หน้า: 1 [2]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนไหนดี  (อ่าน 9796 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
งั้นของกวางก็ลัดหน่อย


ปวช 3 ปี - ปริญญาตรี 4 ปี

ก็ 7 ปีเหมือนเรียน ม. ปลายแหละ

แต่ไอ้ตอนที่เข้ามหาลัยอ่ะ อาศัยสอบตรงแทนถึงได้เรียนหลักสูตรปกติ
บันทึกการเข้า
แต่อย่างพี่จักรีว่าก็ถูกนะครับ

ถ้าไม่ชัดเจน เลือกปวช-ปวส ไป ถึงเวลาอยากเรียนมหาลัย

ก็ต้องเรียนอีก 3 ปี (ถูกรึเปล่าใครมั่นใจสนับสนุนด้วย-กรณีหลักสูตรปกติ4ปี) สรุป

เรียน ปวช สามปี ปวส อีก สามปี ต่อป.ตรี อีก สามปี

รวม เก้าปี

แต่ถ้าเลือกเรียนสายสามัญเลย เรียนม.ปลาย สามปี ป.ตรีอีก สี่ปี

รวม เจ็ดปี


ถ้าเลือกสายอาชีพแล้วเกิดอยากต่อมหาลัย จะเสียเวลาไปอีกสองปี ซึ่งเอาไปทำอะไรได้อีกเยอะ เสียดายเวลา

เลือกดีๆนะครับ

จบ ปวส. สามารถต่อปริญญาตรีได้ แต่ว่าก็ไม่ทุกสาขา

ผมรู้แต่วิศวะ ส่วนใหญ่ที่เห็นก็ เครื่องกล อุตสาหการ ไฟฟ้า อิเล็คทรอนิค โยธา

แต่อย่าง วิศวะเคมี กับ คอมพิวเตอร์(ไม่ชัว อันนี้) นี่ไม่มี ต้องจบ ม.ปลาย อย่างเดียว
บันทึกการเข้า
ผมก็ว่า ได้นะเห็นหลายคนเรียน ปวช. มา

แต่รุ้สึกจะมีโอกาศเลือกน้อยกว่าสายสามัญ แล้วในส่วนสายสามัญ ไทย สังคม ศิลป์ภาษาก็จะมีโอกาศเลือกน้อยกว่า วิทย์คณิต ไม่รู้ทำไม

เปิดดูในใบสมัครของหลายๆ สถาบัน วิทย์คณิตดูมีนายก (ผมหมายถึงอภิสิทธิ์อ่ะ)   มากกว่า
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
วิทย์คณิต ลงมาสอบของสายศิลป์เยอะเหมือนกันครับ

แต่สายศิลป์มาสอบสายวิทย์นี่ไม่ค่อยจะมี  กร๊าก
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
เพราะสอบไม่ได้นะ  อย่าง บางสาขาเขียนกำกับไว้เลยว่า รับเฉพาะวิทย์คณิต
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
น้องเราก็เรียนอาชีวะนะ พวกวาดรูปๆนี่แหละ
จบ 3 ปี ก็ต่อมหาาวิทยาลัย



ก็ถ้าคิดว่าจบ 3 ปีนี้ ยังไปเรียนมหาวิทยาลัยไม่ได้
อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องทำงานหาเงิน
สนับสนุนสายอาชีพ

แต่ถ้ายังไงก็ต่อ ป.ตรี เลยแน่ๆ จะเรียน ม.ปลาย ก็เห็นด้วยจ้า ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
เคยอ่านข่าวมาจาก  manager มั้งถ้าจำไม่ผิด

แรงงานฝีมือทางช่าง กำลังจะขาดไป หรือ ลดจำนวนอย่างรวดเร็วในประเทศไทย

เนื่องจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ไม่นิยมส่งลูกเรียน ปวช ปวส

เนื่องจากปัญหาเยอะเรื่องเด็กตีกัน ระหว่างสถาบัน

ที่แคนดา พวกช่างฝีมือ อย่าง ช่างทาสี ช่างไม้ หรือ พวกที่กลึงๆ ทั้งหลายแหล่

ค่าแรงต่อ ชม. แพงมาก เพราะเค้าถือว่า ใช้ฝีมือ และ ประสบการ์ณในการทำงาน

ผมสั่งทำ reactor มาเครื่องหนึง ไม่มีอะไรเลย แค่เอา stainless steel มากลึงๆ ขึ้นรูป

พวกเรียกค่าแรง กับ ค่าของไป 9000 $  แพงมากกกกกกกกก นึกว่าอาจานจะไม่ให้ทำซะแล้ว

แต่เค้าก็ไม่ว่าอะไร แต่ว่างานเค้าประณีตมาก เครื่องมือดี ฝีมือดี

ต่างกับบ้านเรา ค่าแรงถูก โดนกดขี่
บันทึกการเข้า
สะสามแสน โวย
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
เพราะสอบไม่ได้นะ  อย่าง บางสาขาเขียนกำกับไว้เลยว่า รับเฉพาะวิทย์คณิต


เหมือนว่าเรื่องได้ คงได้อยู่ แต่จะทำข้อสอบได้มั๊ยหรือเปล่าครับ

เห็นเพื่อนสายศิลป์มันบอกจะสอบวิศวะอยู่

หรือว่าวิศวะข้อสอบมีชุดของสายศิลป์ด้วยก็ไม่ทราบ(ไม่สนิทกัน)
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
อ้าวตอนนี้ เปลี่ยนเป็นได้หมดแล้วใช่มั้ย

อย่าง สาขาวิทย์ ที่สถาบันผมเมื่อก่อน เคมี วิทย์คอมพ์ ฟิสิกซ์ คณิต คือ 80 เปอร์เซนต์ของสาขาในคณะวิทย์
จะวงเล็บไว้เลยว่า ต้องจบวิทย์-คณิต มาเท่านั้น เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของผู้เข้าสมัครเลยละ แล้วอย่างสาขาบางสาขา ที่ไม่เห็นจำเป็นต้องเรียนวิทย์คณิตมา มันยังจำกัด ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน นี่สมัยผมเข้าปีหนึ่งนะ เป็นแบบนั้น แต่ถ้าเดี๋ยวนี้ ใครก็สามารถสมัครได้นี่ก็ดีเลย
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
สมัยผมก็เห็นว่าม.เอกชนหลายที่รับนะครับ
อย่างถาปัดรังสิตเนี่ย ก็รับสายศิลป์ล่ะ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
อยู่ที่ตัวเราเองนั่นแหล่ะว่าเหมาะกับอะไรหรือถนัดแบบไหน
ระหว่าง ม.ปลาย กับ สายอาชีวะ (ปวช.) ได้ทั้งนั้น

พอดีเรียนจบสาย ปวช. แล้วไปต่อปริญญาตรี ด้านศิลปะ ก็พอจะเล่าได้คร่าวๆ

สำหรับคนที่รู้ตัวเองแน่ๆอยู่แล้วตั้งแต่ตอน ม.ต้น ว่าชอบอะไร ถนัดอะไร โตไปจะทำงานสายไหน
แต่ก็ต้องดูตัวเองจริงๆด้วย ว่าเราถนัด เรามุ่งมั่น เราชอบที่จะอยู่กับมันแค่ไหน
ถ้าใช่เลือกอาชีวะไปก็เป็นทางเลือกที่ดี .....แต่ประเทศไทยเรา ค่านิยมของเด็กที่มาเรียนสายอาชีวะมันผิดๆเพี้ยนๆ

โดยมากเกินครึ่ง 50-70% ของเด็กที่มาเรียนสายอาชีวะ เป็นเพราะตัวเองเรียนไม่เก่ง แล้วหลอกตัวเองว่าน่าจะถนัดในสายนั้นสายนี้
เลยคิดว่าเรียนสายอาชีพน่าจะดีกว่า ม.ปลาย แต่อาจจะผิดถนัด อย่างที่ตัวเองเห็นๆมาในสายศิลปะ
เพื่อนในห้องหลายๆคนมาเรียนเพราะบอกว่ารักศิลปะ แต่มันดันไม่ค่อยขยันฝึกฝนตัวเอง
พอขึ้น ปวช. ปี 2-3 ยังทำงานไปได้ไม่ถึงไหนกันเลย .....แต่ผิดกับคนที่ใจรัก และขยันฝึก ขยันคิด มันจะพัฒนาตัวเองได้ก้าวกระโดด
...คนที่เรียนไปสักพักแล้วรู้สึกว่า "มันไม่ใช่สิ่งที่เรารักแล้ว" บางคนก็อาจจะลาออกไปเรียนสายอื่น,
บางคนก็ทนๆเรียนให้จบไปแบบเดิมๆ (ซึ่งก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่) ส่วนอีกพวกนึงนี่จะออกทะเลไปเข้ากับพวกเกเรเลยก็ได้

เด็กที่มาเรียนอาชีวะราวๆ 20% มาเรียนเพราะอยากเท่ อยากเก๋า อยากไปตีกับโรงเรียนอื่นก็ว่ากันไป
ไอ้พวกนี้โดยมากก็เรียนไม่จบ หรือจบออกมาก็แบบขอไปที .....คนกลุ่มนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของระบบอาชีวะมันกลายเป็นสิ่งที่แย่
และบางทีก็ชักชวนทำให้เพื่อนบางคนที่มันหัวอ่อน เรียนได้ประเภทกลางๆ เสียผู้เสียคนเพิ่มขึ้นไปอีก
ไอ้การเรียนสายอาชีวะ มันอันตรายตรงนี้แหล่ะ ถ้าเด็กไม่รู้จักตัวเองจริงๆ ไม่ได้รักหรือถนัดจริงๆ จะเสียคนเอาได้ง่ายๆ
เมื่อไหร่ที่ค่านิยมผิดๆในการมาเรียนสายอาชีวะหมดไป มันก็น่าสนใจเรียนสายอาชีวะอยู่ไม่น้อย

ส่วนพวกที่รู้ตัวเองว่าถนัดหรือรักในสายงานนั้นๆ แล้วมาเรียนอาชีวะ มีน้อยประมาณ 10% ได้
โดยมากถ้าอยู่ในกลุ่มนี้ จบ ปวช. ไปก็ไปสอบต่อ ป.ตรี ในมหาวิทยาลัยดังๆได้แบบไม่ลำบากเท่าไหร่
ซึ่งตอนเรียน ป.ตรี อย่างในคณะสายศิลปะ ...พวกที่จบ ปวช. มาจะเซ็งๆในเทอมแรกๆ
เพราะตอน ป.ตรี เขาก็จะสอนพื้นฐานกันใหม่หมดอยู่ดี อารมณ์เหมือนทบทวนความจำ
ตั้งแต่ผสมสี ลงสี ดรออิ้งหุ่นวงกลม สี่เหลี่ยม ...ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำมาจนเปื่อยตั้งแต่ในสมัย ปวช. แล้ว
พวกจบ ปวช. เลยทำงานแบบกินขนมในเทอมแรกๆ เหมือนเป็นเทพในหมู่เพื่อนๆเลย เพราะพื้นฐานปูมาแน่นกว่า

แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป .....พอดีมีเพื่อนคนนึงมันจบ ม.ปลาย มา ดันดรออิ้งได้ดีกว่าเด็กที่จบ ปวช. จิตรกรรม บางคนซะอีก
แต่ถ้าเป็นวิชาพวกลงสี ออกแบบร่าง มันก็จะทำได้ไม่ดีเท่าเพื่อนที่จบ ปวช. มา เพราะมันยังไม่เคยทำมาก่อน
เล่าไปแบบนี้ เหมือนกับเด็กที่จบ ปวช. โดยรวม เมื่อมาเรียน ป.ตรี จะเก่งกว่าเด็กจบสามัญ ....ซึ่งไม่ใช่แบบนั้นแน่ๆ

พอเรียน ป.ตรี ช่วงปี 3-4 ไม่ว่าเด็กที่จบ ปวช. หรือ ม.ปลาย มา เริ่มจะมีพื้นฐานที่ไล่ตามกันได้หมดแล้ว เห็นความแตกต่างกันได้น้อยลง
พวกจบ ปวช. มาแต่ขี้เกียจ ไม่รู้จักคิดหรือฝึกต่อยอด ก็อาจจะโดนเพื่อนที่จบ ม.ปลายบางคนแซงหน้าในเรื่องฝีมือ
มาถึงตรงนี้มันขึ้นอยู่กับหลายๆอย่างมาประกอบกันแล้ว ความขยัน แนวคิด พื้นฐานทางฝีมือ อยู่ที่ว่าใครจะต่อยอด เชื่อมต่อได้มากกว่ากัน

....เล่ามายาว ท้ายสุดไม่ว่าจะเรียนสายไหน ก็ย้ำอีกทีว่าอยู่ที่ตัวเราเองนั่นแหล่ะ ที่จะรู้ดีที่สุด
บันทึกการเข้า
เรียนที่ชอบ และ สามารถเอาไปเป็นอาชีพและธุรกิจของตัวเองได้
โดยไม่ต้องเป็นพนักงานประจำ หรือลูกน้องคนอื่นอะ
(ฮิ้ววว เก็บกดมา)

เรียน 456  บรรยากาศการเรียนเหมือน 123 ดี สบายๆ
เรียน ปวช ปวส ก็ดีนะ เห็นพี่เรียนมา แล้วมาต่อ ป.ตรีอีกสองปีครึ่งก็จบ แต่เขาเรียนไปด้วยทำงานด้วย
ออกแนวส่งตัวเองนิดหน่อย (อันนี้วิศวะอะ)
บรรยากาศการเรียนไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่เคย แต่ดูแล้วรู้สึกว่าคนที่เรียนทางนี้จะโตมากกว่า มีประสบการณ์ในชีวิตมากกว่า
(อาจจะเพราะทำงานไปด้วยได้ หรือผ่านงานมาบ้าง สำหรับคนที่เป็นแบบนี้นะ)

แนะนำไม่ถูก เพราะที่เรียนมาจนทำงานอยู่นี่ก็ผิดเหมือนกัน เพราะตามใจผู้ใหญ่ ตอนม.3 นี่แล
ทั้งที่อยากเรียนอีกอย่าง ซึ่งต่างกันคนละขั้วเลย 
แนะนำว่าเอาตามใจตัวเองดีที่สุด  หยี
บันทึกการเข้า

ก้าวไปตามฝัน..แม้ปัจจุบันจะกินแกลบ T_T
หน้า: 1 [2]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!