หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8
 
ผู้เขียน หัวข้อ: 2012  (อ่าน 36517 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ขุดด้วย
The Day After Tomorโฮ่ ด้วยนะครับชาร์ป  น้องดำ
บันทึกการเข้า

DiggityDaw aka วัวโหดด
ถึงเวลาโลกไม่แตก หัวได้แตกแทนละกันครับงานนี้  กร๊าก

เพราะโดนตบเกรียน งง
บันทึกการเข้า

ใช่แล้วครับ  กร๊าก

งั้นอย่าเรียนเลยหนิง
เรามาเริ่มเสเพล หนีเที่ยว เกรียน ติดยากันเถอะ
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
 กร๊าก กร๊าก กร๊าก
บันทึกการเข้า

มันคงเหมือนปัญหาเรื่องสมัย Y2K อะครับ

แต่ให้เดาจริงคงจะไม่ใช่ปี 2012 แน่นอนครับ

ต้องเป็นปี 2015 ครับ ถึงจะถูก

แล้วโลกก็ถูกทำลายด้วยระเบิด แอนติโปรตรอน ครับ
ตามคำทำนายของ เพื่อน ไม่ใช่ปี 2012

เอ้าว์ หาเร็วสิเคนจิ
บันทึกการเข้า

"...ถ้าสายตาเราชินกับในที่มืดแล้ว คงยากที่จะเพ่งมองโลกภายนอกได้..."
เอิ้ว  โวย
บันทึกการเข้า

<3.
ตามทฤษฎี Chaos ทุกความสับสนวุ่นวายจะเพิ่มถึงขีดสุด และในที่สุดจะกลับสู่ความมีระเบียบเรียบร้อยด้วยตัวของมันเอง

ผ่านกระบวนการต่างๆไม่ว่าจะเป็น การประท้วง  สงคราม  ภัยธรรมชาติ และ บลาบลาบลา

โลกที่แตกอาจจะกลับมาเป็นโลกเดิม เหมือนยุคน้ำแข็ง ของไดโนเสาล่ะมั้งครับ

(หนาวแย่เลย  เกย์แอบ)
บันทึกการเข้า

พี่มันแย่ พี่แพ้น้องฟรัง....5555+

เค้าก็เดากันว่าที่ขั้วแม่เหล็กพลิกคราวก่อนก็ช่วงยุคน้ำแข็งเนี่ยแล่ะครับ

เมืองไทยมันถึงได้ร้องดั่งในปัจจุบัน

พลิกคราวนี้ช้างไทยอาจกลายร่างเป็นช้างแมมมอธนะเอ้า

//แก้คำผิด ผิดแบบความหมายเปลี่ยนเลย  โวย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 พ.ย. 2008, 02:13 น. โดย EaRthCh!E* » บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
สำหรับแอ้ก็เฉยๆ นะคะ
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถ้าได้ยินเรื่องโลกแตกวันนั้นวันนี้ แล้วเชื่อไป จะให้ทำยังไง
โดดงาน กู้เงินไปเที่ยวรอบโลก.. ก็คงไม่มีใครทำอย่างนั้น (หรอกมั้ง..)

แต่เรื่องวิกฤติสิ่งแวดล้อม พลังงาน อาหาร พวกนี้แอ้ว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ในยุคเราค่ะ
ซึ่งตรงนี้ก็คงไม่มีอะไรที่เกิดปุ๊บแล้วโลกแตกปั๊บลงไปทันที แต่อาจจะลำบากกว่า ดิ้นรนมากขึ้น..
แก่งแย่งมากขึ้น อันนี้ไม่เถียง.. แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ในเมื่อมนุษย์เราเองนี่แหละที่ทำทั้งหมดนี่..
เราในฐานะผลผลิตของวิวัฒนาการ ถ้าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว.. ก็คงทำได้แค่ยอมรับและปรับตัวค่ะ..
 ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

ช่ายครับ

ปล่อยธรรมชาติเค้าคัดสรรผู้รอดชีวิตเองเถอะ

อย่าไปฝืนกฎธรรมชาติมันเลย
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
ไม่ได้ครับ วิทยาศาสตร์มีไว้เพื่อรักษาชีวิตของสิ่งมีชีวิตต่างๆด้วยครับ
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
มีคนเอามาแปะยังหว่า?

http://video.mthai.com/player.php?id=23M1226649283M0
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ใครเคยดูหนังที่ชื่อเดียวกะกระจู๋นี้มั่ง
หลายปีมาแล้วล่ะ เสี่ยตาเป็นพระเอก
ตูซื้อแผ่นมาดูอีกรอบ อย่างฮาเลย กร๊าก




เอาข่าวฮือฮาจากเมืองนอกมาให้อ่านกันครับ
เข้าใจว่าน่าจะเหมาะกับคนรักฟอร์เวิดเมลแล้วกลัวนั่นกลัวนี่สารพัดด้วยแหละ


2012 วันสิ้นโลก


จาก http://www.prakard.com/default.aspx?g=posts&t=131396

แอบอ้างจาก: dekzeanza
บางแหล่งก็อ้างน้ำท่วมจาเหตุโลกร้อน
บางแหล่งก็อ้างไบเบิ้ลเพราะพระเจ้ากำหนดมา

  

แต่มีสิ่งที่นึงที่มีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พร้อม เกี่ยวปรากฎการณ์ที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
และถ้าเกิดขึ้นก็จบ... ไม่เหมือนกับ LHC ที่กลัวโอกาสว่าจะเกิดหรือเปล่าเท่านั้น

  

เรื่องนี้คือเรื่อง ดาวปริศานาดวงที่ 12 ของ ระบบสุริยะจักรวาล
ถ้าใครได้พอดูความปี 2002 จะได้ทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ดาวดวงที่ 12 ขึ้นมาอยู่ในระบบกาแล็คซี่เราดื้อๆ
แต่ความเป็นจริงนักดาราศาสตร์รู้จักดาวนี้มาตั้งแต่ป ี 1982 แล้ว
ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตมากช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะผมก็ได้ดูเหมือนกัน
มันคือดาวที่มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru)




และด้วยหลักฐานโบราณวัตถุและนักโบราณคดีได้กล่าวไว้เ นืองๆ ว่า...
สิ่งของที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้เกิดจาก ดาวดวงนี้

  

แต่สิ่งที่เรารับรู้คือเจอดาวเคราห์ดวงใหม่ แล้วก็จบ...
ทำไมถึงกล่าวอ้างเช่นนั้น?

  

ิสิ่งที่เราไม่รู้มันคือสิ่งนี้ครับ....

  

ดาวดวงนี้ทุนเดิมไม่ได้อยู่ในระบบกาแล็คซี่ทางช้างเผ ือกมาแต่เนิ่นๆ อยู่แล้ว
แต่... มีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่นี้

  

แปลว่า... ที่นักวิทยาศาสตร์เห็นเพิ่มมาดวงก็แปลว่ามันโคจรเข้า มาใกล้กาแล็คซี่เราสินะ

  

ถูกครึ่งเดียวครับ ความจริงมันเเข้ามาทับวงโคจรทั้งแถบเลย






อันนี้ใช้เทคโนโลยี้ขั้นสูงในการถ่ายซูมครับ ทำให้รู้ได้ว่า ดาวนี้เป็น ดาวฤกษ์ครับ

  

และทับเข้ามาแค่ไหน

  

เส้นทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ เข้ามาทับเส้นเดียวกับโลกเลยครับ
แปลว่า... มันมีสิทธิชนโลกเราอย่างแน่นอน!!!




รูปนี้คือสมมติฐานครับ



รูปนี้คือเส้นวงโคจรของดาวนิบิรุครับ

  

มันเข้าใกล้มาจริงเร้อ?

  

เส้นทางวงโคจร ทำให้เรารู้ได้ว่าทางเราส่องดาวบริเวณทิศใต้สุดของดา วโลกเราจะเห็น

  

แต่ปัจจุบันนี้ ปีนี้สามารถเห็นได้ด้วยเปล่าแล้ว



(เส้นขาวๆ คือลูกศรชี้ตำแหน่งดาวนิบิรุครับ)

  

และสำหรับคนที่อยากเห็นแต่ไม่มีตังไปออสเตรเลียหรือป ระเทศอะไรที่อยู่ทางใต้ของโลกนะครับ
แนะนำให้ลองใช้โปรแกรม googleSky ดู ท่านจะเห็นเป็นวงแดงๆ อยู่วงเดียวทั้งท้องฟ้า นั่นหละครับ นิบิรุ...

  

แล้วทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับโบราณสถานและวัตถุในอดีตหละ
นักโบราณฯ สันนิษฐานว่า นิบิรุเคยโคจรเข้ามาใกล้ทีนึงแล้วในเมื่อหลายแสนปีก่ อน

  

แต่มารอบนี้ มาเทียบและทาบวงโคจรของดาวนิบิรุ คาดว่ามีโอกาสที่จะชนกันสูง
หรือแม้เฉียดกันก็เกิดอันตราย

  

เพราะแกนของดาวมีสนามแม่เหล็กอยู่ อาจจะทำให้เกิดสภาพอากาศแปรปรวน เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ
เกิดภาวะน้ำขึ้นกระทันหัน เกิดพายุต่างๆ นา

  

และเค้าคาดการณ์ไว้แล้วว่า ปี 2012 เราสามารจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ได้เลย เพราะมันเข้าใกล้เรามากแล้ว

  

ข้อมูลอาจจะยังไม่แน่นพอ เพราะ NASA แม่งปิดข่าว แต่นักดาราศาสตร์ออกมาอธิบายเรื่องทฤษฎีความเป็นไปได ้กันอย่างจ้าละหวั่น

  

ข้อมูลที่ยังขัดแย้งกันอยู่คือ บางแหล่งบอก ดาวฤกษ์ และ อุกกาบาต เพราะขนาดของมันใหญ่กว่าดาวพฤหัส 2 เท่า!!!
(ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบนี้)


ก็หวังว่าในระยะหลังนี้หลายท่านคงตระหนักถึงภัยธรรมชาติที่เพิ ่มและรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าถามถึงกระแสในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้นคำว่าโลกร้อน แต่ ยังมีสิ่งหนี่งที่ผมเองสนใจอย่างยิ่ง คือจุดจบของโลกในปี ค.ศ 2012 ซึ่งเริ่มนับถอยหลังเพียงแค่อีก 3ปีเท่านั้น รายละเอียดต่าง ๆ นั้นค้นหาใน google เอานะครับ ซึ่งมีมากมาย ผมขอสรุปตามที่ค้นหามาได้ดังนี้

  

1.ทางวิทยาศาสตร์ NASA ออกมาบอกว่าสนามแม่เหล็กโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
2.ทางโหราศาสตร์ บ่งบอกว่าจะเกิดการเรียงตัวกันของ โลก กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และดวงอาทิตย์
3.ทางโบราณคดี ชาวมายามีปฏิทินถึงเพียงแค่ปี 2012 และระบุวันจุดจบของโลกไว้
4..ทางการทำนาย นอสตราดามุสได้ทำนายไว้กับราศีตีความแล้วสอดคล้องกับ ทางโหราศาสตร์
5.ทาง UFO ผู้ที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้อ้างว่ามนุษย์ต่างดา วได้บอกเค้า(แล้วแต่ความเชื่อ)
6.ทางควไม่ามคิดผมเอง ศาสนาพุทธและคริส ได้ระบุวันจุดจบไว้แล้วในปี พุทธศักราชและคริสศักราช

  

ว่า จะทางใด ดูจากหลาย ๆ ทางแล้วชี้ไปในปีเดียวกัน ความเชื่อมั่นกับสิ่งที่จะเกิดในปี 2012 นั้นน่าจะมีอะไรเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ แต่ที่แน่ ๆ ในปัจจุบันผมมั่นใจว่ามันน่าจะเริ่มเกิดขึ้นแล้ว โดยสังเกตุจากผลกระทบจากภัยธรรมชาตินี่เอง เมื่อกลับมามองดูปี 2012 ก็เลยมานั่งพิจรณาดูเล่น ๆ (การนับเลขฐานสิบจะนับศูนย์ถึงเก้า) ถ้าเราตัดเลขสองออกก็จะได้เลขนับ 0->1->2 เมื่อมาดูเป็นปี พ.ศ. มันเป็นปี 2555 (เลยสวยมาก) ถ้าเราตัดเลขสองออกเช่นกัน จะได้เลข 5 เรียงตัวกัน 3 ตัวผมขอโยงไปเรื่องโหราศาตร์ที่จะมี โลก กาแล็คซี่ และดวงอาทิตย์ ที่จะเกิดการเรียงตัวกัน ผลลัพธ์นั้นคงบอกไม่ได้ อาจเกิดผลกระทบรุนแรงต่อโลกหรืออาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ ้นเลยก็ได้ เพราะสิ่งที่เราไม่รู้นั้นยังมีอีกมากมายทั้งในอวกาศ และจักรวาล

  

ถ้า มีการเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติต่าง ๆ เกิดขึ้นจริงและอย่างรุนแรง ผมคงไม่ขอสาธยายไว้ ณ ที่นี้นะครับ เพราะจะเขียนยังไงก็ได้ ทำให้เกิดความกลัวและตื่นตูมไปเสียปล่าว เวลาเหลืออีกเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น ก็มาลุ้นกันแล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงไหม ?

  

สำหรับ ผมแล้ว(พวกคิดไม่เหมือนคนอื่น) คงเลือกที่จะศึกษาค้นคว้าเพื่อเอาตัวรอดต่อไป ไม่ว่าจะทำสถานีตรวจวัดอากาศ งานด้านพลังงาน งานด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ฯลฯ จะเอาความรู้ที่ได้ศึกษาไว้มาปรับใช้เพื่อป กป้องและป้องกันภัยให้กับตัวเองและคนอื่น ๆ





และนี้ก็คือสิ่งที่จะบอกบ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงสาเห ตุน้ำท่วมประเทศไทย

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การ ทำนายนั้นอยู่คู่กับสังคมของเรามานาน โดยเฉพาะการทำนายธรรมชาติ เช่นการดูสีของท้องฟ้า ก้อนเมฆ สายลม ดวงดาว แม้กระทั่งการมองเห็นด้วยจิต ที่สามารถหยั่งรู้ฟ้าดินและธรรมชาติได้ เหมือนที่เคยฮือฮากันไปเมื่อหลายปีก่อน เมื่อนาย กอร์ดอน (Gordon-Michael Scalion) ชาวอเมริกันที่เคยเสียชีวิตเมื่อปี 1979 แต่ กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็อ้างว่า ได้รับพรสวรรค์ที่หยั่งรู้อนาคต เขามักจะเดินทางไปอยู่บนพื้นที่สูงๆ บนภูเขา แล้วมองลงมาเห็นภาพในอนาคต โดยเฉพาะภาพของเมืองที่เปลี่ยนไป และโลกที่จะเกิดขึ้นมาใหม่

คนที่เชื่อถือนาย กอร์ดอนนั้นมีไม่น้อย เพราะได้เคยฝากผลงานการทำนายที่แม่นยำเอาไว้ เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในลอส แองเจอริส เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2535, เหตุการณ์แผ่นดินไหวในแคลิฟอร์เนียเมื่อ มกราคม 2537 รวมอีกหลายเหตุการณ์ที่เขาทายไว้แล้วก็ถูกเผง

แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุด ก็เห็นจะเป็นการทำนายเมื่อปี พ.ศ.2521 ซึ่งเขาเห็นตัวเองลอยอยู่เหนืออวกาศ แล้วมองลงมาบนโลก ด้วยภาพแผนที่โลกใหม่ เขาจึงใช้เวลาอยู่ 4 ปี ที่จะร่างแผนที่โลกอนาคตที่เห็นคนเดียวนั้นออกมาสู่ส ายตาชาวโลก พร้อมทั้งให้คำอธิบายไว้ว่า โลกที่แปรเปลี่ยนไปนี้จะเกิดจากน้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ทำให้ทวีปของโลกเคลื่อนไปหมด และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1998-2012 หรือ พ.ศ.2541-2555 นั่นเอง





ความเชื่อนี้สอดคล้องกับคำทำนายของอีกหลายคน เช่น นาย ฮูเซลีนโย่ (Juseleeno ) ชาว บราซิล ที่มองเห็นอนาคตล่วงหน้าด้วยตานิมิต สิ่งที่เขาเห็นแบบเดียวกับกอร์ดอนเห็นก็คือ โลกจะพังพินาศด้วยภัยธรรมชาตินานัปการ เป็นต้นว่า ในปี 2551 นี้ ญี่ปุ่นจะเกิดแผ่นดินไหว รวมถึงจีน มีการเสียชีวิตนับล้านคน และจะเกิดการก่อการร้ายครั้งใหญ่ในอเมริกา ปี 2553 ทวีปแอฟริกาจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างหนัก และปี 2554 จะเกิดโรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ฆ่ามนุษย์ วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2557 ดาวเคราะห์ขนาดเล็กจะชนกับโลก จนถึงปี 2558 มนุษย์จะตายเพราะทนความร้อนไม่ได้

สำหรับ “อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า” ผู้ ซึ่งอ้างว่าเคยได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวผู้โด่งด ังนั้น ก็อ้างว่าเขามีโทรจิตที่เห็นภาพอนาคตจากการบอกเล่าขอ งมนุษย์ต่างดาว ว่าในปี ค.ศ.2012 นั้น จะมีแสงสว่างมากที่สุดในกาแลกซี่และสะท้อนไปยังดาวเค ราะห์ที่โคจรรอบตัว สิ่งมีชีวิตและโลกจะปั่นป่วนอย่างยิ่ง

ด้วยความเชื่อเหล่านี้ บวกกับความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ จึงมีผู้คาดการณ์วันอันน่าระทึกเอาไว้ที่วันที่ 21 เดือน ธันวาคม ค.ศ.2012 นั้นเป็นวันเริ่มต้นกระบวนการดับสูญของโลก หรือ “Doomsday -21/12/12” โดย คาดการณ์ว่าเป็นวันที่พระอาทิตย์จะเดินทางมาอยู่ย ังศูนย์กลางของกาแลกซี่ ทำให้โลกดวงเล็กๆ ของเราคลอนโยกเยกและปลิวไปมา กระทั่งอาจจะต้องดับสูญลงไป โดยขณะนี้มีผู้จำลองเหตุการณ์ของ Doomsday แบบมัลติมีเดียไว้ในเวบไซต์ของ YouTube มากกว่า 20 ชุด เช่นวิดีโอด้านล่างนี้ ถูกบรรจุโดยผู้ใช้ชื่อว่า AfroDude เผยแพร่เมื่อเดือนเมษายนของปีนี้
(หมายเหตุ : วีดีโอเจ๋งไปแล้ว)

มีผู้อธิบายปรากฏการณ์นี้ในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า เกิดจากการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้คอมพิวเตอร์ Hyderabad คำนวณการแลกเปลี่ยนพลังงานที่ขั้วทิศเหนือและขั้วทิศ ใต้สลับตำแหน่งกัน ว่ามีคุณสมบัติแม่เหล็กพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ทุก ๆ 11 ปี และจะก่อพลังงานสูงสุดได้ในปี 2012 อย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่นเดียวกับที่เคยเกิดเมื่อหลายล้านปีก่อน

อย่างไรก็ดี มีผู้ออกความเห็นมากมายที่ยังเชื่อว่า ปี 2012 อาจ ไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นที่จะเห็นโฉมหน้าของโลกใหม่ เรากลับมาที่แผนที่โลกของนายกอร์ดอนอีกครั้ง ซึ่งแผนที่ฉบับนี้ (Future Map Of The World) ได้ระบุเหตุการณ์ไว้มากมาย สรุปที่สำคัญๆ ได้เป็นต้นว่า

ออสเตรเลียจะเสียแผ่นดินไป 25% จากน้ำท่วม, นิวซีแลนด์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะแผ่นดินเก่าและใหม่จะเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวกัน นิวซีแลนด์ห่างไกลจากทะเลมาก แอฟริกาจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน แม่น้ำไนส์จะกว้างกว่าเดิมมาก ทะเลแดงจะกว้างออกทำให้ "โคโร" จมหายไปในทะเล เช่นเดียวกับเกาะมาดากัสการ์

จะ มีแผ่นดินเกิดใหม่ในทะเลอาหรับ ทะเลสาปวิคอเรียจะรวมเข้ากับทะเลสาบยาซาไหลสู่มหาสมุ ทรอินเดีย ส่วนอเมริกาใต้จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ลุ่มน้ำอะเมซอนจะกลายเป็นทะเลปิดแบบเดียวกับทะเลสาปส งขลา ในแมกซิโกจะเกิดภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ยาวนาน 25 ศตวรรษ ส่วนยุโรปตอนเหนือจะจมลงทะเล เหลือแค่เกาะเล็กๆ รัสเซียจะแยกจากยุโรป เกิดทะเลใหญ่ยาวมาก ฝรั่งเศสจะจมน้ำเหลือแต่กรุงปารีส ทางน้ำใหม่จะแยกสวิสเซอร์แลนด์ออกจากฝรั่งเศส และอิตาลี เวนิส เนเปิ้ล รวมถึงโรมจะจมน้ำหายไปในทะเล ฯลฯ





แผนที่โลกใบใหม่ในส่วนเอเชีย และส่วนขยายประเทศไทย

มา ดูฝั่งเอเชียของเรากันบ้าง แผนที่ใหม่นี้ได้บอกว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้เก ิดน้ำท่วมตั้งแต่ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ไปจนถึงทะเลแบริ่งซึ่งอยู่ระหว่างอะลาสก้ากับรัสเซีย เกาะญี่ปุ่นจึงจะจมหายไปหมด เหลือไว้แค่ 2-3 เกาะ เท่านั้น ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ และไต้หวันกับเกาหลี ก็จะหายจมไปในทะเล ดังนั้น แนวฝั่งของจีนก็จะร่นเข้าไปในแผ่นดินใหญ่หลายร้อยไมล ์ทีเดียว อินโดนีเซียจะถูกทำลาย เช่นเดียวกับฟิลิปินส์ เอเชียจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สูงมากเพราะตั้งอยู่บน 3 ทวีป ส่วนไทยนั้นอยู่บนแผ่นทวีปของ ยูเรเซี่ยน ซึ่งจะเกิดการยกตัวให้สูงขึ้น



เครดิต : http://forum.winner.co.th/forum_csowinv2/viewtopic.php?t=5921



คลิปประกอบ

Nibiru-Planet of the Crossing

December 21 2012 the END? (Part 1 of 6).
คลิปนี้บอกว่า 21 ธ.ค. 2012 โลกจะแตก กรี๊ดดดดด (21/12/12)

ถ้าอีก 10 วันโลกจะแตก เราจะทำอะไรกันดี
 กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 มิ.ย. 2009, 11:10 น. โดย iannnnn » บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
แล้วก็อ่านอันนี้ต่อเลยครับ - นิบิรุจะชนโลก!?

(แหม ทีข่าวแก้ล่ะเอามาโพสต์แอบๆ เลยนะ)
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
อีก 10 วันโลกจะแตก
กรี๊ด น่ากลัวจริงๆ จะทำไงดี ชั้นยังไม่อยากตาย  หมีโหด~


ดาวนิบิรุจะชนโลกจริงหรือ
ใครเขียน มีหลักฐานหรือเปล่า อ้างอิงจากไหน  หมีโหด~
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!