คู่หลังๆ ผมว่างั้นๆแหละ
สู้ช่วงแรกไม่ได้ แจ่มกว่าเยอะ
ตัวจริงเหี่ยวๆ แล้วนะ คู่แรกน่ะ ไม่งั้นเค้าไม่เปลี่ยนหรอก ศัลยกรรมซะเยอะด้วย
กลับมาๆ
แอบรักเนี่ยเห็นหลายคนบอกว่าไม่กล้าบอกเพราะไม่คู่ควร
เอ่อ ถึงไม่ได้บอกอย่างนั้นตรงๆ ก็เถอะ
เคยมีแต่ไม่แอบนะ แต่รู้สึกว่าเค้าสูงส่ง ไม่สิเราต่ำต้อยต่างหาก
(แล้วส้มก็จะมาด่าว่ากูผิดรึไงที่กูสูงส่ง ทำไมมึงไม่ทำตัวให้มันเท่ากูวะ มันน่าเอารองเท้าตบกบาล)
ไอ้ความรู้สึกนี้น่ะ ไม่ใช่ว่าเราต่ำต้อยกว่าเค้าหรืออะไรนะ
มันเป็นความรู้สึกว่าเราไม่มีทางใช้ชีวิตร่วมกับเค้าได้มากกว่า
มันไม่ใช่ กลัวว่าต่อไปมันจะจบลง..อย่างไม่สวยงาม
สู้เก็บความสวยงามของความรู้สึกไว้แค่นี้จะดีกว่า
(ส้มก็จะมาบอกว่า แล้วมึงคิดว่าเป็นอย่างนี้แล้วมันจบอย่างสวยงามรึไงวะ)
นั่นคือคนที่ยังไม่พร้อมที่จะรักใคร กลัวที่จะรัก
นึกย้อนไปตอนนั้น แค่ตัวเองยังดูแลไม่ได้เลย แล้วจะดูแลใครได้
(ส้มก็จะมาด่าว่า ใครอยากได้มึงมาดูแลกู กูดูแลตัวเองได้ มึงจะมาเป็นแฟนหรือเป็นพ่อกู)
นั่นสินะ ไอ้แอบนี่แหละมันเลยยังไม่รู้ซักที
ไอ้กลัวนี่แหละ มันเลยไม่มีอะไรที่ก้าวต่อไป
ถึงเราจะบอกตัวเองได้ว่าเริ่มไปก็เท่ากับจบแน่ๆ เรารู้ตัวของเราดีก็เถอะ
อยู่อย่างเดิมดีกว่า ไม่ขอเสี่ยงดีกว่า
ไม่สิไม่ได้เสี่ยง รู้ผลแน่ๆ เลยไม่ทำ นี่ไม่เรียกว่าเสี่ยง เราจะเข้าข้างตัวเองแบบนั้น
(แต่ส้มมันเสี่ยงนะ ส้มเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีศักยภาพในการเป็นอิสระสูง ผมเคยว่าไว้)
เลยเขียนนิทานจักจั่นขึ้น อยู่ในโจทย์ประลองประจำเดือนนี้ (Feel Good)
และจงใจที่จะจบแบบนั้น เพราะบางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่