มาไม่ทัน อยากอ่านความเห็นตี๋เบนซ์ตัวแสบจัง
เอาบทความมาแปะให้พิจารณากันดู ก็เขียนไว้นานแล้ว เหมือนจะเคยเอามาแปะไว้ด้วย
โดยพี่เบิร์ด อ.ธงชัย วินิจจะกุล ผมชอบงานแก
หลุดจากกรอบความคิดหลายๆอย่าง อาจเพราะแกอยู่คนละประเทศกับเรา
เลยสามารถล้ำเส้นได้ในหลายๆเรื่อง (แต่ที่ตีพิมพ์ในไทยก็ต้องเป็นอันที่ไม่ล้ำของไทยล่ะนะ
แต่ถึงยังงั้น เราก็อ่านกันเข้าใจอยู่ดีว่ามันแปลว่าอะไรถ้าไม่มีการเซ็นเซอร์)
เอามาแปะตอนที่สถานการณ์มันสุกงอมอีกครั้ง
พูดถึงแนวคิดเรื่องเส้นเขตแดนในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ก่อนยุคอาณานิคม จนยุคอาณานิคม
การเรียนการสอนประวัติศาสตร์ในแบบเรียน - ลัทธิชาตินิยมเสียดินแดน
ลองค้านข้อเสนอของแกดูครับ จริงๆมีฉบับยาวๆที่เนื้อหาคล้ายคลึงกัน
และประกอบด้วยเชิงอรรถ ข้อมูล หลักฐานยืนยันยาวกว่านี้มาก(ลงในวารสารอ่านเล่มนึง)
“เสียดินแดน” เป็นประวัติศาสตร์หลอกไพร่ไปตายแทน (เพราะ “ไทย” ไม่เคยเสียดินแดน )
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1297151137ชาตินิยมที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ในขณะนี้ก็เป็นผลผลิตของประวัติศาสตร์ราชาชาตินิยมเรื่อง “เสียดินแดน” ปัญหาเขตแดนระหว่างประเทศเป็นมรดกตกทอดจากยุคอาณานิคมอย่างไม่ต้องสงสัย แถมยังมีอีกหลายแห่งรอบชายแดนประเทศไทย ไม่ใช่แค่ชายแดนกัมพูชา ที่ไม่มีทางแก้ตกง่ายๆ หรืออาจคาราคาซังแก้ไม่มีทางหมดสิ้นก็เป็นได้ เพราะรากเหง้าของปัญหามาจากระบบความสัมพันธ์ของรัฐแบบสมัยก่อนไม่ถือดินแดนที่ชัดเจนตายตัว กับความสัมพันธ์แบบรัฐชาติสมัยใหม่ที่ถืออธิปไตยเหนือดินแดนที่ชัดเจนตายตัวเป็นเรื่องใหญ่ เข้ากันไม่ได้
การวางตัวเป็นเจ้าพ่อใหญ่อย่างที่ทำมาค่อนศตวรรษและกำลังทำอยู่ในขณะนี้ อย่างเก่งก็ชนะได้ชั่วคราว แล้วก็ต้องรบอีกครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่ได้ช่วยให้ปัญหาคลี่คลายลงเลยสักนิด และหากจะใช้วิธีนี้คงต้องรบกับเพื่อนบ้านทุกด้ายตลอดแนวชายแดน เพราะมีปัญหาทั้งนั้น
การป่าวร้องว่าเขตแดนเป็นมรดกตกทอดจากยุคอาณานิคม เราจึงต้องไม่ยอมรับแผนที่ฝรั่ง ศาลฝรั่ง เขตแดนแบบฝรั่ง และจึงชอบธรรมที่จะไปเอาดินแดนคืนมา นี่เป็นเหตุผลแบบราชาชาตินิยมวิปลาศแบบสุดๆ คือ ถือว่าไทยยังเป็นเจ้าพ่อที่อ้างความเป็นใหญ่และเป็นเจ้าของดินแดนที่ไม่เคยเป็นของตน นี่ก็เป็นผลผลิตของประวัติศาสตร์ราชาชาตินิยมตัวพ่อ
คนที่กล่าวหาว่าคนอื่น “โง่” 3-4 ชั้นหลงตามฝรั่งในเรื่องเส้นเขตแดนจนเสียดินแดนให้เขมร คือพวกเกลียดตัวกินไข่ เพราะ ชาติ ชาตินิยม อธิปไตยเหนือดินแดนแบบที่พวกเขาโฆษณาชวนเชื่ออยู่ ล้วนเป็นของที่ไทยรับเอามาจากฝรั่งทั้งนั้น ในเมื่อเราหลีกไม่พ้นที่จะต้องอยู่กับมาตรฐานความสัมพันธ์กันแบบรัฐชาติสมัยใหม่ที่เริ่มมาจากฝรั่ง เราก็ควรรู้เท่าทัน รู้จักปรับตัว ไม่งมงายไปกับชาตินิยมหรือประวัติศาสตร์อันตรายอย่างการ “เสียดินแดน”
ผมว่าเป็นข้อเสนอที่ค้านกับแบบเรียนสิ่งที่เราเรียนมาแบบคนละด้าน
คำว่าสิ่งที่เราเรียนกันมา หมายความอีกอย่างคือ สิ่งที่บรรจุอยู่ในสมองของเรา
อยู่ในความเข้าใจของเรา และกลายเป็นความคิดเห็นที่เราแสดงออกมานั่นเอง
ลองมาโต้แย้งบทความนี้กันดูครับ ผมพยายามลองหาบทความโต้แย้ง หรือที่มีแนวคิดโต้แย้งจากบทความนี้
อย่าง อ.ศรีศักดิ์ นี่อยากอ่านมาก แต่เข้าใจว่าไม่มี ส่วนของแมเนเจ้อนั้น
เจอหลายอัน แต่เป็นด่าว่าที่ตัวบุคคลเกือบจะทั้งหมด หรือไม่ก็ด่าแบบกล่าวถึงชื่อ
และแนวคิดที่ว่าซ้ำซาก แผ่นเสียงตกร่อง ไม่มีอะไรใหม่ แต่ไม่ได้โต้แย้งเนื้อหา
ใครเจอช่วยเอามาให้อ่านบ้างนะครับ ผมไม่ชอบภาวะที่นักวิชาการที่ตัวเองชอบ
เขียนอะไรที่ผมอ่านแล้วชอบใจอีกต่างหากแบบนี้เลย