หน้า: 1 [2] 3
 
ผู้เขียน หัวข้อ: Terrarium Tutorial ฉบับ D.I.Y. ลูกทุ่ง  (อ่าน 47069 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
รอดูภาพตอนทำ กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ทำเทอราเรี่ยม?
บันทึกการเข้า

นักเขียนการ์ตูนรายปี
ชงซะหวานเจี๊ยบ  เหลือบ
บันทึกการเข้า

ถ้าทำกับบวบแล้วใครจะถ่ายให้อ่ะ  อ๊าง~
บันทึกการเข้า

ความสวยไม่รับประกัน แต่ความมันเดี๊ยนรับรอง
คนอยู่หลังไง ถ่ายง่าย

เฮ้ยๆ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
รอดูของพี่พลัม  หื่น เอ๊ย  กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
ถ้าทำกับบวบแล้วใครจะถ่ายให้อ่ะ  อ๊าง~
ตั้งกล้องรอบๆ ห้อง สักห้าหกตัว อ๊าง~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
รออ่านต่ออยู่นะ  กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด ทำด้วยๆๆ
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
มาต่อนะครับ แอบเปลี่ยนเรื่อง

พอดีวันก่อนเพื่อนที่จัดสวนกับทำ terrarium ขายอยู่แล้ว โพส Kokedama

ซึ่งเป็นวิธีปลูกต้นไม้แบบหนึ่งของญี่ปุ่น ก็เลยให้นางสอน(ทางเฟสบุ๊คนี่แหละ555)

แล้วก็ไปเสิร์ชๆวิธีต่อในเนต กดดูรูปได้ค่ะ

https://www.google.co.th/search?q=kokedama&espv=2&biw=1920&bih=932&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=BK1QVZb1AYXMmAXYk4GQDg&ved=0CBsQsAQ


คือถ้าของญี่ปุ่นจริงๆคือส่วนผสมดินเยอะโคตร

คือตามสูตรทั่วๆไปก็ใช้ พีทมอส ผสมดินปลูกแบบเพียวๆที่ไม่มีใบไม่ขุยมะพร้าวปน แล้วก็ใส่ ดิน akadama นิดนึง

อันหลังเข้าใจว่าช่วยให้ดินมีโพรงรากจะได้เดินได้เพราะตอนปั้นอีลูกกลมนี่ปั้นแน่นเหมือนกัน

แต่ไม่มีเลยใช้หินพัมมิสเบอร์เล็กสุดแทน เพิ่มช่องอากาศให้แทน

ไม่มีอะไรเลยครับปั้นๆ ปั้นเสร็จก็เอามอสแปะ อันนี้จะซื้อเป็นมอสน้ำสำหรับแปะโอ่งครับ

ขายเป็นแผ่น แผ่นนึงตก 30 บาท ประมาณ 30*30 เซนต์

มอสแปะเสร็จถ้าวางเฉยๆก็แปะอยู่ครับ มอสมันติดเอง  แต่ถ้าออริจินอลก็ต้องมัดด้ายไว้ด้วย

แล้วก็แอบเอาตะเกียบเจาะรูที่ตูดนิดนึงในกรณีที่ต้นไม้ไม่ชอบน้ำมากครับ แต่ใช้ต้นไม้ที่ชอบชื้นๆน่าจะโอกว่านะ (เดาเอา  กร๊าก)

บางที่ก็ใช้เชือกที่มัดมาเป็นตัวแขวนห้อยๆ

















ของแถมถ้าได้ไปลองเดินซื้อโหลแก้วแล้วจะรู้ว่ามันแพงมาก เรียกว่า ต้นทุน 80 เปอร์เซนต์ มาจากค่าโหลแก้วนี่เลย

ของที่พอใช้กล้อมแกล้มได้ก็คือตู้ปลา เพราะตู้เบสิคแบบเป็นกระจกชิ้นวางชนกัน

ขนาด ประมาณ 25*40*30 ตกร้อยกว่าบาทเอง

กับแบบที่ ไฮโซว์ขึ้นมาคือเป็นอคริลิคดัดโค้ง แต่จะแต่มุมด้านหน้าที่โชว้นะ อันนี้ก็แพงขึ้นมาอีกหน่อยแต่สวยงาม

แต่อาจจะขัดใจหน้าตา ก็สามารถแต่งได้โดยใช้ไม้บัลซ่ามะแปะๆตรงสีพลาสติกอันเจ็บปวดได้

เช่น  อ๊าง~


สีแม่งเจ็บปวดมากกกกกกกกกกกกกกก  กร๊าก กร๊าก กร๊าก








อุปกรณ์ค่าาาา ไม้บัลซ่า หนา 3 มิลยิ่งหนายิ่งดูไฮโซ แต่ก็แพงตามไปด้วยครับ  กร๊าก













ตัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ใช้กาวพริต สุดยอดแห่งอุปกรณ์สำหรับตัดโมเดลของเหล่าสถาปนิก  fuc yea












เสร็จจ้า  หมีโหด~

















แถมด้วย เทรน ฟิกเกอร์ ที่ระบายสียากโคตร ฉี่จะราด เน่าสุด  กร๊าก กร๊าก กร๊าก













ป.ล. จัดห้องเสร็จละ ใครอยากมาลองทำก็มานะอย่าเรียกว่าเวิร์ค ช็อป เลย เรียกว่า หาอุปกรณ์มาให้ลองทำดีกว่า  กร๊าก กร๊าก กร๊าก

เพราะนี่ก็ยังไม่ได้ลองจัดแบบจริงจังเลย  กร๊าก กร๊าก กร๊าก








บันทึกการเข้า

ความสวยไม่รับประกัน แต่ความมันเดี๊ยนรับรอง
เป็นคนที่หลงเข้ามากระทู้นี้ จนต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้ามาตอบขอบคุณนะครับ
ที่อธิบายไว้และแปะแหล่งที่ซื้อต่างๆเนี่ยมีประโยชน์มากๆเลยครับ
พอดีเพิ่งหัดทำ Terrarium ใหม่ๆพอดี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ :)
บันทึกการเข้า
สตูดิโอน่าไปเยือนมาก กรี๊ดดดดด
ชอบสวนปั้นๆ ด้วย เหมือนมอสที่ขึ้นตามลูกมะพร้าวดี
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
สอบถามเพิ่มเติมหน่อยครับ
กำลังหา Model Figure มาใส่ terrarium สนใจของ Preiser แต่ราคาแพงเกิ้น  โวย
ไอ้ Preiser ตัวขาวๆที่ต้องมาทาสีเองนั่นพอจะราคาย่อมเยาหน่อย แต่เค้าต้องมีสีพิเศษทารึปล่าวครับ
อยากขอดูตัวอย่างที่ทางคุณ HyoPlum ทาแล้วหน่อยสิครับ  หื่น เผื่อเป็นแนวทางว่าจะซื้อมาทำเองบ้างดีป่าว  หยี
บันทึกการเข้า
ขอโทษด้วยครับมาตอบช้าครับคุณ mallogus


ถ้าให้ดีคือใช้สัสำหรับทาพวกโมเดล ฟิกเกอร์ ไปเลยดีกว่าครับ แต่เลือกเป็นพวกสูตรน้ำก็ได้ครับจะได้ไม่เหม็น
พวก สีของ tamiya หรือ mr hobby เนื้อสีมันจะบางกว่าอะคริลิกครับ ทาแล้วเนียนกว่า

ถ้าใช้สีอะคริลิกก็อยากให้ใช้ ยี่ห้อ วินเซอร์ ขึ้นไปครับ เนื้อจะได้ดีหน่อย
แล้วก็ผสม retarder คือตัวที่ทำให้สีแห้งช้า ก็จะทาง่ายขึ้นครับ  กรี๊ดดดดด



ลืมรูป อันนี้ใช้สีอะคริลิกของ winsor นะครับ
แต่ไปซื้อของ liquitex แบบเนื้อด้านมาเพิ่มครับ เพราะแถวบ้านไม่มีวินเซอร์ขาย








อีกเรื่องนึงครับ สีอะคริลิกของ winsor  แต่ละสีเนื้อไม่เหมือนกันด้วยครับ
อย่างสี titanium white กับ cobalt blue นี่ทาแล้วไม่ค่อยติดและไม่ค่อยเรียบ
แต่สีอื่นไม่มีปัญหา เลยต้องใช้สีเนื้อรองพื้นแทนทั้งหมดเพราะมันเรียบ
เลยต้องระเห็จไปซื้อสีขาวอันอื่นมาใช้นี่อหละครับ





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พ.ค. 2015, 17:19 น. โดย HyoPlum » บันทึกการเข้า

ความสวยไม่รับประกัน แต่ความมันเดี๊ยนรับรอง
นี่ดูลงทุนหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ กร๊าก
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
หน้า: 1 [2] 3
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!