เอาฟอนต์ไทยมาแปลงใหม่ผิดไหมครับ?

อ้อ ผมเข้าใจผิด อ่านเงื่อนงำไม่แตกฉาน ขออภัย ผมไม่รู้ว่าใครเป็นใครในนี้หรือมีดราม่าที่อื่น แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่ทั้งคู่ก็น่าจะคุยกันได้นะครับ (กลัวลูกหลานจะทะเลาะกันต่อ 555) ถ้าคุณต้องการเครดิตที่เหมาะสม คุณก็สมควรได้รับเกียรติ ถ้าผลงานของคุณเป็นต้นแบบไอเดียให้คนอื่นเอาไปทำผลงานของเขา (เท่าที่อ่านมาคือคุณไม่ได้ยินยอม) แต่ถ้าเขาไม่ต้องการให้เกียรติคุณหรือไม่ยอมรับว่าเขาเลียนแบบผลงานคุณ จะฟ้องกันจริงๆ มันคงยากอยู่ แม้จะพิสูจน์ได้ว่าใครทำก่อนทำหลัง อย่างที่บอกไปแล้วว่าลักษณะตัวอักษรมันไม่ใช่นวัตกรรมที่จดสิทธิบัตรได้ ส่วนซอฟต์แวร์ถ้าทำขึ้นมาใหม่เองมันก็ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์เพราะซอร์สโค้ดไม่เหมือนกันแน่ๆ ฟอนต์ใน GNU/Linux หลายตัวก็เลียนแบบฟอนต์จาก Windows ในแง่ลักษณะตัวอักษรและเมทริก เพื่อให้ผู้คนคุ้นเคยกับหน้าตาของฟอนต์และใช้ทดแทนกันได้ คือตั้งใจทำของฟรีแข่งนั่นแหละ แถมบอกด้วยว่าฟอนต์ตัวไหนมีไว้ใช้แทนตัวอะไร Microsoft ยังฟ้องไม่ได้เลยครับ

ครับก็ทราบอยู่ ไม่ได้ต้องการขนาดฟ้องร้องนั้นด้วย คือแค่ไม่อยากให้มันเกิดกรณีขึ้นอีก ต่างคนต่างทำนั่นแหละดีที่สุดแล้ว

ตอนแรกก็งงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอเห็น อ.สมานเข้ามา เลยตามไปเช็คใน fb อ.สมาน ถึงได้เห็นเรื่องราว

กระทู้นี้น่าสนใจครับ ดูตัวอย่างแล้ว เอ้อ...มันคล้ายกันจริงครับ แต่ก็เป็นไปได้ที่

1. มันคล้ายกันโดยบังเอิญ ไม่ว่าจะอยู่ในวงการศิลป์ที่มีรูปแบบการเขียนคล้ายๆ กัน หรือนอกวงการอย่าง Atnoon Bighead ที่วัยรุ่นเขียนแบบนี้กันมา 20-30 ปีแล้ว ซึ่งก็เหมือนกัน/คล้ายกันมากๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก (กรณีนี้ ผมให้นำหนักประเด็นนี้มากกว่า)

2. ลอกแบบมาเลย - ถ้ามีการลอกแบบจาก "ฟ้อนต์" ที่คุณแปลงจากลายมือเป็น "โปรแกรม" แล้ว แบบนี้ผิด 100% และคุณสามารถฟ้องร้องตามกฎหมายได้ทันที (โดยให้มีการตรวจสอบ การทำลายเส้นของตัวฟ้อนต์นั้นๆ) และจากกรณียังไม่แปลงเป็น "โปรแกรม" เป็นเพียงลายมือ ในกรณีหลังถ้าคุณมีผลงานเด่นชัด เช่น คุณทำหนังสือรวมลายมือ ซึ่งเป็นลายมือคุณเองแล้วหนังสือดังกล่าวถูกตีพิมพ์เป็นที่รับรู้ต่อสาธารณชน แบบนี้เอาฟ้องร้องแง่ลอกเลียนผลงาน...ได้บ้าง (เท่าที่ทราบยัง "ไม่มี" กรณีนี้) แต่ถ้าคุณไม่มีผลงานตีพิมพ์ เป็นลายมือส่วนตัวล้วนๆ แบบนี้ฟ้องไม่ได้เลยครับ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย

กรณีนี้ถ้าจะเอาให้จบสนิท..ง่ายครับ ไม่คุณฟ้องอีกฝ่าย (ในแง่การดัดแปลงฟ้อนต์ที่เป็นผลงานคุณมาขาย) ไม่ก็อีกฝ่ายฟ้องคุณ (ในฐานะคุณทำให้เค้าเสื่อมเสียชื่อเสียง) หลังฟ้องร้อง...เดี๋ยวจะมีกระบวนการพิสูจน์ ตามมาเองครับ จะได้จบจริงๆ ไม่ต้องเถียงกันไปอีก 10 หน้า

ติดตามห่างๆมาซักพักแล้ว โดยส่วนตัวไม่รู้จักทั้งสองท่าน และไม่ใช่คนในวงการออกแบบฟอนต์ โดยเฉพาะ จขกท (เพราะไม่เปิดเผยหรือแสดงตัวอะไร) แต่ในส่วนของพี่สมาน บังเอิญผมแอดเพื่อนไว้ เพราะผมชอบติดตามผลงานเพื่อนๆพี่ๆในวงการออกแบบ

ผมเข้าใจอารมณ์ จขกท นะครับ ที่ไปเห็นงานๆหนึ่ง แล้วมันเหมือนของเรา จนฟันธง(ด้วยตนเอง) ไปแล้วว่าต้องลอกเรามาแน่ๆ (สังเกตุจากทุกๆคำอธิบายของ จขกท ทิศทางจะเป็นแบบนี้) ก็เลยไม่พอใจเท่าไหร่

ส่วนของผู้ที่ถูกกล่าวหา ก็มั่นใจว่าไม่ได้ลอกแน่ๆ จึงอยากจะหาทางยุติ และคุยกันแมนๆ เลยอยากรู้ว่ากำลังคุยกับใคร มากล่าวหา (ผมใช้คำนี้ เพราะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้) ว่าเราไปลอกงานเขามา แต่ก็ไม่รู้ว่าคุยกับใคร เพราะไม่เปิดเผยอะไรสักอย่าง

ซึ่งก่อนจะมีกระทู้นี้ ได้บทสรุปคือต่างคนต่างอยู่ จบๆกันไป  แต่ จขกท ก็มาตั้งกระทู้โยนหินถามทาง โดยชี้นำไปในทางที่มั่นใจว่าตัวเองโดยลอกงานแน่ๆ

ทีนี้มันก็ดราม่าสิครับ เพราะต่างฝ่ายต่างยืนอยู่บนความคิดตัวเองเป็นหลัก ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าใครถูกใครผิด แต่ในแง่ของการปฏิบัติของ จขกท จะออกไปทางประจาน และหาแนวร่วม ซึ่งผมมองว่ามันไม่มีผลดีเท่าไหร่ และไม่แปลกใจที่ฝั่งพี่สมานจะโกรธ เพราะคุยว่าจบ แต่ดันไม่จบ

ลองถอยกันคนละก้าว คุยกันด้วยเหตุผล ลดความคิดสุดโต่งของแต่ละฝั่งลง เพราะถ้ามองตามความเป็นไปได้ของการออกแบบฟอนต์ หรือการออกแบบอะไรก็ตามในโลกนี้ มันมีโอกาสที่จะใกล้เคียงกันได้ทั้งนั้น (โดยเฉพาะลายมือ ผมยังคิดว่ามันซ้ำๆกันหลายคนเลยนะ)

กระบวนการออกแบบใดๆ มันต้องกลั่นกรองจากความคิด การร่าง ก่อนจะลงมือทำจริงทั้งสิ้น ทำไมไม่ขอหลักฐานกันดีๆ คุยกันดีๆ แสดงตัวตนกันตรงๆ เพราะยังไงก็คนวงการเดียวกัน เผลอๆเดินชนไหล่กันด้วยซ้ำไป

แต่ถ้าจะยึดติด ถือติดกับความคิดตัวเอง โดยไม่ยึดหลักเหตุผลใดๆ ก็เอวังครับ

ผ่านมาแสดงความเห็น และขอกลับไปติดตามแบบห่างๆเหมือนเดิมละครับ แฮ่ๆ 

ในฐานะเจ้าของบ้าน เพื่อความโปร่งใส
ผมขอแจ้งไว้ว่ามีผู้ส่งลิงก์หลังไมค์ต้นเรื่องมาให้ครับ
https://www.facebook.com/smarnfont/posts/553283471541628

อันนี้เป็นโพสต์ของน้าสมาน ที่ตัวโพสต์อาจจะดุเดือดสักหน่อย
แต่ในคอมเมนต์มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์หากใครจะเข้ามาดู มาถกเถียง
หรือต่อยอดเป็นกรณีศึกษาในอนาคตครับ

ในนั้นมีกล่าวถึงกรณีฟอนต์ที่เคยมีการถเถียงกันในนี้ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาในตำนานด้วยครับ
(ข้อดีของเว็บบอร์ดก็งี้เนอะ ถ้าพิมพ์อะไรเอาไว้ สามารถเปิดดูย้อนหลังได้ง่าย และเก็บไว้ได้จนชั่วลูกชั่วหลาน)

อย่างเนื้อหาในโพสต์ตามลิงก์ที่แปะไว้ อันนี้ทิศทางจะไปในทางที่ว่า
ตัวลายมือนี้เป็นลายมือที่มีอยู่แล้วในวงการเขียนป้าย
(เป็นประเด็นที่ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน ดังที่ถามไว้ในหน้าแรกครับ)
คือถ้าเป็นกรณีนี้จริงๆ ขึ้นมา นั่นอาจจะลำบากคุณ james0007 สักหน่อยนะครับ
เนื่องจากเหตุผลดังที่หลายๆ ท่านว่ามา ว่าอาจเป็นความบังเอิญ
ที่เราร้องคัฟเวอร์เพลงเดียวกัน แล้วคอร์ด หรือคีย์มันไปในทางเดียวกัน
แบบนี้ก็จะถือว่าไม่ได้มีใครลอกใครครับ
เพราะต้นสายมาจากลายมือคลาสสิกที่เขาถ่ายทอดกันมาในวงการอยู่แล้ว

แต่กรณีตรงข้าม ถ้าเกิดว่าฟอนต์นี้มีอยู่แล้วจริงๆ เป็นต้นแบบของฟอนต์ที่เป็นกรณีอยู่จริงๆ
และมีที่มาจากการถอดแบบ หรือดัดแปลงของเดิมนิดหน่อยมาทำเป็นฟอนต์ใหม่
ถึงทางกฎหมายนั้นอาจจะเอาผิดไม่ได้ 100% (ทั้งไทยและสากลเลยนะ)
แต่เรื่องความเหมาะสม จริยธรรม หรือความแมน อันนี้ก็ต้องเคลียร์ใจกันครับ

คุยกันดีๆ นะครับ

1. ผมไม่เคยรู้จักคุณเจมส์ มีแต่เขาแอบส่องเฟสบุ๊คผม
2. ลายมือ หรือว่าฟอนต์ของเขา ผมก็ไม่เคยเห็น ไม่แน่ใจว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่ เพราะไม่เคยประจักษ์ต่อสาธารณะ
3. ทุกท่านที่ทำฟอนต์ในยุคก่อนๆ อาทิ อ.ธงชัย พี่ตงบางลี่ เจ้าของฟอนต์ ตระกูล BLK ,พี่ตู่อาร์ตติส ผมก็ไม่เคยที่จะลอกงานท่านพวกนี้ และอีกอย่าง พวกเราก็รู้จักกันหมด
    พวกเราก็ไม่เคยทับรอยเท้ากัน มีแต่ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ลองพิจารณาดูกันเองนะครับ......ปล.ขี้เกียจพิมพ์

ฟอนต์ใน GNU/Linux หลายตัวก็เลียนแบบฟอนต์จาก Windows ในแง่ลักษณะตัวอักษรและเมทริก เพื่อให้ผู้คนคุ้นเคยกับหน้าตาของฟอนต์และใช้ทดแทนกันได้ คือตั้งใจทำของฟรีแข่งนั่นแหละ แถมบอกด้วยว่าฟอนต์ตัวไหนมีไว้ใช้แทนตัวอะไร Microsoft ยังฟ้องไม่ได้เลยครับ

ฟอนต์เหมือนเป๊ะๆเลยใช่มั้ยครับ