หน้า: 1 ... 81 82 83 84 85 86 87 [88] 89 90 91 92 93 94 95 ... 116
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาฝาก  (อ่าน 541024 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ไปขุด My Maths เล่มเก่าๆมาอ่าน(ฉบับกุมภาปีที่แล้ว) ไปเจอบทความ กฏ 37%  เห็นน่าสนใจดี เลยไปหาก๊อปจากเน็ตมาแบ่งปันครับ

เรื่องราวความรักกับคณิตศาสตร์


   
        มีสถานการณ์มากมายในชีวิตประจำวันที่เราจะต้องไตร่ตรองใคร่ครวญให้ดี ก่อนจะเลือก เรื่องของความรักและการแต่งงานก็เป็นหนึ่งในนั้น เราคงไม่ปฏิเสธว่าการแต่งงานเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตซึ่งจะต้องคิดให้ดีๆ หากผลีผลามเกินไปอาจจะได้ Mr. /Miss Wrong แทน Mr./Miss Right ซ้ำร้ายอาจจะเจอกรณี “พบไม้งามเมื่อขวานบิ่น” ให้ช้ำชอกอีก
แล้วเราจะต้องเลือกไปถึงไหนจึงจะเจอ “คนที่ใช่” เมื่อไหร่จะถึงเวลาที่เราควรจะหยุดแสวงหาคนรักคนใหม่แล้ว ตกลงปลงใจกับคนที่ดีที่สุดในขณะนั้น

คณิตศาสตร์มีคำตอบครับ


แต่งงานนะไม่ใช่ซื้อเสื้อ

      สำหรับนักคณิตศาสตร์ ปัญหาการเลือกคู่ ก็คล้ายๆ กับปัญหาการซื้อสินค้า สมมติว่าเราต้องการซื้อชุดสำหรับใส่ไปงานเลี้ยง เราก็ต้องเดินดูชุดจากหลายๆ ร้านก่อนจะตัดสินใจซื้อ เราอาจจะเจอชุดถูกใจในร้านแรกที่เราเดินเข้าไป เราต้องตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ ถ้าตัดสินใจซื้อก็จ่ายเงินให้คนขาย ไม่ต้องไปเดินดูร้านต่อไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็ไปร้านต่อไป อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่จะไม่ตัดสินใจซื้อชุดที่เจอในร้านแรก เพราะเกรงว่าจะเจอชุดที่สวยกว่าในร้านต่อไปแล้วจะมาเสียดายทีหลัง หลังจากที่ได้เห็นชุดจากร้านต่าง ๆ มา “พอสมควร” แล้ว เราจึงจะตัดสินใจได้ว่าจะซื้อชุดจากร้านไหน คำถามก็คือ จำนวนกี่ร้านล่ะจึงจะเรียกว่า “พอสมควร”

      อย่างไรก็ตามปัญหาของการเลือกคู่ก็ไม่เหมือนกับปัญหาการเลือกซื้อชุดเสียทีเดียว การเลือกซื้อชุดสมมติว่า เราไปเดินดูชุดมาสามร้าน ปรากฏว่าชุดในร้านแรกถูกใจเราที่สุด เรายังกลับไปซื้อชุดจากร้านแรกได้ แต่ในกรณีของการเลือกคู่มันไม่ใช่อย่างนั้น มันมีเรื่องของมารยาททางสังคมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เวลาเราคบหาดูใจกับใครสักคน หรือที่เรียกภาษาชาวบ้านว่า “เป็นแฟน” นั้นเราไม่สามารถเป็นแฟนกับหลายๆ คนได้ในคราเดียว เรามีแฟนได้ทีละคน แล้วถ้าแฟนคนแรก ยังไม่ใช่เราก็เลิก แล้วไปคบกับคนใหม่ ถ้าคนใหม่ยังไม่ใช่อีกก็เลิก แล้วก็หาแฟนใหม่ ซึ่งถ้ายังไม่ใช่อีก เราก็ต้องหาคนใหม่อีก ทีนี้สมมติว่าเราเคยมีแฟนมาแล้วสามคน ปรากฏว่าแฟนคนแรกนั้นดูดีที่สุดในบรรดาแฟนทั้งสาม เราไม่สามารถกลับไปเลือกแฟนคนแรกได้ เราต้องเลือกแฟนคนที่สาม หรือไม่ก็หาแฟนใหม่ซึ่งอาจจะดีกว่าหรือแย่กว่าแฟนคนแรกก็ได้

แล้วเราควรจะ “หยุดตรงนี้ที่เธอ ไม่ไปไกลแล้วใจ” กับแฟนคนที่เท่าไหร่?
แนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่นำมาไขปัญหานี้เรียกว่า Optimal Stopping

     เราลองมาใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์จำลองสถานการณ์การเลือกคู่กันนะครับ ก่อนอื่น เราต้องมาทำความตกลงกันก่อนว่า ในบรรดาแฟนทั้งหมดที่เราคบมา ไม่มีใครที่ดีเสมอกัน ดังนั้น สมมติว่าเรามีแฟน N คน เราจะสามารถนำแฟนๆ ทั้ง N คนนี้มาให้คะแนนและจัดลำดับจาก 1 (แย่ที่สุด) ถึง N (ดีที่สุด) สมมติว่าเราได้คบหากับแฟน N คนนี้ในลำดับที่สุ่ม

     ลองกำหนดให้ N = 4 นั่นคือ ได้ผ่านการมีแฟนมาแล้วสี่คน (1 = ดีน้อยที่สุด 4 = ดีมากที่สุด) ลำดับของการคบหาแฟนสี่คนที่เป็นไปได้ทั้งหมดจะมี 24 กรณี ดังนี้




แล้วคุณต้องการหาอะไรล่ะ? หรือถ้าจะพูดจาภาษาคณิตศาสตร์ก็คือ เราจะหาฟังก์ชันจุดประสงค์ (Objective function) ได้อย่างไร

      แบบจำลองที่ง่ายที่สุดของปัญหานี้ก็คือเราจะต้องทำให้โอกาสของการได้แต่งงานกับคนที่ดีที่สุด (คนเกรด 4) นั้นมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

      วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกคู่ก็คือพิจารณาแฟนจำนวน M – 1 คน (M มีค่าตั้งแต่ 1 ถึง N) ที่คบหามา กำหนดไว้ในใจว่าใครดีที่สุดในบรรดา M – 1 คนนี้ ให้ตำแหน่ง “เกือบจะใช่เนื้อคู่” เอาไว้ก่อน

      แฟนคนต่อไปหลังจากคนที่ M – 1 คนแรกที่ดีกว่า เจ้าของตำแหน่ง “เกือบจะใช่เนื้อคู่” นั้นแหละ คือ “เนื้อคู่ตัวจริง” ที่เราควรจะตกลงปลงใจแต่งงานด้วย

      (เหตุผลที่เราใช้ M – 1 ก็คือ M เป็นจำนวนแฟนซึ่งคุณได้คบหาที่น้อยที่สุด จะมีแฟน M – 1 คนที่ให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และแฟนคนที่ M จะเป็นบุคคลแรกที่คุณเลือกที่จะแต่งงานด้วย)

       เมื่อ N = 4 เราสามารถแจกแจงกรณีที่จะเกิดขึ้นจากค่าต่าง ๆ ของ M ได้ดังนี้



       จะเห็นว่าค่า M ที่ดีที่สุดคือ 2 ซึ่งโอกาสที่จะได้แต่งงานกับคนที่ดีที่สุดมีความเป็นไปได้ถึง 11 กรณีจาก กรณีที่เป็นไปได้ทั้งหมด 24 กรณี หากเลือกแต่งงานกับแฟนคนแรกที่คบหา หรือแฟนคนที่สี่ที่คบหา โอกาสที่คุณจะได้แต่งงานกับคนที่ดีที่สุดนั้นมีเพียง 6 กรณีจาก 24 กรณี (หรือโอกาสความน่าจะเป็นของการแต่งงานกับคนที่ดีที่สุดนั้นเป็น 1 ใน สี่ ซึ่งเท่ากับโอกาสความน่าจะเป็นของการเลือก “สุ่มหยิบ” ของหนึ่งสิ่งจากในกองที่มีของอยู่สี่ชิ้น จึงดูเสมือนว่าเราไม่ได้เลือกเลย)

แล้วถ้า N มีค่ามากล่ะ (ภาษาชาวบ้านว่า ถ้ากิ๊กเยอะ หล่ะจะทำไง)

       คุณอาจจะใช้วิธีแจกแจงทุกกรณีที่เป็นไปได้อย่างที่ทำมาแล้วในข้างต้น เมื่อ N = 5 (ลำดับการคบหาแฟนที่เป็นไปได้จะมีทั้งหมด 120 กรณี) และ N = 6 (ลำดับการคบหาแฟนที่เป็นไปได้จะมีทั้งหมด 720 กรณี) หากคุณมีเวลาเหลือเฟือ อย่างไรก็ตามสำหรับ N ที่มีค่ามาก เราคงจะไม่มานั่งแจกแจงทุกกรณีที่เป็นไปได้อย่างนี้ โชคดีที่นักคณิตศาสตร์เขามีวิธีหาค่า M ที่ดีที่สุด สำหรับค่า N ใดๆ โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Optimal Stopping


กฏ 37 %
       แนวคิดของ Optimal Stopping นี้เองที่ทำให้นักคณิตศาสตร์ค้นพบ “กฏ 37%” - ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน ให้พิจารณา 1/e หรือ 37 เปอร์เซ็นต์ของแฟนทั้งหมดก่อน แล้วคุณจะมีโอกาส 1/e ที่จะได้แต่งงานกับคนที่ดีที่สุด (1/e มีค่าประมาณ 0.368)

      กฏ 37% นี้ได้ถูกนำมาใช้ในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานด้วย สมมติว่า มีผู้สมัคร 100 คน หลังจากนายจ้างได้พิจารณาผู้รับสมัครไปแล้ว 37 คน ก็จะมีข้อมูลเพียงพอที่จะเกิดมโนภาพของ “ผู้ได้รับการคัดเลือก” นั่นคือ ใครก็ตามที่มีคุณสมบัติดีกว่า 37 คนนี้ก็จะได้รับการคัดเลือก

       แนวคิดเดียวกันนี้สามารถนำไปใช้กับสถานการณ์ปัญหาอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกร้านอาหาร เนื่องจากเวลาอันจำกัด และความหิว คุณก็อาจจะประมาณจำนวนร้านที่คุณจะได้ผ่านว่า 7 หรือ 8 ร้าน ซึ่งในกรณีนี้คุณจะต้องพิจารณา 2 หรือ 3 ร้านแรกก่อนที่จะตัดสินใจเลือก จึงจะได้ร้านที่ดีที่สุด

       กลับมาที่เรื่องแต่งงาน ถ้าจะต้องการจะหาคำตอบว่าเมื่อไรจึงจะพบ Mr. / Miss Right คงต้องประมาณจำนวนคนที่จะได้คบหาเป็นแฟนทั้งหมดก่อน สมมติว่า ในชีวิตนี้คาดว่าจำนวนแฟนที่คบหาน่าจะเป็น 10 คน เมื่อได้พิจารณา 37% ของ 10 คน จึงจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจแต่งงาน 37% ของ 10 มีค่าประมาณ 4 นั่นคือ “เนื้อคู่ตัวจริง” คือแฟนคนแรกที่ดีกว่า แฟนคนที่หนึ่ง แฟนคนที่สอง และแฟนคนที่สาม

ถ้าหากผู้ใดข้องใจว่า คนที่เรากำลังคบน่าจะเป็น “คนที่ใช่” หรือยังหนอ ลองใช้กฏ 37% ดูก็ไม่ผิดกติกา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ก.พ. 2008, 00:32 น. โดย EaRthCh!E* » บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
คิดทำไม้
ถูกใจก็แต่ง
ไม่ถูกใจก็หย่า

ง่ายจะตายชัก หมีโหด~
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
หาให้ได้อ่ะ ยากที่สุด
บันทึกการเข้า
หาให้ได้อ่ะ ยากที่สุด
เอ๊อ  โวย
บันทึกการเข้า
ยาวเหลืิอเกิน อ่านแล้วตาลาย  เอือม
บันทึกการเข้า

อันนี้เคยอ่านจากหนังสือตอนเด็กๆไม่รู้จริงหรือเปล่า
      เคยเห็นอนุเสาวรีย์ของบุคคลสำคัญที่เค้าขี่ม้านะ

มีใครสังเกตุณ์ตรงขาม้าไม่ ว่า บางรูป ยก ขาหน้าข้างเดียว บ้างยก 2 ข้าง แล้วก็มีแบบยืนเฉยๆ
      ความหมายคือ ม้ายกขา 2 ข้าง หมายถึง บุคคลบนหลังม้านั้น ได้เสียชีวิตในสงคราม
                          ส่วนข้างเดียว หมายถึง บาดเจ็บมา แล้วเสียชีวิตที่บ้าน
                           ส่วนม้ายืนเฉย หมายถึง ตายด้วยเรื่องอื่น ไม่เกี่ยวกับสงคราม เช่น แก่ตาย
         ข้อมูลจากหนังสือหนูจ๋า เมื่อหลายปีก่อนนะครับ อาจไม่ใช่หรือเป็นเรื่อง อำก็ได้ กร๊าก
บันทึกการเข้า

สมาชิกสมาคมพ่อบ้านทหารบก
คุ้นๆ ลืมไปแล้วนะเนี่ย เคยอ่านเจอที่ไหนไม่รู้จนลืมไปแล้ว  (แจ๋ว แจ๋ว)
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
นั่นน่ะสิ เหมือนเคยอ่านบ่อยมากแต่นึกไม่ออกว่าอ่านจากไหน ง่ะ
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
จากใหญ่โคตรจนมานาโน

http://www.nikon.co.jp/main/eng/feelnikon/discovery/universcale/nano.swf
บันทึกการเข้า

รับงานถ่ายภาพ
www.rpash.com
ได้ความรู้ดีครับ
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
สนุกด้วย กรี๊ดดดดด
(มาถึงฟิโกต่างหาก ไม่ใช่นาโน)
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
เรื่องม้ายกขานี่เพิ่งรู้  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

http://www.straightdope.com/classics/a5_074.html
จากอันนี้ เห็นว่าไม่จริงครับ ในนั้นจะบอกไว้ชัดว่า ถ้าเป็นของคนที่ตายในสงครามกลางเมืองสหรัฐ มีที่ไม่ตรงกันหลายคนมาก

เช่น
Major General Phil Kearny ตายในการรบCivil war ของUSA
"Kearny ignored a demand to surrender and while attempting to escape, a single bullet penetrated the base of his spine, killing him instantly"


หรือถ้าจะบอกว่าเพราะเป็นบุคคลที่ไม่สำคัญ
งั้นต้องมาดูอันนี้ครับ
พระเจ้าหลุยส์ที่14 ของฝรั่งเศส ประชวรจนสิ้นพระชนม์
และนี่คือรูปอนุสาวรีย์

ยกสองขา

ยกขาขวา

ยาขาซ้าย
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
 ปลื้ม เจ๋งเลยครับหมอแมว
บันทึกการเข้า

รับงานถ่ายภาพ
www.rpash.com
 เจ๋ง หมอแมวเจ๋งครับ

ผมยิ่งเชื่ออะไรง่ายๆอยู่ด้วย ดีครับที่มาบอกทันที  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 81 82 83 84 85 86 87 [88] 89 90 91 92 93 94 95 ... 116
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!