ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องคำผวนแล้ว
ก็ฝากไว้ให้อ่านแล้วกันนะครับ
กะว่าจะเอามาให้อ่านตั้งนานแล้ว แต่ลืม
วรรณคดีปกปิด
"สรรพลี้หวน"สรุปความน่าสนใจและความเป็นไปเป็นมาดังนี้นะครับ
ตามที่ได้พยายามรวบรวมมา
สรรพลี้หวน ไม่ทราบว่า ผู้ใดแต่ง แต่เชื่อกันว่า นี่คือผลงานเป็นวรรณกรรมชิ้นหนึ่ง ของเมืองนครศรีธรรมราช
กล่าวว่า มีผู้พบต้นฉบับที่วัดพระบรมธาติ บ้างก็ว่าน่าจะแต่งเมื่อปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา
บ้างก็ว่า พ.ศ.2425-2439 หรือประมาณ 80-90 ปี มาแล้ว
และมีเรื่องเล่าพิสดารออกไปอีกว่า เมื่อแต่งเสร็จแล้ว (หรือไม่ทันเสร็จ) ผู้แต่งได้รากเลือดตาย
เท็จจริงอย่างไรไม่ขอยืนยัน
สรรพลี้หวน อ่านแล้วจะทำให้รู้จักปัญหาของตัวเองดีขึ้น คือ จะทำให้รู้ว่า เป็นคนแบบไหน มีอารมณ์ขันหรืออารมณ์ขื่น
สรรพลี้หวน จะอ่านแบบ fiction หรือ non-fiction ได้ทั้งนั้น ถ้าอ่านแบบ fiction ก็คืออ่านแล้ว ห้ามผวน
ถ้าอ่านแบบ non-fiction ก็คืออ่านแล้ว ผวน หาความรู้ทางภาษาศาสตร์ได้ตามอารมณ์
รากเหง้าอันสุดยอดของภาษาชาวสยาม แต่เดิมนั้นใจกว้างเสมอ
สรรพลี้หวน จะพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้อ่านนั้น เห็นแน่จริงในเรื่อง วัฒนธรรมดา
(วงเล็บภาษาอังกฤษหน่อยก็ได้ว่า Ordinary Culture)
มันผู้ใดก็ตาม "เอื้ออาทร" มันผู้นั้น ต้องรู้จักมีอารมณ์ขัน!
ตั้งใจว่าจะจัดหน้าให้วสวยๆ แล้วเอามาแปะไว้ ไม่เอาดีกว่า ไปอ่านจากเว็บอื่นก็แล้วกันครับ
search จาก google แล้วก็มีอยู่หลายแห่ง บางแห่งก็เพี้ยนๆ ไปบ้าง มีคำผิดบ้าง
น่าจะเวิร์คสุดก็คงเป็นที่นี่
http://www.pixiart.com/archives/sapleehuan/ลองตามไปอ่านดูครับ คนแต่งแน่มากๆ
ที่บ้านมี ไว้กลับบ้านจะไปรื้อมาโพสให้พอหอมปากหอมคอนะ
พูดถึงร้อยกรองที่เป็นคำผวน
เคยอ่านเจอมาครับ (หนังสือของแม่)
ความว่า..
เคยมีคนสบประมาทสุนทรภู่ว่าเก่งแต่กลอนสุภาพ (กลอนแปด)
พี่แกเลยแต่งโคลงสี่เป็นคำผวนแบบกระแนะกระแหนแดกดันคนพูดไปเลยครับ
แล้วโคลงสี่นั้นก็สามารถอ่านได้ทั้งแบบผวน และไม่ผวนล่ะ