ถึงว่านอนซมหลายวัน
ต่อเรื่องข้อสังเกตเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ... เพราะถ้ามองด้วยความเชื่อใจอย่างเดียวก็คืออคติ
ข้อสังเกตก็คือ
1. โรงพยาบาลจะได้อะไรจากการเอาคนไข้ไปปล่อย เพราะคนไข้ยังไงก็ล้นโรงพยาบาลอยู่แล้ว หายไปคนนึงงานก็ไม่ได้เบาขึ้นเลย
2. กรณีนี้ ผู้ป่วยมารักษาด้วยท้องเสีย แต่แพทย์ตรวจจนเจอว่าเป็นวัณโรค ... ถ้าหากไม่ตั้งใจตรวจเอาแต่สั่งยา ผมไม่คิดว่าจะเจอโรคปอดได้
3. ถ้าเอาไปปล่อยทิ้ง ทำไมบังเอิญไปปล่อยใกล้บ้านได้ ... จะทิ้งกันจริงๆก็เอาไปปล่อยที่ไหนก็ได้นี่นา
4. ทำไมอุตส่าห์ใจร้ายขับไล่ไสส่งจากรพ. แต่ยังให้รถโรงพยาบาลไปทิ้ง ... ทำไมไม่ให้ออกไปเฉยๆ
5. ทำไมใจดีให้ผ้าห่ม
ชื่อเสียงที่ส้มบอกว่าไม่ดี ผมพอจะเข้าใจความหมาย
และอยากบอกว่า โรงพยาบาลไหนก็ตาม ที่มีคนไปรักษามาก และคนที่ไปรักษามีเศรษฐานะต่ำ โรงพยาบาลนั้นจะถูกร้องเรียนมากกว่าโรงพยาบาลอื่น ... สิ่งนี้เป็นความจริงที่เกิดขึ้นทั่วโลก (อ่าน Paper ของทางฝั่งอเมริกา ก็เป็นประมาณนี้)
เพราะโรงพยาบาลเหล่านี้ คนไข้จะมาก แออัด ความเครียดสูง
จำนวนพยาบาลและหมอก็น้อย เมื่อเทียบเป็ฯสัดส่วน
ทรัพยากรจำกัด เวลาที่มีให้คนไข้จำกัด โอกาสรักษาแล้วไม่สำเร็จมีสูง
ผู้นำชุมชนหรือนักการเมืองท้องถิ่น สามารถใช้เป็นช่องทางในการหาเสียง เช่นพาคนไข้ไปร้องเรียน เป็นการสร้างบารมี ... ถ้าข่าวยิ่งดัง ยิ่งดี
โอกาสที่ฟ้องร้องหรือร้องเรียนสำเร็จก็มาก เพราะว่าเอกสารมักจะไม่ครบ
อย่างการตรวจคนไข้ มีเอกสารสัก10แผ่น ต่อคน พยาบาลมี5คน คนไข้เข้านอนใหม่วันละ20คน ... ดังนั้นต้องเขียนเอกสาร200แผ่น (แล้วใครดูแลคนไข้ฟะ)
ถ้าเป็ฯเอกชน อย่างตอนไปเยี่ยมลุงโอ๋ ... พยาบาล 8 ผู้ช่วยอีกกลุ่มหนึ่ง คนไข้เข้านอนเต็มที่วันละ 5 คนต่อward เอกสาร 50 แผ่น ช่วยกันเขียน10คน คนไข้ก็ไม่ค่อยหนัก (หนักนิดนึงก็ไปไอซียู ... ในขณะที่เป็นโรงพยาบาลรัฐ ไม่มีไอซียูแล้วเพราะเต็ม)
ดังนั้นใครคิดจะฟ้องหมอ เลือกฟ้องโรงพยาบาลรัฐบาล แล้วเลือกเอาโรงพยาบาลที่มีหมอน้อยๆและหมอใจดีๆ จบใหม่ๆจิตใจงดงาม จะฟ้องได้สำเร็จ