หน้า: 1 ... 76 77 78 79 80 81 82 [83] 84 85 86 87 88 89
 
ผู้เขียน หัวข้อ: แด่เด็กมัธยม  (อ่าน 333247 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
วีก็ไม่รู้ว่าวีควรคิดระยะสั้น หรือระยะยาวดี กลัวคิดยาวไปอะไรไม่แน่นอน
แต่ถ้าคิดสั้นๆ คิดเผื่อนิดๆเรื่อยๆ ก็คงเลือกอันนี้แหละค่ะ  ปลื้ม
บันทึกการเข้า
เห็นด้วยว่าให้น้องวีแน่วแน่กับสิ่งที่มั่นใจว่าชอบนะ
นอกจากจะมีความสุขกับสิ่งที่เรียนแล้ว
เชื่อได้ว่าต่อไปก็คงจะมีความสุขกับการทำงาน
เห็นฝีมือวีแล้ว โดนจองตัวแหงๆ กร๊าก

แต่หมอนี่ ถ้าไม่ชอบอย่ามาเรียนเลย
มันหนักมันเหนื่อยมากจริงๆ ถ้าไม่มีใจรักมันยากที่จะทนอยู่นะ
แล้วก็ถ้าเป็นหมอก็เป็นไปตลอดชีวิต ลาออกจากอาชีพหมอไม่ได้หรอก
แต่ฟิวชั่นได้ กับมงกับแมวไรงี้ จะเป็นหมอร่างซูเปอร์ไซย่า
บันทึกการเข้า



ตอนนี้พี่กลับอยากไปเรียนหมอนะ

พยาบาลน่ารักดี  หื่น หื่น
หมอหล่อๆ ก็เยอะ  เกย์ออก
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
คือเวลามีน้องๆ มาถามว่าเรียนคอมพิวเตอร์ดีไหม  กร๊าก
พี่ก็จะแนะนำประมาณนี้

สายงานนี้ต้องอัพเดทตัวเองตลอดเวลา
หยุดค้นคว้าหาความรู้เมื่อไหร่ก็ถอยหลัง
ความรู้ที่เรียนมาและประสบการณ์ต่างๆ
ต้องคอยรีเซ็ทหรือลบทิ้ง ทุกๆ สามหรือสี่ปี
เนื่องจากมันเอามาใช้ไม่ได้อีกต่อไป

ส่วนนึงเพราะสายงานคอมพิวเตอร์
เป็นวิชาความรู้แขนงที่เราเรียกว่า ความรู้เทียม
คือเป็นจริงในชั่วเวลานึงสั้นๆ เท่านั้น

และที่สำคัญคือ วิชาความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์
สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
นั่นคือใครๆ ก็สามารถเป็นนักคอมพิวเตอร์ได้ถ้าอ่านหนังสือออก
และรักการเรียนรู้

ยิ่งเป็นเรื่องโปรแกรมมิ่งด้วยแล้วยิ่งเห็นชัด
อย่างตัวพี่เองเคยมีหัวหน้าเป็นโปรแกรมเมอร์ ที่จบนิเทศ จุฬา เป็นต้น
และเราสังเกตได้ว่า คนที่สร้างนวัตกรรมด้านซอฟท์แวร์ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่
มักจะเป็นคนที่จบมาจากสายงานอื่นทั้งนั้น

แต่กลับกัน เราไม่สามารถเป็นหมอ ได้ด้วยการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
หรือเราไม่สามารถเป็นวิศวกรสาขาอื่นอย่างโยธา หรือเป็นสถาปนิก
ได้ด้วยการเรียนรู้ด้วยตัวเองนะจริงไหม  หมีโหด~

ข้อดีของสาขาวิชาชีพอื่นคือ
คำว่าประสบการณ์สิบปี มันคือสิบปีจริงๆ
อย่างนักออกแบบ หมอ หรือนักบัญชี
ในขณะที่สาขาคอมพิวเตอร์ ประสบการณ์สิบปี
ก็มีแค่สามปีที่เอามาใช้ได้ในปัจจุบัน

นี่เป็นเหตุผลว่า คนจบสายงานคอมพิวเตอร์หลายๆ คน
พออายุมากขึ้น มีครอบครัว มีลูก มีเวลาทุ่มเทให้งานได้น้อยลง
มักจะต้องเฟดตัวเองออกไปทำอย่างอื่น
หรือไม่ก็ต้องไปเป็นเซลล์(เห็นเยอะที่สุด เพราะงานเบากว่า แถมรายได้ดีกว่า)
เพราะไม่สามารถอัพเดทความรู้
เหมือนตอนที่ยังเป็นเด็กๆ
ที่สามารถทุ่มเทเวลาเรียนรู้ได้เยอะกว่าได้

ส่วนตอนเรียน วิชาโปรแกรมมิ่งแทบไม่มีสอน
ต้องหาเรียนรู้เอาเองทั้งนั้น และมีอีกหลายวิชาที่น่าเบื่ออย่างวิชาสถิติ
หรืออย่างวิชาคอมพิวเตอร์กราฟฟิค
ที่เวลาเรียนจริงๆ ปรากฎว่ามีแต่คณิตศาสตร์ปวดหัว
ไม่ว่าจะเป็นฟูเรียร์ ลาปาซ หรือ ดิสครีตแมท
ซึ่งจบมาก็ไม่เคยได้ใช้อีกเลย  กร๊าก

อันนี้แค่เล่าประสบการณ์จริงให้ฟังนะครับ  กร๊าก กร๊าก กร๊าก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 มี.ค. 2011, 02:56 น. โดย ณต » บันทึกการเข้า


เป๊ะ  กร๊าก กร๊าก

แล้วก็ไม่ได้จบออกมาได้เขียนโปรแกรมเมพๆ เปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างที่ฝันนะครับ
ถ้าไปเป็นซารารี่มังแล้วละก็

ส่วนใหญ่ที่จะได้เขียน คือ เว็บที่ต่อกับดาต้าเบส
แล้วทำยังไงก็ได้ให้เอาข้อมูลในดาต้าเบสมาบวกลบคูณหาร เอามาแสดง ให้ถูกใจท่านผู้บริหารสูงลิ่ว  อืมมมมห์
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
มีสายคอมสายนึงที่ค่อนข้างมั่นคงและขึ้นกับประสบการณ์
แต่ไม่ค่อยอยากจะนับว่าเป็นสายคอมเท่าไหร่ มันคอมปลอมๆ ยังไม่รู้
คือไปสาย CMMI ไปเป็นคนตรวจมาตรฐานให้บริษัทต่างๆ(หรือไปเป็นอาจารย์)
เงินดีชะมัดแต่ไม่ใช่แนว ฮ่าๆ ฮือๆ

(วันก่อนพี่ 1 ใน 2 ของเมืองไทยเค้ามาบิ๊วบรรยายให้ฟังแหละ ฮือๆ~)
บันทึกการเข้า


เป๊ะ  กร๊าก กร๊าก

แล้วก็ไม่ได้จบออกมาได้เขียนโปรแกรมเมพๆ เปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างที่ฝันนะครับ
ถ้าไปเป็นซารารี่มังแล้วละก็

ส่วนใหญ่ที่จะได้เขียน คือ เว็บที่ต่อกับดาต้าเบส
แล้วทำยังไงก็ได้ให้เอาข้อมูลในดาต้าเบสมาบวกลบคูณหาร เอามาแสดง ให้ถูกใจท่านผู้บริหารสูงลิ่ว  อืมมมมห์
เป๊ะจริงจัง กร๊าก
บันทึกการเข้า

ชอบโปรแกรมมิ่ง เรียนไฟแนนซ์ ฮ่าๆ ฮือๆ


ตอนนี้เลยกลายเป็น เมเจอร์ ไฟแนนซ์ ไมเนอร์ คอมไซน์ ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
ชอบเรียนคณิตฯ ถนัดด้านตรรกะ ชอบอ่านข่าวไอที ชอบตามโลก เขียนโปรแกรมได้ระดับนึง

ตอนนี้กลายเป็นเด็กคอมไซน์ ที่โคตรเกลียดเลขเลย ฮ่าๆ ฮือๆ (มันเยอะไปอ้ะ ฮือๆๆ)
บันทึกการเข้า

จากเป็นคนไม่ชอบตัวเลข ไม่ชอบเครื่องหมายอะไรเยอะๆ

ตอนนี้ เริ่ม enjoy กับตัวเลขและเครื่องหมายไปแล้ว

เตรียมพร้อมขึ้น core courses ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
จากคนที่เคยชอบเลข เรียนเลข 3 ตัวตอนมหาลัยได้ A หมด
ตอนนี้ดิฟไม่เป็นแล้ว  กร๊าก

หรืออย่างวิชาคอมพิวเตอร์กราฟฟิค
ที่เวลาเรียนจริงๆ ปรากฎว่ามีแต่คณิตศาสตร์ปวดหัว
ไม่ว่าจะเป็นฟูเรียร์ ลาปาซ หรือ ดิสครีตแมท
ซึ่งจบมาก็ไม่เคยได้ใช้อีกเลย  กร๊าก
เคยไปลองนั่งเรียนก่อนลงทะเบียน
เพราะคิดว่าเป็นวิชาที่ว่าด้วยความสวยงามหรือพวกออกแบบกราฟฟิกโดยใช้คอมพิวเตอร์อะไรประมาณนั้น
เข้าไปแล้วเจอแต่ maths หนังสือเรียนมีสมการเกือบทั้งหน้า ลาก่อน  กร๊าก

มีสายคอมสายนึงที่ค่อนข้างมั่นคงและขึ้นกับประสบการณ์
แต่ไม่ค่อยอยากจะนับว่าเป็นสายคอมเท่าไหร่ มันคอมปลอมๆ ยังไม่รู้
คือไปสาย CMMI ไปเป็นคนตรวจมาตรฐานให้บริษัทต่างๆ(หรือไปเป็นอาจารย์)
เงินดีชะมัดแต่ไม่ใช่แนว ฮ่าๆ ฮือๆ

(วันก่อนพี่ 1 ใน 2 ของเมืองไทยเค้ามาบิ๊วบรรยายให้ฟังแหละ ฮือๆ~)
มันคืออะไรเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีงานอะไรแบบนี้  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

ส่วนใหญ่ที่ทำจะเป็นสาย QA แล้วไปเรียนต่ออะครับ

งานที่พี่เค้าทำคือไปตรวจมาตรฐานบริษัท ดูเอกสาร สัมภาษณ์คนทำงาน
แล้วประเมินว่าผ่าน CMMI รึเปล่า
แล้วคือเราเป็นคนไปประเมิน บริษัทก็จะค่อนข้างเกรงใจเรา กินอยู่แบบเทวดามาก ฮือๆ~
งานจะออกแนวเอกสารและตรวจเอกสาร

ส่วนที่ยากคือสอบให้ติดในตอบแรก(ใช้ภาษาอังกฤษ)
และเสียค่าเรียนค่อนข้างแพง แต่คืนทุนไวนะ

CMMI: http://en.wikipedia.org/wiki/Capability_Maturity_Model_Integration
ก็คล้ายๆ ISO แหละ มันมี level ของมัน บริษัทไหนอยากได้งานก็ต้องมี ติดบริษัทไว้
เห็นพี่เค้าบอกว่าอีกหน่อยพวกหน่วยงานรัฐก็จะกำหนด level cmmi ขั้นต่ำที่จะรับงานรัฐได้ด้วย

ปล.ตอนนี้รู้ไม่ละเอียด แต่หลังวันศุกร์จะรู้ละเอียดกว่านี้ เพราะออกสอบ ฮ่าๆ ฮือๆ ยังไม่ได้อ่านเลย จะเริ่มพรุ่งนี้ล่ะ
บันทึกการเข้า

คะแนนโอเนตออกเรียบร้อย

ตอนนี้เข้าสู่ช่วงเลือกคณะ ฮือๆ~

ในใจตอนนี้ ไม่การตลาด ก็ วารสาร

ซึ่งทั้งคู่มีโอกาสติด อยู่ที่ว่าเราจะเอาอะไรไว้ก่อน

เลือกไม่ถูก เศร้า

แต่ไม่ว่าอันไหน ก็มีปัญหาที่เราไม่ค่อยคุยกับคนไม่รู้จักเท่าไหร่
คุยก็คุยได้ แต่ไม่สนิทใจเท่าไหร่ เศร้า




บันทึกการเข้า

"ความรักนั้น...ง่ายดายกว่าที่คิด...ยากเย็นกว่าที่เห็น"
ถ้ากลัวการสื่อสารกับคน เลือกอะไรก็ไม่เหมาะทั้งคู่แหละ
เพราะทั้งสองคณะเรียนเรื่องการสื่อสารกับคนเป็นหลักเลย
แล้วต้องสื่อสารแบบเข้าใจด้วยนะ
แถมยังเป็นคนหมู่มากด้วยนะ

ก็เลือกที่ชอบแล้วก็ตั้งใจสื่อสารกับคนไปเถอะจ้ะ เจ๋ง
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
เดี๋ยวก็คุยได้เองล่ะครับ
เรื่องปัญหาหยุมหยิมในลักษณะนิสัยของเรา
มันจะหายไปเองเมื่อเราต้องเจอกับความจริงของชีวิต
เช่น เงินเดือนกินอยู่เราต้องขึ้นอยู่กับมัน อะไรงี้เป็นต้น  กร๊าก
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
หน้า: 1 ... 76 77 78 79 80 81 82 [83] 84 85 86 87 88 89
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!