แปรรูปไปแล้ว ค่าโดยสารจะแพงขึ้น ยิ่งเป็นประเทศเราด้วย ถ้าแปรรูปไปเป็นเอกชน นายทุนก็จะเข้ามาครอบครองแสวงหาแต่ผลกำไร แล้วไม่ยอมพัฒนาให้ดีกว่าเดิม
ด้าน นายสุพิเชษฐ์ สุวรรณชาตรี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ กล่าวว่า ในวันนี้สหภาพฯ ได้เปิดเวทีประท้วงและชี้แจงการหยุดงานให้แก่ประชาชนได้รับทราบ โดยมีการตั้งเวทีบริเวณ ที่ทำการสหภาพฯ ข้างสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปตามมติของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ให้สหภาพฯ ทุกสาขาร่วมกันเคลื่อนไหวคัดค้านการแปรรูป ร.ฟ.ท.ดังกล่าว โดยมีการจัดทำข้อมูลความไม่ชอบมาพากลทั้งหมดรวบรวมไว้ในสมุดปกแดง
“หากมีการแปรรูปรถไฟแล้ว ผู้ที่จะได้รับผลกระทบก็คือประชาชนผู้โดยสาร เนื่องจากจะต้องจ่ายค่าโดยสารเพิ่มขึ้น และมีกรณีศึกษามาแล้วว่าการแปรรูปรถไฟไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยแท้จริง เช่น ที่ประเทศอังกฤษ หลังจากการแปรรูปแล้วการให้บริการของรถไฟก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้ดีขึ้นตามที่ต้องการ แต่ประชาชนกลับต้องจ่ายค่าโดยสารเพิ่มขึ้น”
นายสุพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สหภาพฯ ต้องขออภัยต่อประชาชนผู้โดยสารทั้งหมดที่ไม่สามารถใช้บริการรถไฟได้ในวันนี้ ซึ่งการชุมนุมประท้วงคัดค้านการแปรรูป ร.ฟ.ท.สหภาพฯ ทำไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และของประชาชนโดยรวมไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนหลังจากที่มีการแปรรูป โดยตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ การแปรรูป ปตท.ซึ่งขณะนี้เห็นผลชัดเจนแล้วว่าราคาน้ำมันมีแต่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย
“วันนี้อาจมีขบวนรถไฟบางขบวนที่ยังวิ่งส่งผู้โดยสาร แต่ในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) ซึ่งเป็นวันแรกที่ JTEPA มีผล จะมีการหยุดให้บริการรถไฟทั่วประเทศ 100 เปอร์เซ็นต์ จนกว่าจะมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา” นายสุพิเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลในหนังสือปกแดงเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลในการแปรรูป รฟท.หน้า 25 ระบุสาเหตุที่ ร.ฟ.ท.ไม่ได้รับการพัฒนาและประสบกับปัญหาการขาดทุนจนต้องมีการแปรรูปเนื่องจากรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาปล่อยปละละเลย ไม่มีความจริงใจสืบทอดพัฒนา ร.ฟ.ท.ให้บรรลุพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 5 รัฐบาลไม่ส่งเสริมลงทันสร้างทางคู่ให้ทั่วประเทศ และไม่ขยายเส้นทางที่จำเป็น เช่น ภาคใต้ จาก อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฏร์ธานี ถึง ต.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต ทางสายเหนือ เด่นชัย-เชียงราย สายตะวันออกเฉียงเหนือจากชุมทางบัวใหญ่-นครพนม
นอกจากนี้ รัฐบาลกลับไปลงทุนสร้างถนนหลวงให้รถยนต์ทุกชนิดมาวิ่ง ทำให้ประชาชนต้องใช้จ่ายเงินค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุให้ประเทศขาดดุลทางการค้า เกิดปัญหาอุบัติเหตุ มลพิษ นำไปสู่ปัญหาโลกร้อน รวมทั้งรัฐบาลไม่จ่ายเงินชดเชยให้ตรงเวลาตาม พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 มาตรา 43 ทำให้ ร.ฟ.ท.ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ทุกปีปีละประมาณ 1,800 ล้านบาท และยังไม่จ่ายเงินต้น เช่น ขณะนี้รัฐบาลค้างเงินชดเชย ร.ฟ.ท.ถึง 23,000 ล้านบาท แต่กลับกันผู้บริหาร ร.ฟ.ท.กลับไปขออนุมัติ ครม.กู้เงิน 5,015 ล้านบาท แทนที่จะให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย เป็นต้น
ปล.สนใจหนังสือปกแดงมั้ยครับพี่
ปอ.แต่ก็ไม่น่าหยุดการเดินรถเลยนะ ผู้โดยสารเดือดร้อน ส่วนที่ประท้วงก็ประท้วงไป ส่วนที่ยังทำงานอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็ทำกันไปก่อน
ปฮ.ลองติดตามข่าว รอให้ฝ่ายต่างๆมาให้ข่าวชี้แจงดีกว่าครับ