อย่าหาว่ายุ่งเลยนะ
เท่าที่อ่านมาเข้าใจว่า น้องฝนกรด เจอผลลัพท์จากเหตุการณ์นี้ในทางไม่ดีเยอะมาก โดยเฉพาะจากคนรอบตัว จากคนทางบ้าน
บรรดาเพื่อนๆสนิท ที่เปิดเผยตัว ก็เลยเป็นห่วงและคิดว่า ถ้าลบภาพ อาจจะทำให้เหตุการณ์รอบตัวน้องฝนกรดดีขึ้น
ตัวน้องฝนกรดเองนั้นใจจริงก็อยากให้ลบ เพราะผู้ใหญ่รอบข้างก็ไม่ค่อยสบายใจในภาพนั้น
แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าลบออกไปแล้วมันจะทำให้รูปคดีเปลี่ยนรึเปล่าก็เลยเข้ามาขอคำปรึกษาสมาชิกบอร์ดฟอนต์ผู้ร่วมกรณี
แล้วก็เป็นห่วงว่า เมื่อลบรูปออกไปแล้ว จะเอาหลักฐานที่ไหนไปเอาเรื่องกับ สนพ นั้น ก็เลยมาโพสเชิงปรึกษาพูดคุย
เพื่อนสนิทที่เปิดเผยตัวแต่แรก ก็คือ mootopia
ส่วนเพื่อนสนิทที่ไม่เปิดเผยตัว ก็คือ ขาจร ผ่านมา อะไรนั้น (ไม่บอกชื่อ ก็เลยไม่รู้จะเรียกว่าอะไร)
ในตอนแรก ขาจร ผ่านมา เค้าไม่เปิดเผยตัว ฝนกรดเองก็เลยไม่รู้ว่า เค้าคือใครในตอนแรกแต่ในโพสหลังๆ เหมือน ขาจร ผ่านมา เค้าจะเข้ามาเปิดเผยตัวว่า เค้าคือเพื่อน ฝนกรดนั่นเอง
(จากนั้นป้าก็เดาเอาว่า ตอนหลัง 2คนนี้เลยไปคุยกันนอกบอร์ด ฝนกรดก็เลยรู้ว่าแท้จริงแล้ว ขาจร ผ่านมา คือใคร)
ในตอนหลังฝนกรดก็เลยบอกว่า ขาจร ผ่านมา นั่นคือเพื่อนสนิทอีกคนเรื่องหนังสือ mootopia ยังหาหนังสือไม่ได้ แต่โอะ หาหนังสือมาได้แล้ว
ตามที่ติดตามมา ป้าก็เข้าใจประมาณนี้แหละ
ส่วนเรื่องคุย-ไม่คุยเนี่ย อันนี้ป้าคิดว่า เพื่อนสนิท คงไม่ได้อยู่ด้วยกัน หรือไม่ได้อยู่ใกล้ล่ะมั้ง แล้วก็คงไม่ค่อยโทรคุยกันด้วย รูปการณ์เลยออกมาเป็น คนนี้โพสที คนนั้นโพสที แล้วก็โพสกันที่ความเห็นส่วนตัวของแต่ล่ะคนไม่ได้ตกลงอะไรกันก่อน
ซึ่งอันนี้ป้าก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะบางทีป้าเองเวลาสนิทกับใครมากๆ ก็เผลอคิดแทนเพื่อนเหมือนกัน ประมาณว่าสนิทแล้วเข้าใจแล้วก็เลยเดาว่ามันต้องคิดอย่างนี้ รู้สึกอย่างนี้แน่ๆ
ป้าออกความเห็นงี้ จะเหมือนกวนน้ำให้ขุ่นมั้ยอ่ะ