หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 14
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ความประมาท เป็นหนทางสู่ความฉิบหาย  (อ่าน 50991 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ตอนแรกว่าจะแปะในเรื่องจริงนี้ฯ แต่ขอขึ้นจู๋ใหม่เลยแล้วกันครับ ไหว้



ความประมาท เป็นหนทางสู่ความฉิบหาย

เกิดมาไม่เคยโกรธตัวเองเท่านี้มาก่อนเลย..

ไม่ว่าจะเป็นคนสะเพร่ามาขนาดไหน ก็ไม่เคยทำให้ตัวเองเดือดร้อน หรือเสียใจได้ขนาดนี้มาก่อนเลย
ใครเคยทำของหายมั่งครับ? ถ้าโดนขโมยนี่อีกเรื่องนึงนะ.. นี่ทำหายเอง

วันนี้ด้วยความรีบร้อน ไปกดเอทีเอ็ม แถวๆ อนุสาวรีย์ฯ ตู้แรก เป็นตู้ธนาคารไทยพาณิชย์ แล้วมันไม่มีสลิป ก็เลยเปลี่ยนตู้
ตอนกดเนี่ยก็วางโน้ตบุ๊คไว้บนตู้เอทีเอ็ม พอเปลี่ยนตู้ก็วางทิ้งไว้เฉยเลย.. เฮ่อโง่ หรือโง่วะ???

เสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นรถตู้เลย จะไปหาลูกตาลที่สุวรรณภูมิ คือรีบมากด้วย กลัวไปไม่ทัน
ระหว่างทาง หลังจากผ่านด่านที่สอง (ที่เป็นเก็บตังรอบสองบนทางด่วน) ก็เพิ่งจะนึกได้ ทำเหี้ยไรไม่ถูกแล้ว ร้องไห้ก่อนเลย
สักครึ่งนาทีมั้งที่ตั้งสติได้ ไม่รู้จะทำยังไงแล้วโทรไปไหนรู้มั้ยครับ จส. 100 กับ ร่วมด้วยช่วยกันนี่ตัดทิ้งไปเลยครับ นึกเบอร์ไม่ออก
ทายให้ตายก็ทายไม่ถูกหรอกครับ ผมโทรไปหาบริการเลขาส่วนตัวของเมืองไทยประกันชีวิต!!!

ทีนี้ตอนนั้นผมเข้าใจว่าลืมไว้ที่ตู้เอทีเอ็มตู้ที่สอง ซึ่งอยู่หน้าร้านทองครับ แล้วก็จำชื่อร้านไม่ได้ครับ (ใครจะไปดูวะ)
ก็ให้ข้อมูลกับโอเปอเรเตอร์ไปครับ ว่าตู้เอทีเอ็มธนาคารธนชาติ หน้าร้านทองบริไหนๆๆ ก็ว่าไป ทางเมืองไทยฯ ก็บอกจะติดต่อให้ครับ
ไม่น่าเชื่อ เขาหาข้อมูลร้านทองนั้นจนได้ แล้วก็โทรไปให้.. ทำให้ผมทำอะไรง่ายขึ้นอีกเยอะเลย

จำได้ใช่มั้ยครับว่าในคณะที่ผมทำอะไรพวกนี้คือผมกำลังเดินทางไปสุวรรณภูมิ ไอ้เรื่องขอลงระหว่างทางนี่เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะเป็นทางด่วน
ลงรถปุ๊บ ก็รีบเรียกแท็กซี่ตีกลับเลยครับ บอกให้ซิ่งสุดๆ เลย ใจก็ภาวนาว่าบ้านนี้เมืองนี้ยังมีคนดีมีน้ำใจอยู่
ตอนที่นั่งแท็กซี่กลับนี่แหละที่เมืองไทยฯ โทรกลับมาเรื่องร้านทอง ทำให้แท็กซี่จับใจความได้ว่าผมทำของหาย (พูดให้ถูกคือวางลืมทิ้งไว้)
แท็กซี่ ก็เลยบอกให้ผมลองโทรไป จส.100 กับ สวพ.91 ครับ ผมก็บอกว่าผมไม่รู้เบอร์ แกก็บอกเลย 1644 กับ 1677 (ผมลืมแล้วว่าอันไหนของคลื่นไหน)

พอลงทางด่วนที่อนุสาวรีย์ฯ (ตรงพหลโยธิน) ไม่สนใจสะพานลงสะพานลอยแล้วครับ วิ่งข้ามถนนเลย ไปถึงก็ถามแม่ค้าแถวนั้นก่อนเลยครับ (ตอนนั้นยังเข้าใจว่าลืมที่ตู้หน้าร้านทอง)
แม่ค้าแถวนั้นช่วยเหลือดีมากครับ เป็นคุณน้าผู้หญิงท่าทางไม่น่าจะเกินสี่สิบ ถึงสี่สิบนิดๆ กับคุณป้าที่น่าจะเลยห้าสิบกว่าๆ ไปแล้ว
แกช่วยเดินถามคนแถวนั้นด้วยครับ ขนาดกดกริ่งร้านทองให้เลย จนอาซ้อร้านทองออกมาครับ
ทีแรกแกก็งงๆ ครับ เพราะคนที่โทรมาที่ร้านเป็นผู้หญิงครับ (พนักงานเมืองไทยฯ) แต่ไอ้คนที่มาหน้าหงอยขอความช่วยเหลือเนี่ยเสือกเป็นไอ้หน้าโจรคนนี้
จนเจรจากันรู้เรื่องแกก็ถามว่าตอนกี่โมง ผมก็เอาสลิปเอทีเอ็มให้ดูครับ 18.51 แกก็หายเข้าไปหลังร้านพักใหญ่เลยครับ จนให้เด็กที่ร้านออกมาตาม ปรากฎว่าแกเข้าไปดูกล้องวงจรปิดหน้าร้านให้ครับ
ในที่สุดผมก็ได้ข้อสรุปว่าไม่ได้ทิ้งไว้ที่ตู้นี้แน่ๆ เพราะเดินมาตัวเปล่าเลย เท่านั้นก็ขอบคุณทั้งเฮียทั้งซ้อเจ้าของร้านยกใหญ่แล้วครับ อาจจะเป็นแค่ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แต่เวลานั้นเป็นสิ่งที่ผมต้องการที่สุดแล้วครับ
อ้อ ร้านนั้นชื่อร้านอะไร ถ้านึกออก หรือผ่านไปแถวนั้นอีก จะเอามาบอกนะครับ เอาเป็นว่าออกจากอนุสาวรีย์ฯ นิดนึงไปทางพหลฯ ร้านที่มีเอทีเอ็มหน้าร้านอะครับ

ทีนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่ตู้นี้แน่ๆ แสดงว่าต้องเป็นตู้แรกซึ่งอยู่หน้าแฟมิลี่มาร์ท (ถัดไปสักสิบเมตรได้ครับ) เริ่มจากถามคนขายของแถวนั้นก่อนครับ ปฏิกิริยาตอบรับต่างจากแถวหน้าร้านทองมากครับ
ไม่มีทีท่ากระตือรือร้น (ก็ไม่ใช่เรื่องเขานี่นะ) เสียใจบอกไม่ถูกเลยครับ ก็เข้าไปถามในแฟมิลี่มาร์ทครับ ถามไปอย่างนั้นแหละเพราะพนง.เขายุ่ง คงไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว
ก็ต้องพึ่งตัวเองแล้วครับ เริ่มจากออกมาสังเกตหน้าร้านแฟมิลี่มาร์ทก่อนครับ ไม่มีกล้องวงจรปิดอย่างร้านทองครับ ที่พึ่งเดียวที่นึกออกคือบริการเลขาฯ ของเมืองไทยฯ เหมือนเดิมครับ
อย่างแรกเลยคือถามว่าถ้าผมอยากจะขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของตู้เอทีเอ็มต้องทำยังไง ก็ได้รับคำแนะนำว่าต้องแจ้งความ แล้วเอาหลักฐานเหล่านั้น ไปติดต่อธนาคารเพื่อขอดู
ก็เลยถามว่าผมต้องแจ้งความที่ไหน ก็ได้คำตอบคือ สน.พญาไท พอถามตำแหน่งที่ตั้งจบปุ๊บกเดินเอาครับ เห็นว่าไม่ไกล ก่อนวางก็ฝากเมืองไทยฯ ช่วยหาทางประกาศให้หน่อย ผมยินดีมีค่าตอบแทนให้ แล้วก็วางกันไป

ระหว่างเดินไป ลูกตาลโทรมาพยายามปลอบใจ (เพิ่งบรีฟเสร็จ จะบินแล้ว) แล้วบอกให้โทรหาแม่ พอคุยกะลูกตาลเท่านั้นแหละร้องไห้อีกแล้ว
วันนี้ใครอยู่แถวป้ายรถเมล์อนุสาวรีย์ ด้านโรงพยาบาลราชวิถี จะเห็นผู้ชายคนนึงถักเดรดเดินคุยโทรศัพท์ไปร้องไห้ไปแบบไม่อายใครครับ
พูดจริงๆ เลย คือนอกจากงาน โดยเฉพาะตีสิสซึ่งยังไม่เคยแบ็คอั๊พไว้เลยนั้น ผมยังโง่เก็บความทรงจำดีๆ ไว้ในนั้นหลายอย่าง และยังไม่ได้แบ็คอั๊พเหมือนกัน

ตัดมาที่โรงพักครับ.. ระหว่างรอแจ้งความ (รอบอลจบเพราะตำหนวดดูบอลอยู่ -_-") ก็โทรหาแม่ครับ โดยเริ่มประโยคว่าแม่อย่าเพิ่งโกรธนะ (ฮ่าๆๆ กูกลัวจริงๆ นะ) แม่ก็ถามกลับมาแบบเรียบเฉยมาก คงไม่อยากให้เราไม่สบายใจ
แม่ก็บอกเดี๋ยวโทรหาลุงให้ (พี่เขยพ่อ) เพราะเขาเป็นตร. มาอบรมอะไรสักอย่างที่กทม. แล้วก็เป็นนายตร. มาจากหลายๆ ที่ เพื่อจะให้ใครช่วยกระทุ้ง หรือไปถามคนแถวนั้นให้ ถ้าเผื่อว่าจริงแล้วคนแถวนั้นเก็บไปไว้เอง
ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเป็นตอนเด็กๆ ตอนที่คิดว่าทุกปัญหาเป็นเรื่องใหญ่ ตอนที่ยังคิดทุกเรื่องที่เราทำพลาดก็จะคอยปกปิดพ่อแม่ จะทำให้ผมแก้ปัญหาโง่ๆ โกหกโง่ๆ ให้อะไรมันยิ่งแย่ไปกว่านี้ขนาดไหน

พอเสร็จก็เรียกแท็กซี่กลับบ้านครับ ไม่กลับหอมันละ ปรากฏว่าเมืองไทยฯ โทรมาอีกทีครับ ถามว่าผมแจ้งความหรือยัง? ลองติดต่อธนาคารดูหรือยัง? (ตอนนั้นเริ่มทำใจแล้วว่าไม่ได้คืนแน่นอน)
ผมก็บอกว่ายังเพราะไม่ทราบเบอร์ แล้วก็ไม่รู้ว่า 24 ชม. หรือเปล่า พนง. ก็บอกว่าโทรได้ตลอด พร้อมให้เบอร์ คอลเซ็นเตอร์ของ SCB มาครับ บอกไว้เป็นความรู้หน่อยว่า 0-2777-7777 ครับ
ก่อนวางสาย พนง. ก็แจ้งผมว่าได้ช่วยประชาสัมพันธ์ไปทางร่วมด้วยช่วยกันแล้ว ตามรายละเอียดที่ผมได้แจ้งไว้ พร้อมให้ชื่อ และเบอร์โทรผมไว้ด้วย
พอวางจากเมืองไทยฯ ก็โทรเลยครับ งงๆ กับไอ้เลขอัตโนมัติที่ให้กดนิดหน่อย ก็ได้คุยกับโอเปอเรเตอร์ครับ พนง.พูดจาดีครับ พอทราบตำแหน่งตู้ ก็เช็คให้ก่อนว่ามีกล้องวงจรปิดหรือเปล่า
ที่นี้ก็ได้ความรู้ใหม่อีกแล้วครับ ว่าไม่ใช่ทุกตู้นะครับที่มีกล้อง เงื่อนไขคือ ถ้าเป็นตูเอทีเอ็มที่อยู่หน้าสาขา จะมีกล้องภายนอกอาคารของสาขามองเห็นครับ
ส่วนตู้เอทีเอ็มที่ฝังกล้องไว้เลยจะต้องเป็นตู้รุ่นใหม่ที่มีรหัส 6XXX เท่านั้นครับ พนง.ปลายสายก็แสดงความเสียใจอย่างสุภาพ และแนะนำให้ติดต่อกลับไปทางแฟมิลี่มาร์ทสาขานั้นครับ เพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด
ซึ่งผมก็ว่าคงยากหน่อยครับ เพราะจากที่สำรวจไม่มีกล้องข้างนอกครับ แต่อาจจะมีกล้องจากในร้านที่มองเห็นออกมาข้างนอกได้ ยังไงก็จะลองอีกทีครับ (ถึงจะทำใจแล้วก็ตาม)


เหตุการณ์ครั้งนี้สอนผมหลายอย่างครับ ที่พิมพ์มาให้อ่านกันก็เพราะเห็นว่าคงจะช่วยเตือนสติคนอื่นได้บ้างครับ
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้วันนี้คือ

- ทำอะไรจงมีสติรอบคอบ โดยเฉพาะถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนหลงๆ ลืมๆ สะเพร่า เวลาไปไหน แนะนำเป็นกระเป๋าเป้มากกว่าการถืออะไรไปโทงๆ
- ข้อมูลดิจิตอลทุกอย่างที่มี จงขยันแบ็คอั๊พไว้หลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Ext. Hdd. หรือ DVD หรือ internet อะไรก็แล้วแต่ หลายๆ ช่องทางยิ่งดี
- ควรมีเบอร์ที่อาจจะช่วยเราได้ไว้ในโทรศัพท์มือถือ อย่าคิดว่า "คงไม่ได้ใช้" เพราะไม่แน่วันนึงคุณอาจจะต้องการมันมากกว่าใครๆ ในโลก
- สำหรับน้องๆ วัยรุ่นโดยเฉพาะ มีอะไรขอให้รีบบอกคุณพ่อ คุณแม่นะครับ ด้วยแระสบการณ์แล้ว พวกท่านจะมีวิธีในการรับมือกับปัญหาได้ดีกว่าเราแน่ๆ


สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอบคุณทุกๆ คนที่พยายามหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ครับ
ไม่ว่าจะตามหน้าที่อย่าง พนง. ทางโทรศัพท์ของหลายๆ ที่ ทั้งเมืองไทยประกันชีวิต, จส. 100, สวพ. 91, ธ.ไทยพาณิชย์
หรือหลายๆ คนที่ทำด้วยน้ำใจ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้รู้จักกัน และหน้าตาผมก็ไม่ได้ดูว่าช่วยผมแล้วจะปลอดภัยเลย
อย่างเฮียกับซ้อร้านทอง หรือป้าๆ ที่ขายของหน้าร้านทอง ที่ช่วยเดือดร้อนให้เหมือนเป็นลูกหลานตัวเอง

ที่ไม่ขอบคุณไม่ได้เลยคงเป็นผู้หญิงเก่งในชีวิตผมสองคนนี้
ขอบคุณลูกตาลที่เป็นกำลังใจให้ในทุกสถานการณ์
ขอบคุณคุณแม่ที่เข้าใจ ไม่โกรธ และหาทางช่วยเหลือมในทุกครั้งที่ลูกชายโง่ๆ คนนี้ไปเที่ยวสร้างปัญหา
ขอบคุณครับ ถึงในที่สุดผมคงจะไม่ได้ของคืน แต่วันนี้ผมก็ได้อะไรหลายๆ อย่างที่ผมไม่เคยได้เหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ธ.ค. 2008, 01:16 น. โดย Buob Marley » บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
 ง่ะ   อูยยยยยยยยยยยย ขนลุก 
บันทึกการเข้า

เลวยั้นเงา


  ง่ะ ขอให้ได้คืนนะพี่บวบ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ถ้าไม่ได้คืน มีผลมากไหมกับทีสิส
ทำใหม่ทันไหมบวบ สู้ๆ
บันทึกการเข้า

มีข้อมูล ทีสิสรึเปล่านั้น สู้ๆนะพี่
บันทึกการเข้า

คนบางคนเกิดมาเพื่อเป็นแค่ความทรงจำ
เอาใจช่วยให้ได้คืนนะบวบ   ไหว้


แต่ที่แน่ๆ คนไทยใจดี มีน้ำใจยังมีทุกหนแห่ง ถือเป็นสิ่งดีๆในวันที่เลวร้ายให้ได้จดจำ
บันทึกการเข้า

where there's a will there's a way
 เหวอ



แกเอ้ยยย
เป็นกำลังใจให้นะ สู้เว้ย
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior
 ไหว้ ขอให้ได้คืนมาเร็วๆนะครับ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ตีสิสก็เดือดร้อนพอควรครับ เพราะจะมีรีวิวอีกทีวันพุธหน้าแล้ว ซึ่งเทอมนี้มันเป็นเรื่องของงานดีไซน์แล้ว
ผมว่าก็มีข้อดีตรงที่ความคิดอะไรที่ผมติดขัดอยู่ (อาจจะเพราะไปจับจดกับมันมากไป) จะได้โยนทิ้งให้หมด ความคิดจะได้หลุดออกจากกรอบนั้นเสียที
ที่น่าจะเดือดร้อนมากหน่อยคือข้อมูลของเทอมที่แล้วครับ โดยเฉพาะพวกบุ๊ค แต่ก็คงขอแบบที่เป็นกระดาษได้ที่อ.ที่ปรึกษา
อีกอย่างที่เดือดร้อนแน่ๆ คือไฟล์พวกผังบริเวณที่ต้องขอมา (ทำโปรเจ็คในมหาลัย) ก็ตองไปขอใหม่

ตอนนี้ได้แต่ส่งข่าวไปบอกอ.ครับ แล้วก็หวังว่าแกอาจจะัไปต่อรองกับอ.ท่านอื่นในกลุ่มให้เลื่อนวันรีวิวออกไป
เพราะบางกลุ่มก็รีวิวกันหลังปีใหม่
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ
คิดซะว่าแลกกับประสบการณ์
สู้ๆ ครับ
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ขอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้นะครับ เอาใจช่วย
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
 เศร้า ของมันหายไปแล้ว หายไปบวบ

หลังจากนี้ก็ระวัง ๆ ตัวหน่อยนะ ไม่เป็นไร เรื่องร้ายผ่านไป เรื่องดีจะเข้ามานะ
บันทึกการเข้า

อ่านแล้วลุ้นมากๆ
ตอนแรกแอบหวังว่าจะได้คืนแล้วนะเนี่ย
ก็สู้ต่อไป คิดซะว่าฟาดเคราะห์นะ
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior
 ไหว้ ขอบคุณทุกกำลังใจครับ

จริงๆ ไม่หวังแล้วหละ เพราะริบหรี่เหลือเกิน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรไปศูนย์ฟูจิตซึ แจ้งไว้ก่อนว่าถ้าซีเรียลนี้มาติดต่อ ขอให้แจ้งด้วย
เข้าใจไปเองว่า คนได้ไปคงใช้ลำบากหน่อยเพราะยี่ห้อไม่โหล.. แล้วมันได้ไปแต่เครื่อง กร๊าก

อยากให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนนะครับ เพราะการเสียสิ่งที่มีค่ากับความรู้สึกไป มันเกินจะอธิบายให้ใครฟังได้จริงๆ ครับ
งานตีสิสผมยังไม่เสียดายขนาดนี้เลยครับ ทำใหม่ไม่เกินกำลัง แต่เวลามันย้อนมาไม่ได้แล้ว คงได้แต่เก็บเรื่องราวพวกนั้นไว้ในความทรงจำเท่านั้น ฮิ้ววว











http://media.imeem.com/m/kndVzdUHVO
ร้องอีกแล้ว กร๊าก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ธ.ค. 2008, 01:55 น. โดย Buob Marley » บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
สู้ๆ พี่บวบ


ไอ้กระผมก็เคยเหมือนกัน
วันนั้นฝากโน้ตบุ๊คไว้กับเพื่อนที่หอ  สมมติชื่อไอ้ห้อยละกัน
บอกมันไว้ว่าวันหลังจะไปเอา

อีกวันต่อมาผมกับเพื่อน  มีรุ่นน้องอีกสิบกว่าคนทำป้ายกับสกรีนเสื้อยู่ในคณะ
ไอ้ห้อยมันเรียนเสร็จพอดีจะกลับหอเดินผ่านพอดีเห็นผมอยู่  ตอนนั้นเย็นๆ แล้ว
ด้วยความหวังดีมันก็กลับไปเอาโน้ตบุ๊คที่หอมาให้ผม

ตอนที่มันบอกเอาโน้ตบุ๊ควางไว้บนโต๊ะนั้น  ผมก็ง่วนทำงานอยู่
ก็ตอบเออออไปไม่ได้สนใจ  
ทำงานเสร็จก็เก็บของกลับกัน
ไอ้ห้อยก็วางโน้ตบุ๊คไว้ไกลกับตรงที่ทำงานเพราะกลัวมันเลอะ
ตอนเก็บผม็ไม่ได้เดินไปตรงนั้นเพราะเก็บเฉพาะตรงที่ทำงานนั่นแหละ
(ซึ่งมันก็ไม่ได้ไกลกันเลย แถมกระเป๋าสีดำด้วย มืดแล้วมันไม่เป็นจุดสังเกต)

เช้ามาทุกอย่างปกติ  ตอนบ่ายๆ เลยโทรจะไปเอาโน้ตบุ๊คกับมัน
ใจหายทันที  เพราะมันบอกว่าเอามาคืนแล้วเมื่อวาน
ผมก็ลืม  มันก็ตกใจรีบไปโต๊ะทันที
หาอยู่แป๊ปนึงก็หาถามป้าเอม  ป้าแกขายของแถวนั้นไกล้ๆ กัน


โชคดีมาก  ตอนแกเดินเก็บถ้วยกะเหยือกน้ำแกเห็นกระเป๋าวางอยู่เลยเก็บไว้ให้
เปิดดูข้างในแกก็รู้ว่าเป็นของผมนี่แหละ  มีรูปผมอยู่  คุยกันทุกวันโดนป้าแกด่าบ่อยๆ
แต่ตอนผมเดินหาอยู่ป้าแกก็ไม่เรียก  รอไปถามเอง ง่ะ
กว่าจะได้ของคืนเล่นทายของซะนาน



ของผมนี่ยังโชคดีขนาดข้ามคืนไปแล้วยังได้คืน
ตอนรู้ว่าหายนี่ซีดกันทั้งผมทั้งไอ้ห้อย

 โอว ปั่นกันกระจุย มีคนตัดหน้าคุณตั้ง 4 คนแน่ะ


บันทึกการเข้า

ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 14
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!