มีใครได้อ่านข่าวนี้บ้างไหมครับ
ยื่นฟ้องโรงพยาบาล เหตุให้เลือดจนลูก-เมียติดเอดส์ตาย เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) นายวิชัย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ชาวอ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนโรงพยาบาลพลับพลาชัย เพราะทำคลอดนางต้อย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ภรรยา และลูกสาวติดเชื้อเอดส์
โดย นายวิชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 48 นางต้อยภรรยาของตน ตั้งครรภ์บุตรคนที่ 2 ได้ไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลพลับพลาชัย ระหว่างตั้งครรภ์ได้ไปรับการตรวจสุขภาพแต่ละครั้งผลตรวจเลือดเป็นปกติ ไม่มีการติดเชื้อใดๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย.48 นางต้อยไปทำคลอด ระหว่างทำคลอดมีอาการตกเลือด และรกค้าง ทางโรงพยาบาลจึงนำเลือดจากคลังเลือดมาให้ และภรรยาได้คลอดบุตรสาวร่างกายปกติ
ต่อมาหลังคลอดประมาณ 4 เดือน บุตรสาวมีอาการป่วย ท้องเสียบ่อย เป็นหูน้ำหนวกข้างขวา จึงไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ หมอได้เจาะเลือดทั้งบุตรสาวและภรรยา พบว่าทั้งสองติดเชื้อเอชไอวี และเชื่อว่ าสาเหตุที่ภรรยาและลูกสาวติดเชื้อเอดส์ในครั้งนี้ เพราะได้รับเลือดจากทางโรงพยาบาลพลับพลาชัย เนื่องจากนำเลือดบริจาคที่มีเชื้อมาให้โดยไม่มีการตรวจให้ชัดเจนเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา บุตรสาวได้เสียชีวิตลงแล้ว ส่วนภรรยากำลังจะตาย ก่อนหน้านี้ตน เคยร้องเรียนไปแล้วแต่เรื่องเงียบ จึงร้องขอค่าเสียหาย 10 ล้านบาทจากโรงพยาบาล
ด้าน น.พ.มนูเวทย์ ธีระวิโรจน์ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพลับพลาชัย
กล่าวยอมรับว่า รับเลือดมาจากโรงพยาบาลนางรอง เอามาช่วยคนป่วยตอนคลอดลูกจริง โดยไม่ได้ตรวจสอบ เพราะคิดว่าโรงพยาบาลนางรองตรวจสอบแล้ว เรื่องนี้ในกลุ่มแพทย์ พอจะรู้เรื่องกันมาเป็นเดือนๆแล้วว่าเกิดเหตุการณ์ร้องเรียนขึ้น
ตอนนั้นเรื่องยังอยู่ในวงจำกัด เพราะยังไปไม่ถึงหนังสือพิมพ์ แต่ดูเหมือนว่าผู้ชายจะใจร้อน เอาเรื่องไปแจ้งหนังสือพิมพ์ซะก่อน
ตัวแดงที่ผมขีดไว้เป็นประเด็นที่ตอนนี้ในอินเตอร์เนทเขาด่ากันไปสามเว็บเจ็ดเวบ บอกว่าไม่ได้ตรวจสอบเลือด
แต่เรื่องที่รู้มาก่อนหน้านี้คือ เลือดถุงนั้นได้รับการตรวจสอบตั้งแต่แรก แบบละเอียด คือตรวจทั้งantigen และantibody ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่ดีที่สุดเท่าที่ไทยมีในตอนนั้น(เทียบเท่าสากล) และเลือดถุงนั้นผลเป็นลบและถึงผลสอบช่วงแรกจะไม่ปรากฎว่าโรงพยาบาลมีความผิด แต่โรงพยาบาลก็ช่วยเหลือเรื่องต่างๆที่ช่วยเหลือได้ไปหลายส่วนและกำลังทำเรื่องช่วยเหลือทางด้านการเงิน
ซึ่งรักษาการณ์ผอ. ได้บอกกับนักข่าวไปแล้วว่าผลเลือดนั้นตรวจที่อีกรพ.นึงและผลเป็นลบ
แต่นักข่าวคนที่สัมภาษณ์เอาไปเขียนดังกล่าว จากนั้นพวกรายการทีวีก็เอาไปกล่าวอ้างคุยข่าวกันสนุกว่าเลือดไม่ได้ตรวจสอบ
ใครมีน้องมีนุ่งทำงานด้านสื่อสารมวลชน ก็สอนให้รู้จักจรรยาบรรณสื่อบ้างนะครับ
ทำอย่างนี้ไม่เจริญแน่ๆ