หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมต้องเรียนออกแบบ?  (อ่าน 143712 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ครับ ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
อุ๊กับจินนี่ตอบเจ๋งมากเลย ตามนั้นล่ะครับ
ชัดเจน เห็นด้วย ถูกทุกข้อ เจ๋ง
เหตุการณ์ตอนติวก็ตามที่จินนี่ว่าครับ ละเอียดด้วย


คำถามที่ว่า"ทันมั้ยพี่"  คงไม่มีใครเขาตอบกัน
ถามวินมอไซค์อาจได้คำตอบ แต่ถามพี่ติว
ที่ไหนก็คงตอบด้วยรอยยิ้มเหมือนกันทั้งหมด
ที่ยิ้มนี่ เพราะไม่รู้ไง ไม่มีใครรู้จริงๆหรอก ว่าทันไม่ทัน

จริงๆรุ่นเราคนที่ติดคะแนนสูงสุดเป็นสาวพิดโลก
ก็ไม่เคยติวอะไรเลย เด็กมัธยมธรรมดานี่แหละ
ไม่เคยเข้ากรุงเทพ แถมตอนนั้นไม่มีข้อมูลทางเน็ตให้อ่าน
อ่านเอาจากหนังสือเพื่อนติวอย่างเดียว
(เป็นหนังสือเกี่ยวกับติวสอบศิลปะของสนพ.สิปประภา
แต่มันเจ๊งไปนานแล้ว) เป็นพวกเขียนการ์ตูน เอาแต่อ่านการ์ตูน
มันว่าเอาฝีมือมาจากการ์ตูน คงไม่ต้องบอกว่าฝีมือมันเทพขนาดไหน
ตอนนี้เรียนอิลลัสเตรชั่นอยู่ที่ปารีส (ปารีสจริงๆ ไม่ใช่โรงหนังปารีสตรงโบ๊เบ๊)


แต่นอกนั้นแทบทุกคนก็ติวมาทั้งนั้น มากน้อยตามแต่บุญกรรม
มีทั้งที่เริ่มจากไม่เก่ง มาติวจนเก่ง ทั้งที่เทพมาแล้วก็มาติว
ไม่ว่าใครจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน หรือเทพแค่ไหน
แต่ถามจริงๆว่า ถ้ามันมีอะไรที่ทำให้เรามั่นใจได้อีกหน่อย
อย่างการติว เรื่องอะไรเราจะไม่ติวใช่ไหม
เรื่องอะไรเราจะเสี่ยงอนาคตกับการคาดเดาของเราเอง
คนพวกเดียวที่ไม่ติวคือ คนที่ไม่รู้ว่ามันมี หรือไม่สามารถหาใครติวได้
เช่น อาจอยู่จังหวัดชายแดนลาว นั่นคือเขาไม่มีทางเลือก


ถ้ายังสงสัยว่าควรติวหรือเปล่า
ก็ลองดรออิ้งรูปสักรูป ใช้เวลานานเท่าไรก็ได้ตามใจชอบ
เสร็จแล้ววิจารณ์งานตัวเองซิว่า ที่เราวาดนั่น น้ำหนักครบ 7 ระยะหรือยัง
แล้ว 5 กฎเหล็กของดรออิ้ง โครงสร้าง-น้ำหนัก-ระยะ-แสงเงา-การจัดวาง
มันมีครบในงานเราหรือยัง ถ้าตอบคำถามพวกนี้ไม่ได้
ก็ควรสงสัยความมั่นใจของตัวเองไว้ก่อนแล้วครับ


ไม่รู้จะยกตัวอย่างใคร ยกตัวอย่างตัวเองแล้วกัน
เราก็เคยติวแค่ติว 7 วันของคณะนั่นล่ะ
เนื่องจากก่อนหน้านั้นอยู่ชายแดนตามที่ยกตัวอย่าง
อินเตอร์เน็ตมี ก็เหมือนไม่มี กูเกิ้ลยังไม่มีด้วยซ้ำ
เลยไม่รู้จักเลยว่าเขามีที่สำหรับติวอะไรกัน
มารู้ก็ตอนติวทางการของคณะ ก่อนหน้านั้นก็อาศัย
หนังสือเพื่อนติว ก็วาดไปตามเรื่อง 
จริงๆการติวแค่ 7 วันมันไม่ได้ช่วยให้ใครเก่งขึ้นมาทันตาเห็นอยู่แล้ว
แต่ถ้าผมไม่มาติวนั่น ก็คงไม่รู้ว่าทำยังไงจะเอาฝีมือที่เรามี
มาแปลงเป็นความสามารถในการทำโจทย์ข้อสอบ
ประมาณว่า พี่ติวเขาช่วยเราเอาฝีมือที่เราพกมา
มาแปรรูปให้พร้อมใช้งานสำหรับสอบเข้า


จริงๆก็ไม่ค่อยเล่าให้น้องติวฟังเท่าไร เพราะเดี๋ยวจะมีกำลังใจเกินเหตุ
แบบว่า เนี่ย ติวแค่ 7 วันยังติดเลย แต่ก่อนหน้านั้นดันไม่พูดถึง
ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ ม.1 - ม.4 ในหนึ่งปี 365 วัน
คิดว่ามีวันที่ไม่วาดการ์ตูนอยู่สัก 20 วัน คือตอนนั้นวาด
การ์ตูนส่งไทคอมิก(น่าจะยังมีอยู่นะ) ก็ต้องวาดทุกวัน
อันไหนที่เห็นว่าตัวเองยังวาดไม่สวยก็หัดวาดซ้ำๆ อย่าง วาดมือไม่สวย
ก็หัดวาดมือ วาดวันละสิบมือทุกวันๆ อะไรทำนองนั้น
ดังนั้นที่เห็นวาดไอ้เส้นๆอะไรพวกนั้นได้ในปัจจุบันนี้
ก็ไม่ใช่ว่ามันไหลมาเอง ถ้าเห็นแต่ผลลัพธ์ว่าคนนั้นคนนี้เส้นสวย
เขียนเท่ (ชมตัวเองซะงั้น สมมติเอาว่าเท่ก็แล้วกันนะครับ ผมจะได้จบประโยคได้)
ลองไปดูตอนที่มันนั่งหัวเกรียน(หน้าสิวๆด้วย) วาดรูปทุกวันๆดูสิ
มันไม่เท่เอาซะเลย


อาจจะงง ทำไมต้องวาดการ์ตูนถึงแค่ ม.4 ก็เพราะว่าไอเดียในตอนนั้นคือ
เริ่ม ม.5 ต้องเตรียมเอ็นแล้ว ก็ไม่อยากเลิกเขียนการ์ตูนเรื่องหรอก
แต่คิดว่า แลกกับการห่างจากมันตอนนี้ ปีนึงหรือสองปี
เพื่อที่หลังจากนั้นจะได้อยู่กับมันอีกทั้งชีวิต

มานึกดูตอนนี้ มันก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าจริงๆ

ก็ลองเอาสมการการแลกเปลี่ยนนี้
ไปบวกลบคูณหารกับชีวิตตัวเองดูแล้วกันครับ


แต่ที่แน่ๆ ถ้าเป็นของศิลปากร ความสามารถทางคอม
หรือพอร์ตที่ผ่านมา ไม่ได้ช่วยอะไรเลยตอนสอบ กร๊าก


ถามบักเก้อครับว่า

วงการนี้ มีที่สำหรับคนธรรมดาฝีมือธรรมดาๆหรือเปล่า

ฟังดูเหมือนผมรุ่นใหญ่ รู้เรื่องในวงการยังไงไม่รู้ (เหงื่อแตกพลั่ก)
ผมไม่รู้นะครับ ผมยังเด็กๆอยู่เลย
ก็คงว่าตามที่รุ่นดึกอย่างพี่จอย พี่โก้ตอบไว้แล้วน่ะครับ

อืม ผมเคยคิดเหมือนกันนะครับ เวลาเปิดสมุดโทรศัพท์
เออนะ มันต้องมีคนเป็น Layout Artist สำหรับจัดกราฟิกสมุดโทรศัพท์เหมือนกัน
อยากรู้จักอยากสัมภาษณ์ชีวิตการทำงานเค้าดู คงน่าสนใจมาก
ไม่รู้ซิครับ รู้สึกเคารพคนทำหน้าที่พวกนี้มากเลย

แบบนี้พอจะตอบคำถามของพี่ณตได้ไหมครับเนี่ย




ปล.เอ้อ เฮ้ย ไอ้สามนี่สรุปจะมาทางนี้จริงๆแล้วเรอะ
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
ตาเก๊อออ ใคร้ใครรุ่นดึกหา  โวย
บันทึกการเข้า
คอมพลิเขทมากๆ ดีนะเนี่ยที่เราขายหมา ไม่ได้ทำงานพวกนี้ หมีโหด~
บันทึกการเข้า

"รักอดทนนาน กระทำคุณให้ รักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง... "
                                                            - โครินทร์1 13:7
ตูสิ มารู้เอาว่าโลกนี้มีคำว่า "ติว" ก็ตอนปีหนึ่งเศษๆ เข้าไปแล้ว ง่ะ
ทีแรกไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าอีที่มานั่งหน้าคณะกันทุกวันนั่นมันมาทำอะไรกัน
คิดว่ารอพี่เรียนเลิก จะกลับด้วยกัน ง่ะ


แต่อย่าเอาอย่างนะครับ
เพราะตูจบมาจนถึงวันนี้ยังวาด คน รถ ต้นไม้ อะไรไม่เป็นเลย
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ


แต่พี่แอนวาดม้าสวยนะครับ  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
เป็นจู๋ที่ 2 ที่ตูอ่านทุกตัวอักษร หลังจากจู๋นิทานคำเดียว หมีโหด~

ตูไม่เฉียดมาทางนี้เลย แต่กลับต้องมาทำสายงานนี้เต็มๆ

ทำให้เกิดการสื่อสารค่อนข้างลำบากในการทำงานและบรีฟงานในช่วงแรก (ปัจจุบันก็ยังเป็น)

ถึงขั้นจะหาที่ลงเรียนเสริม แต่แล้วก็ได้คำตอบว่า ตูจะเอาไปทำอะไร...ตูจะออกแบบเอง หรือเพื่อให้เข้าใจชิ้นงานนั้นๆ

หรือแค่อำนวยสะดวกต่อการประสานงาน  สุดท้ายจบด้วยพรแสวงล้วนๆ เพราะตูเป็นแค่นายหน้า


แล้วทำไมต้องเรียนออกแบบ.......

อย่างที่หลายคนพูดว่าต้องทำงานภายใต้เงื่อนไขต่างๆ  ..ก็ถูก

มีเพื่อนตูทำงาน IN House ให้บริษัทฝรั่ง  ทำเสร็จ มันเดินไปให้นายฝรั่งดู แล้วถามว่าโอเค ใช้ได้ไหม เธอชอบไหม

กลายเป็นว่าโดนตอกหน้ากลับมาว่า เธอเรียนอะไรมาล่ะ ทำไมไม่เคารพต่อความรู้ความสามารถของตัวเอง

มาให้ชั้นคนที่ไม่ใช่โปรเฟสชั่นนอลด้านนี้มาตอบเธอ งั้นจะจ้างเธอมาทำไม

ให้ทำงานด้วยความมั่นใจ วิเคราะห์งาน ใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างเต็มที่  แล้วนำมาส่งใหม่


/// ตอนนี้มันเจ๋งมาก กล้าซัดกับลูกค้าในที่ประชุม ขนาดกล้าถามว่าจะเอาสวยถูกใจคนจ่ายหรือว่าจะเอาให้ขายได้โดนใจกลุ่มลูกค้าเคอะ





บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour
ต่อยลูกค้าเหรอ ง่ะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ


เจ๋ง  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ขอบคุณครับ กรี๊ดดดดด

ปล.เอ้อ เฮ้ย ไอ้สามนี่สรุปจะมาทางนี้จริงๆแล้วเรอะ

สามอยากจะไปหลายทางมากครับ แค่มันมาไม่พร้อมกัน อี๋~
เริ่มแรกคือคิดจะเข้าด้านนิเทศศิลป์เลย เพราะว่าจะหาที่เรียนด้านการออกแบบน่ะแหละครับ (ตอนนั้นมุ่งแต่คณะนี้)
่พอหลังๆ สามแอบเกร็งๆ เรื่องติวความถนัด เพราะไม่ได้ไปเรียนซักที อี๋~
ด้วยความที่เห็นรุ่นพี่ที่เข้าคณะนี้ เค้าไปเรียนติวความถนัดแบบขยันสุดๆ และที่เห็นๆคือเรียนกันทุกคน
แต่สามยังขี้เกียจ ประกอบกับ ม.4 ที่เรยนหนักม๊ากๆ เลยลืมเลือนไป จนพ้นมาถึง ม.5 เทอม 2 น่ะครับ ฮือๆ~
แต่ระหว่างนั้น สามก็ทำงานอดิเรกที่ทำมาตั้งแต่ตอนประถมคือวาดรูปเล่นไปเรื่อยๆน่ะแหละครับ
ชอบมาก กรี๊ดดดดด ถ้าว่างก็จะวาดตลอด และก็วาดเพ้อไปเรื่อย
วาดรถยนต์ที่ชอบเป็นหลักๆ ฉากตอนที่รถแข่งกัน เชียดกัน ชนกัน ไม่ก็วาดหุ่น ฯลฯ
ออกแบบตัวอักษรมั่ง ภาพวิวมั่วๆ ห้อง วาดมือตัวเอง (ตอนที่ีไม่ีรู้จะวาดอะไร)
พูดง่ายๆคือ ชอบวาดรูปครับ แต่รู้สึกว่าตอนที่วาด จะวาดเพ้อเจ้อไปเรื่อย ไม่ได้ตั้งจิตอะไรกับมัน ง่ะ
ตอนนี้ ก็ยังคิดจะมุ่งคณะนี้อยู่ครับ และก็จะไปหาที่ติวเป็นตัวเป็นตนด้วย
ต้องขอบคุณพี่เก้อมากครับ เขียนกระจู๋นี้ให้สามได้กลับมาคิดใหม่อีกหลายๆครั้ง

หลังๆสามแอบไปศึกษาหาคณะอื่นที่จบมามันใช้ในอาชีพได้มั่ง
เลยเจอพวก นิเทศศาสตร์ วารสาร อะไรพวกนี้ (เพราะรุ่นพี่ีเค้าแนะนำสามมาเช่นกัน)

ด้วยความที่มีคนแนะนำมาหลายทางหลายแบบมาก ฮือๆ~
พ่อแม่แกก็สนับสนุนทุกคณะ (ข้อนี้สบายใจหายห่วงเลย)
แต่แกอยากให้สามเรียนคณะที่ทำให้สามมีเวลามารับงานนอกแบบที่ทำอยู่นี้อีกด้วย
ก็รู้สึกอยากหาให้เจอว่า เฮ้ย ตูควรจะเรียนอันไหนดี ถามตัวเองก็อยากเรียนหมด แบบนี้ รุ่นพี่ช่วยมาแนะนำดีกว่า

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ จากทุกๆคนครับ
ใครที่สามารถให้คำแนะนำได้ ก็ช่วยเสริมสับเฉือนได้อย่างเต็มที่ เลยครับ
มีประโยชน์อย่างล้นพ้นทุกคำพยัญชนะเลยครับ ไหว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 พ.ย. 2007, 00:24 น. โดย Saa3 » บันทึกการเข้า
เอาเห๊อะ .. จบมาก็เป็นทหาร
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ไม่ๆ สามเรียน รด อี๋~
บันทึกการเข้า
ทำใบหายก็ต้องไปเกณฑ์นะ เจ๋ง
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
แล้วจะได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด ฮี่...
บันทึกการเข้า
หุยยยยย
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!