโต มาโกซ์
* Chateau Haut-Brion อ่านว่า ชาโต โอต บริยอง
ไวน์พวกนี้ ราคาดีกว่าทองเสียอีก
แต่ไม่ต้องไปคิดหาซื้อนะครับ
มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้
(Vintage ใหม่ๆ หาซื้อได้ยาก
เพราะจะถูกประมูลไปตั้งแต่ยังไม่ได้ผลิต)
สิบปีผ่านไป ราคาไวน์พวกนี้จะขึ้นเป็นหลายสิบเท่า
ส่วนเรื่องรสชาติ ตูเคยชิมแค่ ชาโต มูตอง รอดชิลล์ ปี1970
ซึ่งไม่ถูกลิ้นกับตูมากๆ เพราะกลิ่นรสที่ตูรับไม่ได้
เข้าใจว่าเป็นกลิ่นยางไหม้กับหนังสัตว์
แต่ฉลากสวยมาก เพราะเป็นปีที่ใช้รูปของ Marc Chagall
(มูตอง ฮอดชิลด์จะใช้ศิลปินดังๆ วาดรูปลงฉลากในแต่ปี)
กฎหมายพวกนี้ในแต่ละแคว้นของฝรั่งเศสก็มีต่างๆ กันไป
อย่างแคว้น เบอร์กันดี หรือ แซง เตมิญอง (St Emilion)
ซึ่งรสชาติหรือมาตรฐานก็ดีไม่แพ้กัน
แต่ถ้าใครอยากลอง ตูแนะนำให้ลองดู
ชั้นที่รองๆ ลงมา แต่ต้องซื้อมาเก็บแต่เนิ่นๆ
เรียกว่าพอออกมาปุ๊บ ก็ซื้อเก็บไว้
ราคาอยู่ในหลักพันบาท แต่ถ้าทิ้งไว้สิบปี
ราคาจะกลายเป็นหลายหมื่นบาทอย่างไม่น่าเชื่อ
แล้วไวน์โลกใหม่ล่ะ มันเป็นยังไง
ไวน์โลกใหม่คือไวน์ที่มีการควบคุมการผลิต
ทุึกขั้นตอน ด้วยคน ด้วยเครื่องจักร
เพื่อที่จะให้ได้ รสชาติเป็นมาตรฐาน
(ไวน์โลกเก่า การเลือกปี จึงสำคัญ
เพราะขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศในปีนั้นๆ ด้วย
ว่าจะทำไวน์ออกมาได้คุณภาพดีแค่ไหน)
ไวน์โลกใหม่ส่วนใหญ่ ก็จะเก็บไว้ได้ไม่นาน
ซึ่งเราจะเห็นเขาเขียนที่ฉลากว่า
ควรดื่มก่อน ปี xxxx
แต่ไวน์แดงโลกเก่า
สามารถเก็บได้ เพราะไวน์ในขวด
จะมีการพัฒนาการไปเรื่อยๆ
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหัดดื่มไวน์
ตูแนะนำให้ชิมตามสายพันธุ์องุ่น
จากไวน์โลกใหม่ก่อน
เพราะไวน์โลกเก่า ส่วนใหญ่
จะมีการใช้องุ่นมากกว่าหนึ่งชนิด
รวมถึงกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งจะยากมากๆ ในการชิม
...............................
ส่วนเรื่องการเมาไวน์
อย่างที่เก้อบอก มันเป็นการเมาที่ซึมลึก
ค่อยๆ ซึม ค่อยๆ เมา แต่ถ้าเมาจนอ้วกจะทรมาณมากๆ
เคล็ดลับถ้าต้องดวดไวน์ในปริมาณเยอะๆ จนเมา
ก็คือห้ามหลับตา ห้ามนอน
ให้หาน้ำโซดามากิน จนสร่างก่อน
มีความเชื่อกันว่า แอลกอฮอล์จากไวน์
จะสลายไปจากตับภายใน 16-24 ชั่วโมง
แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์จากเหล้าหรือเบียร์
จะตกค้างอยู่ในตับถึงหกเดือน
และที่สำคัญที่สุดคือ เมาไม่ขับนะครับ