คะแนนโอเนตออกเรียบร้อย
ตอนนี้เข้าสู่ช่วงเลือกคณะ
ในใจตอนนี้ ไม่การตลาด ก็ วารสาร
ซึ่งทั้งคู่มีโอกาสติด อยู่ที่ว่าเราจะเอาอะไรไว้ก่อน
เดจาวูอ่ะ
ตอนพี่อยู่ม.6 ก็ลังเลงี้เลย
ต่างกันที่ตอนนั้นพี่ได้โควต้าการตลาดแล้วล่ะ แต่ในใจตอนนั้นคิดว่าอยากเรียนนิเทศจุฬา ไม่ก็วารสาร
ความคิดมากมายมันวิ่งวนในหัวเรา สับสน+แรงกดดันรอบข้าง
ตัดสินใจแบบตัดรำคาญไปว่าเอาโควต้าการตลาดนี่หล่ะ
พอผลคะแนนออก...น่าจะเลือกวารสารนะ (สมัยนั้นให้สอบ2รอบ)
สับสนๆๆ คิดวนไปเวียนมา เถียงกันเองในหัวทั้งวัน
สุดท้ายขี้เกียจคิดไรมาก+แรงกดดันรอบด้านให้เลือกการตลาด เลยเอาโควต้าการตลาด
พอได้เรียนแล้วนึกเสียดาย น่าจะเลือกสิ่งที่ใจอยากมากกว่านะ
การที่จะเรียนในสิ่งที่ไม่ได้อยากจะเรียนมากมันทำให้ความตื่นตัวลดลง ความขี้เกียจมีมากขึ้น ความกระตือรือร้นในการเรียนหายไป ถ้าไม่คุมสติบังคับตัวเองให้รับผิดชอบและตั้งใจกับมันก็มีสิทธิ์เตลิดเปิดเปิงไปมาก ครั้นจะทำมันให้ได้ดีเพราะขึ้นหลังเสือมาแล้วก็ต้องบีบคั้นตัวเองสุดเช่นกัน
ตอนนั้นคิดว่าถ้าได้เรียนในสิ่งที่อยากเรียนชีวิตวัยเรียนคงสนุกกว่านี้
พูดเหมือนผ่านมานาน....(มันก็นานจริงๆแหละ)
ถามนิ้งว่า ชอบเป็นพ่อค้าแม่ค้ารึป่าว? การตลาดมันเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการค้าขาย
เรียนมา4ปี ทฤษฎีทั้งหมดมีไว้เพื่อตอบโจทย์ว่าทำยังไงให้ขายของได้ ทำไงให้มีกำไร ทำไงให้คนซื้อ