หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 392
 
ผู้เขียน หัวข้อ: Update!!! คอบอลหลีก  (อ่าน 1480787 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ตั้งจู๋นี้ขึ้นเพื่อ พูดคุย ถึงผลการแข่งขันบอลถ้วยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น พลี(เมีย)หลีก  Fเอครับ ยูโฟ่แช้มเปี่ยนหลีก (พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ ยูฟ่า)
และไทยหลีก(ไทยลีก)

อนึ่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ชวนคอฟุตบอลมาพูดคุยและรายงานผลการแข่งขัน ให้เพื่อน ๆ ทราบ
ปล. การไปคัดลอกข้อมูลข่าวสารจากแหล่งใด กรุณาใส่เครดิต ให้เขาด้วย



ติชม แก้ไข ท้วงติง กันเข้ามาได้ ว่าอยากให้หรืออยากได้การรายงานแบบไหน
จะได้ปรับแก้ไขให้ลงตัวขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 เม.ย. 2008, 11:28 น. โดย ป้าชอย » บันทึกการเข้า

เริ่มต้นด้วยผลการแข่งขันอันสุดมัน สำหรับยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก(ถ้าใครได้ดู)  ปลื้ม


หงส์ลิ่วเชือดปืนเดือด4-2ตัดสิงห์ที่ทุบเฟเนร์ฯ2-0

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเป็นฝ่ายเปิดสนามแอนด์ฟิลด์เอาชนะ อาร์เซน่อล ไปได้ 4-2 รวมผลสองนัดเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3 พร้อมทะยานเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ได้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบสี่ปีหลัง โดยจะเข้าไปพบกับ "สิงห์บูลส์" เชลซี ที่เปิดบ้านบดเอาชนะ เฟเนร์บาห์เช่ ทีมเก่งจากตุรกีไปไม่ยาก 2-0 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบก่อนรองชนะเลิศ (นัดสอง)
วันอังคารที่ 8 เม.ย.51
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 4 - 2 อาร์เซน่อล (อังกฤษ)
(รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล ชนะ 5-3)

    สนาม : แอนฟิลด์

    เกมที่แอนฟิลด์ สองทีมดังของเมืองผู้ดีถึงคราวต้องทำศึกนัดแตกหักหลังเจ๊ากันมาในนัดแรก 1-1 โดยลิเวอร์พูลหันมาเน้นรุกเต็มสูบปรับมาเล่นในระบบ 4-4-2 ใช้งานสตีเว่น เจอร์ราร์ดเป็นปีกซ้ายให้ปีเตอร์ เคราช์ลงบู๊เป็นตัวจริงคู่กับเฟร์นานโด ตอร์เรส

    ส่วนอาร์เซน่อลจัดให้โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ที่ต้องเช็คความฟิตเป็นเพียงตัวสำรองส่งอเล็กซานเดอร์ คเล็บรับบทหน้าต่ำช่วยงานเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ในแดนหน้า

    หลังจากมีการยืนไว้อาลัยให้กับมาติเยอ สเปรงเกอร์สประธานสหพันธ์ฟุตบอลฮอลแลนด์และผู้บริหารระดับสูงของยูฟ่าที่เสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ เกมก็เริ่มขึ้นโดยอาร์เซน่อลเป็นฝ่าย เขี่ยบอลก่อนพร้อมทั้งบุกขึ้นหน้าสร้างความหวาดเสียวให้กับเดอะ ค็อปตั้งแต่หัววัน

    และในที่สุดนาทีที่ 13 ปืนโตก็ระเบิดกระสุนได้จากการทำเกมรุกที่สุดยอด ถ่ายบอลกันเป็นทอดๆกระทั่งเคล็บแทงบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้อาบู ดิยาบี้วิ่งสอดเข้าไปหนีชาบี อลอน โซได้ก่อนจะตะบันมุมแคบระยะแปดหลายัดไส้ทะลุการปิดมุมของโฆเซ่ เรน่าตุงตาข่ายพาทีมเมืองหลวงนำไปก่อนอย่างเร็วจี๋ 1-0

    พอเสียความบริสุทธิ์ เจ้าถิ่นจึงเดินเกมสู้ และนาทีที่ 17 ฟิลิป เซ็นเดรอสก็ถูกจดชื่อในจังหวะฟาล์วใส่เจอร์ราร์ด ถัดจากนั้นเกมก็ออกรูปสูสี แต่ไม่มีจังหวะทำอะไรกันมาก นัก

    กระทั่งนาทีที่ 31 จากลูกโยนทางกราบซ้ายของฟาบิโอ ออเรลิโอที่แฉลบโคโล่ ตูเร่ออกหลังเป็นลูกเตะมุมอีกฟาก เร้ดแมชีนก็ทวงสกอร์คืนมาจากลูกโหม่งระยะไกล 16 หลาของซามี่ ฮู เปียซึ่งเซ็นเดรอสเข้าประกบช้าบอลจึงลอยย้อนศรชนเสาไกลตุงตาข่ายชนิดเชส ฟาเบรกาสที่ยืนคุมเสากระโดดโขกสกัดไม่ถึงทำให้ลิเวอร์พูลตีเสมอเป็น 1-1

    เกมยังผลัดกันรุกรับอย่างสนุกเร้าใจ แต่ถึงนาทีที่ 39 มาติเยอ ฟลามินี่ก็เกิดเจ็บขึ้นมาในจังหวะวิ่งเบียดไปกับเจอร์ราร์ดแล้วกลับมาเล่นต่อไม่ไหว ท็อปกันจึงต้องส่งจิลแบร์โต้ ซิ ลวาลงไปแทนในอีกสามนาทีให้หลัง ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะสิ้นสุดลงไปด้วยผลลัพธ์ 1-1

    เริ่มครึ่งหลังยังไม่ครบนาทีดี หงส์แดงก็มีเสียวเมื่อชาบี้ อลอนโซ่กระดกบอลจากหน้าเขตโทษเข้าไปให้เคราช์ซัลโวระยะ 16 หลา แต่ไม่แรงพอที่จะผ่านจังหวะทิ้งตัวตะครุบของมานูเอล อัลมูเนียไปได้

    เจ้าบ้านยังทำเกมกดดันอาคันตุกะต่อ และนาทีที่ 53 ตอร์เรสก็เลื้อยขึ้นกราบขวาไปจ่ายบอลเข้าเขตโทษโดนวิลเลี่ยม กัลลาสเคลียร์ออกมา ออเรลิโอจึงกระทุ้งสวนเข้าไปแล้วเกือบดีกระทบเคราช์ที่ยืนอยู่แถวจุดเตะลูกโทษเปลี่ยนทิศหลุดกรอบไปอย่างหวุดหวิด

    ลิเวอร์พูลคุมสถานการณ์เอาไว้ได้อย่างเด็ดขาดแล้ว แต่นาทีที่ 59 ปืนโตโต้ขึ้นมาได้เยี่ยมโดยกาแอล กลิชี่บุกขึ้นฝั่งซ้ายไปป้ายบอลเข้าเขตโทษให้เคล็บเข่นอย่างถนัดถนี่ถูกฮูเปียเข้าบล็อคได้อย่างเฉียดฉิว

    อาร์เซน่อลพยายามขยับเกมรุก แต่เจ้าถิ่นบีบพื้นที่ได้ดีไม่เปิดช่องให้ลุยขึ้นมาง่ายๆ กระทั่งนาทีที่ 63 เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ก็สบโอกาสโฉบเข้าเกี่ยวบอลในเขตโทษด้านขวาหนีมาร์ติน สเคอร์เทลได้ แต่จังหวะสุดท้ายยิงมุมแคบเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

    ในที่สุดนาทีที่ 69 สิ่งที่แฟนหงส์ต้องการก็อุบัติขึ้นจนได้จากลูกที่วางยาวมาจากแดนหลังแล้วบอลตกพื้นกระดอนเข้าเขตโทษด้านซ้าย ตอร์เรสจึงโชว์ความร้ายกาจโยกหนีเซ็นเดรอสแล้ววอลเลย์จากระยะ 16 หลาเข้าเสียบเสาไกลอย่างเฉียบขาดโดยที่อัลมูเนียไม่ต้องขยับทำให้เร้ด แมชีนแซงนำเป็น 2-1

    อาร์เซน่อลเปลี่ยนตัวสู้ทันทีในนาทีที่ 71 โดยปล่อยฟาน เพอร์ซี่กับธีโอ วัลค็อตต์ลงไปแทนดิยาบี้กับเอบูเอ้ และเกือบตีเสมอได้ทันควันเมื่ออเดบายอร์ตามไปแปลูกส้มหล่นในเขตโทษสวนทางโฆเซ่ เรน่าได้แล้ว แต่บอลกลิ้งเฉี่ยวกรอบประตูออกไป

    นาที 84 ปืนโตได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ธีโอ วัลค็อตต์ กระชากบอลหนีนักเตะเจ้าถิ่นจากแดนตัวเองไปจนถึงกรอบโทษแล้วเปิดเข้ากลางให้เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ แปโล่งๆตรงจุดโทษตุงตาข่าย

    แฟนทีมเยือนดีใจได้ไม่นานเมื่อนาทีต่อมาหงส์แดงมาได้ประตูออกนำ 3-2 จากจังหวะที่ไรอัน บาเบิ้ล พาบอลเข้ากรอบโทษแล้วโดนโคโล ตูเร่ดึงล้มลงผู้ตัดสินชาวสวีเดนเป่าเป็นจุดโทษทันทีและเป็นสตีเว่น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

    ช่วงท้ายเกมทีมปืนใหญ่ฮึดบุกเต็มกำลัง แต่รูปเกมไม่ไหลเท่าที่ควร กระทั่งช่วงทดเจ็บไรอัน บาเบิ้ลสำแดงเดชด้วยการกระชากบอลผ่าน เชส ฟาเบรกาส เข้าไปยิงประตูตอกฝาโลงให้เจ้าบ้านถล่มเอาชนะไปด้วยสกอร์ท่วมท้น 4-2 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3 เข้าไปรอเจอคู่เชลซีในรอบต่อไป

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
    ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - เดิร์ค เค้าท์, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ชาบี อลอนโซ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด (กัปตัน ทีม) - เฟร์นานโด ตอร์เรส, ปีเตอร์ เคร้าช์
    สำรอง : ชาร์ลส์ อิต็องด์เช่ (ผู้รักษาประตู), ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, อังเดร โวโรนิน, ยอสซี่ เบนายูน, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ไรอัน บาเบิ้ล, ลูกัส เลว่า

    อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลมูเนีย - โคโล ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส (กัปตันทีม), ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, กาแอล กลิชี่ - เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เชสก์ ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อาบู ดิยาบี้ - อเล็กซานเดอร์ เคล็บ - เชยี่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
    สำรอง : เยนส์ เลห์มันน์ (ผู้รักษาประตู), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อเล็กซ็องดร์ ซง, จิลแบร์โต้ ซิลวา, นิคลาส เบนด์ทเนอร์, จัสติน ฮอยต์, ธีโอ วัลค็อตต์

    ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ ฟรอจด์เฟลดต์ (สวีเดน)

    เชลซี (อังกฤษ) 2 - 0 เฟเนร์บาห์เช่ (ตุรกี)
    (รวมผลสองนัด เชลซี ชนะ 3-2)

    สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ (ลอนดอน, อังกฤษ)


    เชลซี รองจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เปิดบ้านที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ กรุงลอนดอนปะทะ เฟเนร์บาห์เช่ ทีมดังจากลีกตุรกี หลังจากที่ เชลซีแพ้ เฟเนร์บาห์เช่ 1-2 ที่ซูกรู ซาราโกกลู ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 เมษายนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก

    อัฟราม แกร้นท์ ผู้จัดการทีมเชลซีส่ง มิชาแอล เอสเซียง ทำหน้าที่แบ็กขวาต่อไป ส่วนแดนหน้าเป็นงานของ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู และ โจ โคล โดย นิโกล่าส์ อเนลก้า ศูนย์ หน้าทีมชาติฝรั่งเศสเป็นตัวสำรอง ขณะที่ ซิโก้ โค้ชคนดังชาวบราซิเลียนของเฟเนร์บาห์เช่ได้ โวลคาน เดมิเรล ผู้รักษาประตูมือ 1 กลับมา หลังจากได้พักในเกมลีกล่าสุด

    ครึ่งแรก นาทีที่ 4 เท่านั้น เชลซีได้ประตูนำ 1-0 อย่างรวดเร็วในจังหวะที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เปิดฟรีคิกจากฝั่งขวาให้ มิชาเอล บัลลัค สอดขึ้นมาโหม่งระยะ 8 หลา บอลพุ่งเสียบเข้า มุมไกลอย่างสวยงาม

    จากนั้นนาทีที่ 8 เชลซีเกือบได้ประตูเพิ่ม เมื่อ ซาโลมง กาลูโยนบอลจากกราบซ้ายให้ โจ โคล ยิงชนเสาอย่างจัง เกมผ่านมาถึงนาที 22 ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ได้ยิงระยะ 25 หลา บอลเหิน ข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

    นาที 23 คาร์โล คูดิชินี่ ผู้รักษาประตูเชลซีบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวา เล่นต่อไม่ไหว โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวออกนาที 25 และเป็น ฮิลาริโอ ถูกส่งลงมาเฝ้าเสาแทน ซึ่งก่อนหน้านี้ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารมือ 1 ของเชลซีก็บาดเจ็บที่ใบหน้าระหว่างฝึกซ้อมเมื่อสุดสัปดาห์ ต้องพักแข้งอย่างน้อย 2 สัปดาห์

    เฟเนร์บาห์เช่ ได้บอล เซมีห์ เซนเติร์ก กองหน้ายิงไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายนาที 30 จากนั้นนาทีต่อมา ทีมเยือนบุกอย่างต่อเนื่อง เดวิด เปิดฟรีคิกเข้ามาในกรอบเขต โทษ ดีเอโก้ ลูกาโน่ เซนเตอร์ฮาล์ฟขึ้นโหม่งบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย

    ช่วงท้ายเกมครึ่งแรก นาที 40 ซาโลมง กาลู ทำชิ่งกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก่อนที่บอลมาเข้าทาง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ยิงไปติด โวลคาน เดมิเรล นายทวารเซฟไว้ได้ จบครึ่งแรก เชลซีนำ 1-0

    มาถึงครึ่งหลัง นาที 46 เจ้าถิ่นลุยเข้าใส่ทันที ซาโลมง กาลู ได้โหม่งในกรอบเขตโทษ แต่ โวลคาน เดมิเรล นายทวารเฟเนร์บาห์เช่ตะครุบบอลไว้ได้ และนาทีต่อมา มิชาแอล เอสเซียง ได้บอลก่อนเปิดมาเข้าทาง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา พลิกตัวยิงไปติด เดมิเรล

    นาที 50 โจ โคล มีปัญหาบาดเจ็บ แต่เขาสามารถเล่นต่อไปได้ เช่นเดียวกับ โวลคาน เดมิเรล นายทวารทีมเยือนบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา ในจังหวะปะทะ ซาโลมง กาลู นาที 52 แต่โวลคาน เล่นต่อไปได้

    อัฟราม แกร้นท์ กุนซือเชลซี เปลี่ยนตัวสำรองส่ง ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ ลงมาเล่นแทน ซาโลมง กาลู นาที 57 และ ซิโก้ กุนซือเฟเนร์บาห์เช่ส่ง มาเตย่า เคซมัน อดีตศูนย์หน้าเชลซี ลงเล่นแทน เคลาดิโอ มัลโดนาโด้ นาที 59

    เฟเนร์บาห์เช่สู้ไม่ถอย อเล็กซ์ มิดฟิลด์กัปตันทีมจ่ายให้ ก็อคเซ็ค เวแดร์สัน ยิงไปติด ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ ตัวสำรองเชลซี ก่อนที่บอลกระดอนกลับมาเข้าทาง อเล็กซ์ โดย แฟร้งค์ แลมพาร์ด พยายามสกัดบอลให้พ้นอันตราย แต่ไม่ได้ผล มาเตย่า เคซมัน ได้บอลก่อนวอลเล่ย์ ข้ามคานนาที 62

    จากนั้นทีมเยือนมีลุ้นอย่างต่อเนื่อง มาเตย่า เคซมัน ได้ยิงในกรอบเขตโทษฝั่งขวาระยะเพียง 6 หลา แต่ ฮิลาริโอ เซฟไว้ได้ นาที 70

    ในช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านมาได้ประตูตอกย้ำชัยจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในนาทีที่ 87 เมื่อ มิชาเอล เอสเซียง แปบอลผ่านมาให้เจ้าตัววิ่งเข้ายิงง่ายๆ ให้ เชลซี เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 รวมผลสองนัด เชลซี เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2 เจอกับ ลิเวอร์พูล ในรอบตัดเชือกต่อไป

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
    เชลซี : คาร์โล คูดิชินี่ - มิชาแอล เอสเซียง, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), แอชลี่ย์ โคล - มิชาเอล บัลลัค, โคล้ด มาเกเลเล่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - โจ โคล, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู
    สำรอง : ฮิลาริโอ (ผู้รักษาประตู), อังเดร เชฟเชนโก้, จอห์น โอบี มิเกล, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, อเล็กซ์, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ, นิโกล่าส์ อเนลก้า

    เฟเนร์บาห์เช่ : โวลคาน เดมิเรล - ก็อคฮาน โกนุล, ดีเอโก้ ลูกาโน่, เอดู ดราเซน่า, ก็อคเซ็ค เวแดร์สัน - เคลาดิโอ มัลโดนาโด้, เมห์เม็ต ออเรลิโอ, คาซิม คาซิม - เดวิด, อเล็กซ์ (กัปตันทีม) - เซมีห์ เซนเติร์ก
    สำรอง : เซอร์ดาร์ คูลบิลช์ (ผู้รักษาประตู), ยาซิน คัคมัค, มาเตย่า เคซมัน, อาลี บิลกิน, อันเดอร์ ตูราซี่, เซลซุค ซาฮิน, อูเกอร์ โบราล

    ผู้ตัดสิน : แฮร์เบิร์ต ฟานเดล (เยอรมัน)

จาก_http://www.siamsport.co.th/25510409-012.html
บันทึกการเข้า

บวก เจ๋ง

หงส์เก่งถ้วยนี้จริงๆ ผมเดาว่าเชลซีจะแพ้ทางหงส์อีก
ปีนฟอร์มมาดีแต่ก็ยังไปไม่รอด
ถ้าผีไม่เจ็บทั้งทีมคาดว่า ถ้วยแชมป์คงไม่หนีไปไหน
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
บวก เจ๋ง

หงส์เก่งถ้วยนี้จริงๆ ผมเดาว่าเชลซีจะแพ้ทางหงส์อีก
ปีนฟอร์มมาดีแต่ก็ยังไปไม่รอด
ถ้าผีไม่เจ็บทั้งทีมคาดว่า ถ้วยแชมป์คงไม่หนีไปไหน

บอลลีก ยกให้ผีครับ

บอลแชมป์เปี้ยนลีก อยากบอกเปรตแดงทั้งหลาย ชัดๆ ว่า

กูไม่กลัวมึง
กร๊าก

แดงแท้มันต้องหงส์ เจ๋ง
บันทึกการเข้า



 ชิ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
สถานการณ์ผีตอนนี้ผมว่า น่าห่วงอยู่เหมือนกัน เป็นห่วงกองหลังครับ

เฟอร์ดินาน เจ็บ อาจจะไม่นานมาก แต่การเจ็บทำให้ขาดหรืออดเล่นในนัดคืนนี้
วิดิช  อันนี้เจ็บนานหน่อย โชคร้ายของแมนยู  ฮือๆ~
น้องบราว อันนี้ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เดี๋ยวเล่นดี เติมดี เดี๋ยวโหม่งพลาด เบียดพลาด โดนคู่ต่อสู้ฉกเข้าไปยิง เศร้า
โอเชีย ผมว่าเขายังไม่นิ่งพอนะ
แกรี่เนวิลล์ อายุเริ่มมากแล้วและเพิ่งหายเจ็บกลับมา ความเก๋าช่วยได้ก็จริง แต่ความฟิตหล่ะ เช่นเดียวกับ กิ๊ก และพอลสโคล์ว (เหงื่อแตกพลั่ก)

ต้องรอดูคืนนี้ ว่าผลจะเป็นยังไง
ยังโชคดีหน่อย ที่คืนโรมา ขาดต๊อตติ  เกย์ออก
บันทึกการเข้า

2 เซ็นเตอร์เจ็บ ลันล้า
...........
เชียร์อังกฤษให้เข้าชิงกันเองก่อน
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
แฟนนิวมาแปะ เกย์ออก
บันทึกการเข้า
ยินดีต้อนรับ เบียร์แฟนนิวคาลเซิล


แฟนนิว ของคิงเคฟ เริ่มกลับเข้าฟอร์ม หลังเบบี้โกลล์ เริ่มยิงประตูได้อีกครั้ง

เมื่อก่อน ตอนโอเวน อยู่หงส์ ผมก็ชอบนะ เร็วดี ยิงคม  เจ๋ง
บันทึกการเข้า

 เกย์ออก/
นิวฯด้วย

ไก่ด้วย ลันล้า/
บันทึกการเข้า

กำลังโหลดข้อมูล .....
ยินดีต้อนรับ เบียร์แฟนนิวคาลเซิล


แฟนนิว ของคิงเคฟ เริ่มกลับเข้าฟอร์ม หลังเบบี้โกลล์ เริ่มยิงประตูได้อีกครั้ง

เมื่อก่อน ตอนโอเวน อยู่หงส์ ผมก็ชอบนะ เร็วดี ยิงคม  เจ๋ง

ใช่ๆ ชอบโอเว่นเหมือนกัน  คม  เจ๋ง
บันทึกการเข้า
ไทยลีกสิครับ นอกจากบอลยังมีมวยแถมให้อีก
คุ้มสุดคุ้มเกินคุ้มแล้ว ไหนจะ ผจก. ลาออก โค้ชหนี

เยี่ยมกันไปเลย  อืมมมมห์
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
เดี๋ยวไปแก้ไขหัวจั่วให้ครับพี่โก้ แต่ มวยนี่ ผมไม่สันทัดจริง ๆ  (เหงื่อแตกพลั่ก)
บันทึกการเข้า

ผมก็แฟนน้องไก่  กรี๊ดดดดด

ซึ่งตอนนี้ฟอร์มตก ไม่คงเส้นคงวาเลยแฮะ  เศร้า
บันทึกการเข้า
ผมว่าฤดูกาลนี้ เอาแค่น้องไก่คงเส้นคงวาไปก่อน
แล้วฤดูกาลหน้า อาจมีการปรับทัพ แล้วฟอร์มอาจจะนิ่งขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้  (อิอิ)
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 392
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!