รายงานข่าวนะครับ เห็นว่าหลายคนยังไม่ค่อยทราบ
ข่าวการเด้ง ผบ.ตร. คือ พต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส(ชื่อพิมยากจริงๆ
) แบบสายฟ้าแลบ ของนายกลำดับที่ 25 แห่งเมืองไทย นายสมัคร สุนทรเวช เป็นที่ฮือฮาต่อตำรวจและประชาชนทั่วไป ทำเอาสำนักพิมพ์ข่าวต่างๆ ประโคมข่าวกันแทบไม่ทัน ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น ขอให้ทุกท่านดูเอกสารนี่ก่อน
เครดิตจาก พันธ์ทิพดอทคอม
เรื่องของเรื่องก็คือ เช้าวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นใบคำสั่งย้าย พต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส จากตำแหน่งเดิมคือ ผบ.ตร. มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายสมัครได้เซ็นใบคำสั่งก่อนที่ตัวเองจะเดินทางออกไปเซอร์เวย์ที่สาธารณรัฐประชาชนลาวเพียงไม่กี่นาที
มองผิวเผิน อาจเหมือนไม่มีอะไร ฟังดูเหมือนย้ายตำแหน่งข้าราชการทั่วไป แต่ความเป็นจริงแล้ว การย้ายไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ก็คือ ย้ายเข้ากรุ รอวันโดนดอง ซึ่งส่วนมากร้อยทั้งร้อยของผู้ที่ถูกย้ายนั้น มักจะโดนฟ้องและตรวจสอบด้วยข้อหาต่างๆ จากคณะกรรมการเฉพาะกิจ (นายวิษณุ เครืองาม ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เรารู้จักกันดี) และมักจะมีตอนสุดท้ายที่จบลงแบบไม่ค่อยแฮปปี้สักเท่าไหร่
สาเหตุของการโยกย้ายนั้น ก็ดังที่เอกสารคำสั่งของทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งไว้
พต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส มีฉายาที่ทางนักข่าวและประชาชนได้ให้ไว้ว่า "มือปราบตงฉิน" เพราะบุคลิกเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ไม่ยอมอ่อนข้อให้คำสั่งของผู้บังคับบัญชาถ้าเห็นว่าคำสั่งนั้นไม่เหมาะสมและชอบธรรม มีผลงานสร้างชื่อไว้มากมาย เช่น การทำลายบ่อนเจ้าพ่อประตูน้ำ เมื่อก่อนท่านชื่อ เสรี แต่ตอนหลังมาเปลี่ยนเป็น เสรีพิศุทธิ์ ด้วยเหตุผลว่าชื่อเก่าไม่ถูกโฉลก เป็นการฟาดเคราะห์ไปในตัว
จุดด้อยที่เห็นเด่นชัดมากที่สุดในการพัฒนาสถาบันตำรวจในครั้งนี้ก็คือ การเซ็นสัญญาเช่ารถให้กับโรงพักทั่วประเทศเพื่อนำไปใช้งาน ไม่มีงบประมาณการเบิกค่าน้ำมันไปให้ด้วย ทำให้รถที่ถูกส่งไปนั้นถูกนำไปจอดทิ้งไว้เฉยๆ ล่าสุดรถที่ถูกส่งไปได้ถูกตีกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 54 คัน ทำให้คณะกรรมาธิการตั้งข้อสงสัยในงบประมาณการเบิกจ่ายที่ตัวเลขค่อนข้างจะโอเวอร์เอามากๆ อาจจะทำให้นายตำรวจมือปราบมาตกม้าตายเอาง่ายๆ เพราะกรณีนี้
โดยส่วนตัวคิดว่าการโยกย้ายครั้งนี้ เป็นการเบิกทางให้กับ ผบ.ตร. คนใหม่ (คุ้นๆว่านามสกุล ดามาพงษ์) และเป็นการเช็คบิล คมช. ไปในตัว ซึ่งเรื่องนี้จบไม่ลง เพราะสุดท้ายก็ยังไม่ได้รับคำยืนยันอย่างเป็นทางการต่อข้อระเบียบปฎิบัติจากนายกรัฐมนตรี(เพราะไปลาวซะก่อน) พอนายกกลับมาก็ห้ามนักข่าวถามถึงเรื่องนี้ด้วย
เอาเข้าไป
ปล. ตอนท้ายเอกสาร เจ้าหน้าที่คงรีบพิมพ์ไปหน่อย จาก"ประธาน" เป็น "ประธาร" ซะงั้น