เขาพระวิหาร

[มังกร]

เมื่อก่อนสมัยที่อังกฤษบุกมาโจมตีพม่า
หรือเมียนมาร์สมัยนี้อะครับ
อังกฤษมาทางเรือทำให้ไปชนกุ้งล้มตายจำนวนมาก
ชาวพม่าหัวใสบางส่วนได้แอบลักลอบขนกุ้งที่ตายมาเป็นเสบียงโดยจะทำการเผาและแจกจ่ายให้แก่ทหารและประชาชนผู้ยากไร้ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงชายผู้นันชาวพม่าได้เรียกดินแดนแห่งนั้นว่า

ย่างกุ้ง

[มังกร]

  ประวัติศาสตร์สดๆ เลยนะ

ไหน เอดิสัน
เล่า มาเลย์
เวียดนาม
เกาหลี

ปาปัวนิวกินี หน่อยสิ

ถ้าคิดว่าผมล้อเล่น งั้นเอานี่อีกเรื่องครับ


เมื่อก่อนคนสยามเรียกดินแดนตรงข้างๆ ที่เพิ่งถูกยึดไปว่า "เขมร"
แต่พอมาถึงยุคล่าอาณานิคมแล้วฝรั่งเศสเข้ามาเบ่งกล้าม จะยึดและเผาทำลายเมืองให้หมด
ชาวบ้านแถบเขมรเดือดร้อนกันมาก ต่างหมดอาลัยตายอยากไม่เป็นทำอะไร
จนมีสตรีผิวขาวผมยาวนางหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
และใช้เรือนกายเป็นเครื่องต่อรองกับทูตฝรั่งเศสคนนั้น (ก็คือยอมพลีกายแลกบ้านแลกเมืองนั่นแล)
จากที่ตอนแรกจะเผายึดเมือง เลยลดหย่อนลงจนกลายเป็นแค่ยึดเป็นเมืองขึ้นเท่านั้น
ชาวเขมรซึ้งใจมากๆ จนเอาชื่อของสตรีนางนั้นมาเป็นชื่อประเทศ
















ว่า กัมส์บูชา

..... เชื่อหมดจด จนมาถึงบรรรทัดสุดท้ายเนี้ยแหละ 

[ชื่อเสียมเรียบ นั้น หมายถึง สยามราบ หรือ สยามแพ้ เข้าใจว่า เป็นชื่อที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่เมื่อไม่นานนี้ (หลังจากที่พันตรีแปลก พิบูลสงคราม ผู้บังชาการกองทัพอีสานและบูรพาในขณะนั้นได้เคยบุกข้ามชายเดนขับไล่ประเทศฝรั่งเศสออกจากดินแดนฝั่งขวาของแม่นำโขง พระตะบอง และเสียมราฐ เหตุการณ์การสู้รบในครั้งนี้ได้ถูกเรียกว่า กรณีพิพาทอินโดจีน หรือ สงครามอินโดจีน) โดยเปลี่ยนจากชื่อเดิมว่า เสียมราฐ (สยามชนะ) เพื่อยกยอชนชาติเขมรที่ครอบครองประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน ปัจจุบันนี้จังหวัดเสียมเรียบเป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะเป็นที่ตั้งของนครวัด สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเสียมเรียบ คือ ปราสาทหินจากอาณาจักรขอม ได้แก่ ปราสาทนครวัด กลุ่มปราสาทนครธม (ตาพรหมและบายน) บันทายศรี บากอง โลเลย พนมบาเค็ง พนมกุเลน บารายตะวันตก (ทะเลสาบเก็บน้ำที่สร้างโดยมนุษย์) เป็นต้น]

จังหวัดเสียมเรียบ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
จังหวัดเสียมเรียบ สถิติ
เมืองเอก:    เสียมเรียบ
พื้นที่:    10,299 กม²
ประชากร:    696,164 (1998)
ความหนาแน่น:    68.1 คน/กม²
ISO 3166-2:    KH-17
แผนที่
แผนที่ของจังหวัดเสียมเรียบ

เสียมเรียบ (Siem Reap) หรือ เสียมราฐ เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ริมฝั่งทะเลสาบเขมรหรือทะเลสาบกัมพูชา มีชื่อภาษาเขมรว่า "โตนเลสาบ" (Tonle Sap) ห่างจากกรุงพนมเปญ314 ก.ม. โดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 5 ชั่วโมง เมืองหลวงของจังหวัดนี้ (เทียบได้กับอำเภอเมืองในจังหวัดของไทย) ก็เรียกว่า เมืองเสียมเรียบ เช่นกัน เมืองเสียมเรียบเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศกัมพูชาโดยในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมนครวัดประมาณ 1,600,000 ค�ชื่อเสียมเรียบ นั้น หมายถึง สยามราบ หรือ สยามแพ้ เข้าใจว่า เป็นชื่อที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่เมื่อไม่นานนี้ (หลังจากที่พันตรีแปลก พิบูลสงคราม ผู้บังชาการกองทัพอีสานและบูรพาในขณะนั้นได้เคยบุกข้ามชายเดนขับไล่ประเทศฝรั่งเศสออกจากดินแดนฝั่งขวาของแม่นำโขง พระตะบอง และเสียมราฐ เหตุการณ์การสู้รบในครั้งนี้ได้ถูกเรียกว่า กรณีพิพาทอินโดจีน หรือ สงครามอินโดจีน) โดยเปลี่ยนจากชื่อเดิมว่า เสียมราฐ (สยามชนะ) เพื่อยกยอชนชาติเขมรที่ครอบครองประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน ปัจจุบันนี้จังหวัดเสียมเรียบเป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะเป็นที่ตั้งของนครวัด สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเสียมเรียบ คือ ปราสาทหินจากอาณาจักรขอม ได้แก่ ปราสาทนครวัด กลุ่มปราสาทนครธม (ตาพรหมและบายน) บันทายศรี บากอง โลเลย พนมบาเค็ง พนมกุเลน บารายตะวันตก (ทะเลสาบเก็บน้ำที่สร้างโดยมนุษย์) เป็นต้น

________________________________________________________________________________________________________

สรุป นครวัด แต่ก่อนก็ของประเทศสยามด้วยงั้นสิ.....
นครวัด ตั้งอยู่ในเมือง สยามแพ้ ....
ประวัติศาสตร์อะไรมัันซับซ้อนจัง

[มังกร]

ให้ๆ ไปซะเลย
อยากได้ก็เอาไปซะ

ผมไม่กรองความคิดตัวเองแล้วก็ข้อมูลนะ
แค่รำคาญการทะเลาะกันไปมาเท่านั้น

[มังกร]

ขุด!!

อยากให้พูดถึงประเด็น เขาพระวิหาร ในตอนนี้ครับท่าทางจะทุลักทุเล 

ก่อนอื่น อยากให้ลองอ่านนี่ดูก่อนนะครับ
เสธ.แดงแกอธิบายเอาไว้เมื่อเดือนก่อนค่อนข้างละเอียด

http://www.sae-dang.com/cgi-bin2/dangBoard/OpenMessage.php?no=42879
http://www.sae-dang.com/cgi-bin2/dangBoard/OpenMessage.php?no=42910

ปล. เว็บผจก. เอารูปแผนที่จากเว็บแกไปลง
แล้วอ้างว่าได้มาจากเว็บแห่งหนึ่งในเขมร
ทั้งๆ ที่ลายมือแกยังติดอยู่ในรูปแผนที่เลย

[มังกร]

แต่คราวนี้ นพดล มัน เอาแผนที่ไหนมาก็ไม่รู้ มันบอกว่า เขาพระวิหารเป็นของเขมรทั้งดุ้น

ตอนนี้แม้แต่ขั้นบันได ก็จะไม่เป็นของเราแล้วหนะสิครับ

http://www.oknation.net/blog/rivermoon/2008/06/18/entry-3

เมื่อคืนดูข่าว เห็นว่าจะมีการทำแผนที่บริเวณเขาพระวิหารร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อเตรียมจัดส่งให้ยูเนสโกพิจารณา

ไม่รู้ว่าผลจะออกมาแนวไหน แต่ที่แน่ๆคงเถียงกันไปอีกซักพัก ต่างคนต่างอ้างสิทธิ์ในการถือครอง คงไม่มีใครอยากแบ่งครึ่งๆด้วยหรอก ผลประโยชน์ทั้งนั้น

แต่คราวนี้ นพดล มัน เอาแผนที่ไหนมาก็ไม่รู้ มันบอกว่า เขาพระวิหารเป็นของเขมรทั้งดุ้น

ตอนนี้แม้แต่ขั้นบันได ก็จะไม่เป็นของเราแล้วหนะสิครับ

ตามที่เสธ.แดงแกว่าไว้ เขาพระวิหารมันไม่ได้เป็นของเรา
ตามคำตัดสินของศาลโลกอยู่แล้วครับ
ถ้าอ่านสองลิงก์ข้างบนดีๆ

จะลำดับเหตุการณ์เขาพระวิหาร
     ปี 2406 เจ้านโรดม พ่อเจ้านโรดมสีหนุ คนปัจจุบัน ในสมัย รัชกาลที่ 4  เขมรไม่ยอมอยู่กับไทย ขอไปอยู่กับฝรั่งเศส
     ปี 2410 ฝรั่งเศสสั่งไทยยกเขมรให้  เป็นการเสียดินแดนครั้งแรกให้ฝรั่งเศส
     ปี 2449 รัชกาลที่ 5  ไทยเสียฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง และ มณฑลบูรพา คือ เขม รเพิ่มอีก คือ เมือง  พระตระบอง-เสรียมราฐ-ศรีโสภณ ให้ฝรั่งเศส
     ปี 2472 รัชกาลที่ 7 กรมพระยาดำรงราชานุภาพ  น้องรัชกาลที่ 5 เป็นรัฐม นตรี  ไปเยี่ยมเขาพระวิหาร  เพราะท่านเป็นนักประวัติศาสตร์  ข้าหลวงฝรั่งเศ สมารับ ซึ่งชักธงชาติฝรั่งเศส มันถือว่ายอมรับ เอารูปไปให้ศาลโลกดู
     ปี 2483 เกิดสงครามอินโดจีน ไทยรบฝรั่งเศส ได้ลาวคือ ไชยบุรี จำปาศักด ิ์ และเขมร เสียมราฐ-พระตระบองกลับมา  โดยมีญี่ปุ่นไกล่เกลี่ย ไทยเลิกรบฝรั ่งเศส เป็นกรรมการยอมรับ  ฝรั่งเศสถูกฮิตเลอร์บุก ขวัญเสียต้องยอมญี่ปุ่นเป ็นกรรมการ ญี่ปุ่นเข้าข้างไทย
     ปี 2484 ไทยประกาศว่า  เขาพระวิหารก็เป็นของไทยแล้ว วันรัฐธรรมนูญ เสื อกญี่ปุ่นบุกไทยพร้อม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเพิร์ลฮาเบอร์
      ปี 2488 ไทยแพ้สงครามโลก  เพราะช่วยญี่ปุ่นรบ  ต้องคืนดินแดนทั้งลาวและเขมรให้ฝรั่งเศส รวมเขาพระวิหารด้วย
      ปี 2490-2500 เขมรเจอ จอมพล ป.นายกรัฐมนตรี ลูกนักเลง เขาพระวิหารไม่ ใช่ของมึง ไอ้เขมร  มันคือของขอม และขอมก็ไม่ใช่มึง แต่คนไทยสร้างให้ขอม ดั งนั้นเขาพระวิหารต้องเป็นของกู  ทหารยุคก่อนไม่หน่อมแน้มเหมือนลูกป๋ายุคนี้
      ปี 2502 เขมรเลยฟ้องศาลโลก อ้าว...เราหาเรื่องเขา แม่ง..เล่นฟ้องศาลโลก จะชวนรบสักหน่อย  ยึดแม่ง...ดื้อๆแบบรัฐกาลที่ 1 เลย
      ปี 2505 ศาลโลกตัดสินเขมรชนะ


คำตัดสินศาลโลก...ที่กรุงเฮกประเทศ เนเธอร์แลนด์ เมื่อ 15 มิถุนายน 2505 มี 3 ข้อ ดังนี้
      1.คะแนนเสียง 9 ต่อ 3
             ปราสาทเขาพระวิหารเป็นเของเขมร
       2.คะแนนเสียง 9 ต่อ 3
             ประเทศไทยต้องถอน ทหาร-ตำรวจ บนเขาพระวิหารและอณาเขตใกล้เคียงออกไปให้หมด
       3.คะแนนเสียง 7 ต่อ 5 ให้ประเทศไทยเอาของมาคืนเขมรที่โยกย้ายไปจากนครวัตร ตั้งแต่ครอบครองเมื่อ ค.ศ.2497
          อนึ่ง...คำพิพากษาทำเป็น 3 ฉบับ
                   ไว้กับศาลโลก 1 ฉบับ ส่งให้ไทย 1 ฉบับ เขมร 1 ฉบับ
                             ลงชื่อ...บี วินิอาสกิ
          (เห็นนามสกุลนี้มาเที่ยวเมืองภูเก็ต หยุดกัดกันชั่วคราว กระทืบแม่งเลย)
         ลูกเมียน้อยจริงๆ ทั้ง 3 ข้อ โคตรพ่อไม่มีเอียงข้างไทยเลย  ดีไม่ยึดเมียคนเฝ้าเขาพระวิหารไปด้วย

ขอเบิ้ลแล้วกันครับ
อันนี้เป็นจดหมายเปิดผนึกของเสธ.แดง
ถึงกระทรวงต่างประเทศ

ถึงกระทรวงต่างประเทศ ประเทศไทยเป็นอณาธิปไตย โดยสมบูรณ์
ตำรวจ-ศาลฎีกา-กกต.-ดีเอสไอ-คตส.-ศาลรัฐธรรมนูญ เจ๊งหมด
เหลือท่าน ต้องแจงเรื่อง "เขาพระวิหาร"

     ม๊อบศร ีษะเกษจะไปรื้อร้านข้างเขาพระวิหาร  ที่ตรงนั้นเขมรไม่เคยว่าไทย   
ไทย-เขมร  แยกกันไม่ออก  คนไทยชายแดนพูดเขมรเป็นทุกคน 
เขมร 46 ปี ผ่านมามันอยู่แค่บนภูเขา ไม่เคยโวยเรื่องดินแดน  มีแต่เราวันนี้โวย
 
      เหมือนชักศึกเข้าบ้าน รัฐมนตรีก็อึมครึม  มีคนเดี๋ยวที่แก้ปัญหาได้   
คือกระทรวงต่างประเทศ  ไม่ต้องเกรงใจรัฐมนตรี เดี๋ยวรบกันแบบปี 2530
กระสุน ปืนใหญ่เรายิงได้ไม่ถึง 3 วัน แนวแตกถึงโคราช จะว่าอย่างไร 
   
ร้านค้าจริงๆ  บริเวรเขาพระวิหารของคนไทยทั้งนั้น  ระบบการเมืองมากดดัน
รัฐบาล  ประชาธิปัตย์ก็ลงมาเล่น  เรื่องแผนที่มีไม่มี  กระทรวงต่างประเทศต้องออกตัวแล้วครับ 
เจรจาอย่างไร  ไม่ต้องกลัวรัฐมนตรี  ผมรู้จักดี  ไม่มีความรู้อะไร
ซื่อสัตย์ชวนแล้วมาซื่อสัตย์นายกฯทักษิณ  นายเห็นรักทุกคน 
เพราะ ออกตัวเต็มที่ เพราะมีความรู้กฎหมาย เพราะบ้านเมืองวุ่นหมด วันนี้ศาลยังเจ๊ง  ต้องช่วยกันแกะ
   
 ท่านนพดลรัฐมนตรีต่างประเทศ  รู้น้อยกว่าข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ   
เขามีวีซ่าอเมริกาเด็กนอก เขาไม่แคร์เมื่อประเทศล่ม เขาก็ไปอยู่อเมริกา 
เพราะผลประโยชน์ซับซ้อน นายกทักษิณก็ไม่แคร์  เขาขึ้นสวรรค์ ลงนรกมาแล้ว
วันน ี้เขาไม่กลัวอะไรในประเทศไทยอีก  เจรจาผลประโยชน์จริงไม่จริงไม่มีใครรู้
แต่กระทรวงต่างประเทศต้องเคลียร์

    วันนี้ประเทศชาติมั่วไปหมด  ศาลฎีกาเจ็งหมายถึงประเทศเจ๊ง
เพราะศาลคือสัญญลักษณ์ของความเป็ประเทศ

    ชาวศรีษะเกษกำลังชักศึกเข้าบ้าน  กระทรวงต่างประเทศต้องเคลียร์ 
เหมือนสงครามช้างเผือก ทำเก่ง พอเขายกทัพมาไม่มีอะไรสู้
   เพราะนักการเมืองไม่ได้ทะนุบำรุงกองทัพ  มีแต่บ้องไฟพญานาค เป็นอาวุธหลัก
    รบกันใครจะรู้ดีเท่าทหาร  เจรจาเพี้ยนนพดลยังหันมาด่าทหาร  ผมยังงง...ด่าทำไม  แปลว่าทหารปากหมา
     เรื่องความมั่นคงของชาติ  รัฐมนตรีต่างประเทศ เจรจาดินแดน  คนข้างกายต้องเป็น
     สมช.
     ทหาร
     กระทรวงต่างประเทศ
    นี่นพดลไปเดี่ยวไมท์โคโฟนที่ฝรั่งเศส "โคตรเท่ห์" ก็มันลูกพี่เขมร
     ดูแค่นี้มวยก็เป็นรองแล้ว
      ปริ๊นส์อ่านเล่นในกระทรวงต่างประเทศ  ก่อนที่สถานฑูตไทยในเขมรจะถูกเผาเป็นครั้งที่ 3 คนของท่านนอนหนาวๆร้อนๆแล้วครับ

[มังกร]

มีคนที่เห็นต่างนะ
_http://www.oknation.net/blog/voranai/2008/06/13/entry-1
_http://www.bangkokbiznews.com/2008/06/19/news_268597.php

ขอแก้ชื่อกระจู๋นะครับ