ถ้าถามพี่นี่ พี่คิดว่าน้องยังครองสติไม่อยู่นะครับ พี่เคยเป็นบ่อยมาก แบบข้อนี่เสร็จ ตู เต็มชัวร์
ออกมาได้ครึ่งนึงงี้ บางทีไม่เต็มเพราะไม่ได้ดูว่าเค้ากำหนดให้ค่าโน่นค่านี้เป็นเท่านี้
พี่แก้โดยการทำตัวเหมือนสอบจริงก่อนสอบครับ อันที่ผิดพลาดตอนซ้อม พอถึงเวลาสอบเราก็จะไม่
พลาดคับ น้องจากน้องจะซาดิสม์ ชอบเจ็บแบบซ้ำๆๆ
เรื่องสมาธิพี่ก้อบอกลำบากนะ ถ้าน้องไม่รู้จิงๆ จะนั่งยังไงนั่งไปทำไม พี่แนะนำให้น้องไปทำอะไรก้อได้
ที่ทำให้น้องไม่รู้สึกฟุ้งซ่านเวลาทำอะไรที่มันสำคัญๆ นั้นแหละครับสติ ของพี่ชอบเข้าห้องสอบช้าซัก
สามสี่นาทีครับ แบบรวมพลังแล้วเดินไป ก้อซัดข้อสอบเลย
เรื่องเพื่อนน้องที่ไม่อ่านแล้วได้คะแนนดีเนี่ย บางทีมันอยู่ที่ระบบการคิดของแต่ละคนครับ
พี่ว่าปัญหาไม่ได้อยู่กับน้องอ่านได้เยอะเท่าไหร่หรอกครับมันขึ้นอยู่กับ น้องเข้าใจและประยุกต์ได้แค่ไหนมากกว่า
ตอนพี่เอนท์ พี่อ่านหนังสือสำหรับเอนทรานซ์ สองอาทิตย์เอง เป็นช่วงที่พี่ทำโจทย์นะครับ และอ่านหนังสือแบบจริงๆจังๆ
** ตอน ม.หก เรียนที่โรงเรียน + ทำกิจกรรมก็เวลาไม่พอแล้ววครับ อย่างมากได้อ่านอาทิตย์ละไม่เกินสี่ชั่วโมง
พี่แบ่งแบบนี้ วิชาไหนที่คิดว่าอ่านเองไม่ได้หรือว่าไปเรียนแล้วดีกว่า ไปตะลุยโจทย์ เช่น ไทยสังคม เคมี
พวก อังกฤษ ชีวะ อันนี้มันบุญเก่าครับ ไปเรียนไปตั้งใจตอนท้ายๆไม่มีผลหรอกครับ
น้องต้องสม่ำเสมอกับมัน แล้วเวลาใกล้สอบผลลัพธ์มันจะดีเองครับ
ฟิสิกส์เลข อันนี้พี่ชอบ พี่ก้อทำมันไปเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่ตอนใกล้สอบนี่ ทำข้อสอบได้สี่ปีครับ
เพราะเวลาไม่พอ จำได้ว่า ทำของปีล่าสุดเสร็จ นอนแล้วก็ตื่นมาสอบเลย
อันนี้ก็มาโม้ให้ฟังครับ ไม่ต้องทำตามหรอกครับ แต่พี่อยากให้น้องนำไปปรับให้เหมาะกับน้องมากกว่า
น้องไม่ต้องเสียใจหรอกนะครับ ว่าขยันไปก็สู้พวกเก่งๆแต่ขี้เกียจไม่ได้ ตอนมหาลัยน้องจะได้รับผล
ที่น้องขยันมาเองครับ พวกเก่งแล้วขี้เกียจเข้ามหาลัยมาถ้าปรับตัวไม่ได้ก็เสร็จหมดแหละครับ