หน้า: [1]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ใครมีกิ๊ก...มีสิทธิ์ติดคุก 6 เดือน!!!  (อ่าน 2823 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ไม่รู้ว่าช้าไปหน่อยหรือเปล่า... ง่ะ

โดย ข่าวสด วัน พุธ ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551 11:28 น.

กระทรวงการ พัฒนาสังคมฯ เร่งกำหนดคำนิยาม "สามีและภรรยานอกใจ-มีชู้-มีกิ๊ก" ลักษณะใดเข้าข่ายทำร้ายจิตใจตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงใน ครอบครัวบ้าง หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ระบุการกระทำผิดลักษณะดังกล่าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้านเอ็นจีโอจี้พม.เผยแพร่กฎหมายดังกล่าวแจกคู่มือคนทำงาน-ประชาชน

เมื่อ วันที่ 29 เม.ย. นางจิตราภา สุนทรพิพิธ รองผอ.สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่าความรุนแรงในครอบครัว หมายถึง การกระทำใดๆ โดยมุ่งประสงค์ให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ หรือกระทำโดยเจตนาในลักษณะที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพของบุคคลในครอบครัว หรือบังคับ หรือใช้อำนาจครอบงำผิดทำนองคลองธรรมให้บุคคลในครอบครัวต้องกระทำการ ไม่กระทำการ หรือยอมรับการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดโดยมิชอบ

"ดังนั้น กรณีที่ผู้หญิงและผู้ชายถูกสามีหรือภรรยาตัวเองนอกใจโดยไม่เต็มใจ ย่อมถือเป็นการทำร้ายจิตใจด้วย สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมายนี้ได้ โดยโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสำนักงานกิจการสตรีฯ จะเร่งหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อกำหนดนิยามของความรุนแรงด้านจิต ใจให้ชัดเจนว่าต้องมีระดับความรุนแรงอย่างไร หรือส่งผลกระทบกับผู้ถูกกระทำมากน้อยเพียงใด จึงจะเข้าข่ายตามกฎหมายนี้" รองผอ.สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกล่าว

ด้านน.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง เปิดเผยว่าระหว่างปี 2548-2550 พบว่ามีผู้หญิงปรึกษาปัญหาความรุนแรงในครอบครัว 3,496 กรณี ส่วนใหญ่ประสบปัญหามากกว่า 1 กรณีและมักเก็บเงียบ บางรายกลายเป็นผู้ต้องหา พยายามฆ่า หรือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาในที่สุด โดยแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวมากที่สุด

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อนหญิงและมูลนิธิหญิงไทย ได้จัดเสวนาเรื่อง "ไม่ทุกข์ซ้ำ ฟื้นเร็วด้วยกระบวนการที่เป็นมิตร" โดยเชิญผู้แทนกลไกสหวิชาชีพด้านกระบวนการยุติธรรม สังคมสงเคราะห์ และสุขภาพ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 โดยทุกฝ่ายยอมรับว่ายังมีความสับสนไม่ชัดเจนในการใช้กฎหมาย โดยเฉพาะกรณีที่เป็นการทำร้ายจิตใจ ลักษณะใดจึงจะเป็นความผิดตามกฎหมายนี้ จึงเรียกร้องให้กระทรวงพม. เร่งกำหนดกรอบให้ชัดเจน และจัดทำคู่มือการใช้กฎหมายแจกจ่ายให้กับผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พนักงานสอบสวน จิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ ผู้พิพากษาและประชาชน

เอ้า...งานนี้ใครมีกิ๊ก มีสิทธิ์โดนฟ้องได้ แถมกิ๊ก...ก็โดนได้เช่นเดียวกัน...เหอๆ

ตัวเต็มๆ ของ กม.ฉบับนี้
http://www.krisdika.go.th/lawChar.jsp?head=3&item=3&process=showTitleOfLaw&id=2&group=%A4&lawCode=%A4101&linkID=headLaw
บันทึกการเข้า
 อู้ย..
บันทึกการเข้า
 งั้นเหรอ
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
ทีแรกนึกว่ามุกนะครับเนี่ย  ง่ะ
บันทึกการเข้า
 ไอ้มืดหมี เอาจริงดิ
บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข
คำว่าทำร้ายจิตใจนี่
ยกระดับของคำว่าหมิ่นประมาทขึ้นมาอีกนะครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
 กรี๊ดดดดด ไม่แต่งก็ไม่ผิด
บันทึกการเข้า
แนวคิดก็ดีนะ แต่มีแนวทางปฏิบัติที่ปฏิบัติได้จริงและง่ายต่อการตรวจสอบหรือเปล่า
ตอนนี้ แค่คดีการกระทำทารุณต่อเด็กและสตรี ที่ออกแนวทางมาให้ทำ ก็เป็นแนวทางในฝันที่ไม่ได้นึกถึงคนที่ปฏิบัติงานจริงเลย  ไม่ล่ะ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
หน้า: [1]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!