หน้า: 1 2 3 [4] 5 6
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมคนไทยจึงรู้สึกว่าศิลปะเป็นเรื  (อ่าน 27693 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ใช่ๆ ของดีบางอย่างหายไปเพราะเทคโนโลยี
เอ๊ย ว่าเทคโนโลยีก็ไม่ถูกนัก เอาเป็นว่า หายไปเพราะรักสะดวก (แปลว่ามักง่ายก็ได้) ดีกว่า

เคยคุยกันถึงคนเขียนรูปติดรถแห่หนัง ป้ายหนัง เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้ว
เพราะใช้วิธีอื่นง่ายกว่า ถูกกว่า อันนี้เหมือนกับที่แอนว่าป้ายงานวัดกลายเป็นอิงค์เจ็ตไปแล้ว

เครื่องมือที่ช่วยให้สะดวกสบายมีให้ใช้เยอะ ราคาถูก รวดเร็ว ก็เลยเป็นที่นิยมกันมากขึ้น
(อันนี้ยังไม่พูดเรื่อง คนทำป้ายอิงค์เจ็ตมักจะเป็น เทคนิกเชี่ยน มากกว่าจะเป็นศิลปิน อย่างคนเขียนป้าย นะ)

บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
ผมว่า มันใกล้ขึ้นนะแอน  ศิลปะรอบตัวเรา มันใกล้เข้าๆเรื่อยๆ ในทีวีก็มีอยู่ทุกช่อง
ในเน็ท ก็มีเยอะแยะ ที่เราจะเสพได้ง่ายๆ  แม้แต่เด็กสมัยนี้ ไม่กี่ขวบ
ก็พยายามสรรหาแนวทางแต่ง HI5 แต่งเนื้อแต่งตัว ทำงานอะไรสักอย่างด้วยตัวเอง

เพียงแต่ว่า รูปแบบมันอาจจะแตกต่างไปแล้วไงครับ
ปัจจุบัน เวลามันมีน้อย ? มันต้องแบ่งไปดำรงชีวิตหมดแล้ว
ความสะดวกสบายและความรวดเร็ว มันเลยเข้ามาแทรกในพื้นที่ตรงนี้ด้วย

อย่างเรื่องกระบวย ก็ง่ายๆเลย ทุกคนอยากได้ กระบวยสวยๆ
มานั่งทำทีละอััน ก็ช้าไป เดี๋ยวมีคนมาทำแข่ง เลยทำเป็นกระบวยอุตสาหกรรมไป
สวยเหมือนกันทุกคน ไม่ต้องน้อยใจ เร็วด้วย สะดวก ประหยัดเวลา

ป้ายงานวัด มานั่งวาดมือ คิดแพง เสียเวลา ไหนจะต้ีองติดหลายที่อีก ไม่ทัน
ปรินท์เลยเถอะโยมเอ้ย พ่อแค่เอาตัวหนังสือใหญ่ๆพอ วันไหนถึงวันไหน มีอะไรบ้าง

อยากได้เว็บสวยๆ โลโก้งามๆ ลอกเว็บเมืองนอกซะเลย คิดเองช้า เสียเวลา
ไกลกันจะตาย คนไม่รู้หรอก ...

ผมมีความรู้สึกว่า ศิลปะปัจจุบัน มันออกไปในทาง ฉาบฉวยมากขึ้นไงครับ
เพราะเราเอง ก็ดำรงชีวิต แบบใช้เวลาเร็วกว่าแต่ก่อนมาก
เรื่องการมานั่งผลาญเวลาประดิษประดอย มันเลยเป้นเรื่องไม่น่าทำ

อย่างผมวาดรูปรูปนึงในคอม ใช้เวลา 15-16 ชม. อาจจะวาดด้วยมือ 2-3 วัน
หรือถ้าไปเลือกรูปเค้ามาแล้วก๊อปตามเลย ก็อาจเหลือแค่ 2-3 ชม.
เวลาจะทำงานอะไรสักอย่าง ผมต้องมีเวลามาเผื่อแผ่กับมันอยู่สมควรเลย
มันเลยสวนทางกับวิถีชีวิต คนทั่วไปไงครับ
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
งั้นก็กลับมาที่ว่า เราไม่ให้ความสำคัญกับศิลปะ น่ะสิ
เห็นเรื่องอื่นสำคัญกว่า การสร้างสรรค์คิดประดิดประดอยนี่ เป็นเรื่องรอง
ไม่จำเป็นต้องคิด ไม่ต้องทำ ไม่เป็นไรน่า
ใช่ไหมครับ
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
อ้อ ใช่ๆ ใกล้ขึ้นแฮะพี่โอด๊ำ

แต่ไอ้ความใกล้ความง่ายนี่เองดันทำให้เราไม่ได้พยายามไขว่คว้าหามัน
อารมณ์จะเหมือนเอาไปเปรียบเทียบกะประเทศที่เขาไม่มีทรัพยากรธรรมชาติดีๆ
แล้วก็เลยไม่เหลิง แต่ต้องขยันเป็นหลายเท่าเพื่อจะสู้กะชาวบ้านได้
ในขณะที่เรานี่ เรียนมาว่าเอกราชก็ไม่เคยเสีย อืมมมมห์ ธรรมชาติก็อุดม อืมมมมห์
นี่เป็นการปลูกฝังเมื่อหลายสิบปีมาแล้วนะ อย่างว่า มันสร้างทัศนคติให้คนเป็นชั่วอายุคนเลยแหละ
เลยกลายเป็นว่าเรางอมืองอตีนได้สบายเลย

พอสบาย มันก็เลยกลายเป็นอะไรๆ ที่ไทยแท้ (ใครบัญญติคำนี้ขึ้นมาวะ)

โดยไม่ได้รู้เลยว่าพอโลกมันเปลี่ยน อะไรมันก็เปลี่ยน
สังคมเราเนียนๆ พาพุ่งหาทุนนิยม แต่ตัวคนยังคงติดนิสัยชิวๆ อย่างที่เขาปลูกฝังมาอยู่

โอเค ก็อปได้สบาย ไม่เห็นเป็นไร
อะไรง่ายๆ เร็วๆ ก็เอาไว้ก่อน เอาการตลาดนำหน้าคุณภาพ
แต่งพลงแต่งเพลงก็ไม่ได้เน้นเป้าหมายว่าเราจะทำเพลงให้ดี
แต่กลายเป็นทำเพลงให้ขายริงโทน

ฯลฯลฯลฯ

เอ๊ะนี่ตูพูดไปก็เหมือนทุบหม้อข้าวบริษัทแห่งนึงที่คุ้มกะลาหัวตัวเองไป อู้ย..
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
มีคนถามโจอี้บอยว่าถ้ามีพรวิเศษขอได้จะขออะไร

โจอี้บอยบอกว่า ขอให้ตัวเองรวย


เพราะถ้ารวยแล้ว เราจะมีเวลามาทำงานศิลปะมากขึ้น จะไม่กังวลกับเรื่องปากท้อง


คิดเหมือนพี่แอนครับ ประเทศเรายังต้องปากกัดตีนถีบอยู่ คนส่วนมากยังเป็นกลุ่มแรงงาน แม่ค้า ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ เป็นหนี้ใช้หนี้ ชีวิตทั้งเลยมีแต่เรื่องหาเงิน หากิน แล้วก็นอน
ศิลปะที่เสพเลยต้องเป็นอะไรที่เร่งๆ หยาบกระด้าน ไม่ต้องคิดมาก แบบละครน้ำเน่า ตบกันเลย แย่งผัวแย่งเมีย สะใจ จบ..

จะให้มาละเมียดกับหนังศิลปะ ที่แฝงด้วยคารมคมคาย ต้องคิดตามตีความให้ออก หรือฟังเพลงแจ็สนุ่มๆ ไลน์ดนตรีล่ำลึกชวนให้จินตนาการ
เห็นจะไม่ได้หรอกครับ


ทุกวันนี้แม่ผมดูแค่ข่าวอย่างเดียว เพราะมันกระทบต่อเรื่องปากท้อง เพลง ละคร หนัง แม่ไม่เคยดูไม่เคยฟังเลย

ถ้าถามว่าจะทำยังไงให้คนไทยหันมาสนใจ

คำตอบคง...




ให้ทักกี้กลับมา ไม่ใช่ๆๆ ไม่ล่ะ ไม่ล่ะ ไม่ล่ะ
รอให้คนไทยร่ำรวยกันก่อนครับ
บันทึกการเข้า

มันไม่เชิงน่ะครับ พี่อ๋า
แต่ว่า มันมีปัจจัยเรื่องของ "เวลา" เข้ามาเกี่ยวเนื่องด้วยไงครับ
มันเลยอาจจะต้องปรับในเรื่องของศิลปะมากขึ้น เพราะยังไงศิลปะก็เกี่ยวเนื้องกับวิถีชีวิตคนอยู่แล้ว
เวลาน้อยลง เราสิ ต้องคิดมากขึ้น ทำยังไงให้งานออกมาดี ในเวลาที่มีอยู่น้อยๆนี้

แต่ก็เพราะเราใช้เวลาเร็วมากขึ้นนี่แหละครับ พี่อ๋ารู้สึกมั๊ยครับ ว่า คนเราเดี๋ยวนี้ ใจร้อนขึ้น ความอดทนต่ำ
ยิ่งต้องใช้ความพยายามมากๆนี่ คนเราจะถอยก่อนแล้ว
ปัญหามันมาจากตรงนี้มากกว่าครับ คนเราอดทนน้อยลง
เราเลยเพิกเฉยต่อเรื่องตรงนี้ น้อยลง อะไรก็ได้ ขอให้มันเสร็จๆไปมากกว่า

นี่พอจะเป็นเหตุให้คนเรา ห่างศิลปะได้มากขึ้น สักข้อนึงมั๊ยครับ
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
เออ อยากรู้ว่าปรากฏการณ์นี้มันเกิดแค่กับคนไทยเท่านั้นเหรอ
หรือที่ซิมบับเวเขาเป็นกันไหมอ้ะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
แค่ที่เมืองลาวเป็นรึเปล่า ตูยังไม่รู้เลย
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R

ศิลปะมันเป็นวิถี

บ้านเราเอาปลามาทอดขายได้แปดสิบ
เมกาเอาไปทำฟิชเบอร์เกอร์ขายได้ร้อยกว่า
ญี่ปุ่นไม่ทำเห้อะไรเลย เอามีดคมๆ มาแล่บางๆ เอาหญ้ามาแปะๆ ขายจานละสามร้อย แถมทำได้หลายจานด้วยนะ



มันเป็นศิลปะ  อืมมมมห์
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ทีนี้อีแบบที่จับต้องได้ และอยู่กับวิถีอย่างเราๆ นี่แหละครับประเด็น
คือมันเริ่มจะไกลตัวเราขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกแบบนี้ไหมครับ (ตูพยายามจะชวนคุยเรื่องนี้)

ใช่ มันหายไป


ชอบดูลายรถสิบล้อด้วย เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีให้ดูแล้ว  ฮือๆ~
ลายที่ตัดฉลุโลหะแล้วลงสี สวยดี



//รู้สึกคล้ายๆ ที่พี่อ๋าบอก "ไม่ให้ความสำคัญกับศิลปะ" สัมพันธ์กับเรื่อง "เวลา" ที่โอดำบอก
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าจะให้ติ๊กตกแต่งอาหารด้วยของที่ไม่กินแน่ๆ ติ๊กจะไม่ทำ
ให้แกะสลัก ติ๊กก็ไม่ทำ เพราะมันเสียเนื้อผักและผลไม้ จริงๆ แล้วทำไม่เป็น
แต่บางครั้งอยากเก๋ก็เอาที่กดเป็นรูปดาว ดอกไม้มาใช้กับแครอท
แบบนี้จัดว่าไม่ให้ความสำคัญกับศิลปะ และมักง่ายระดับหนึ่งเลยมั้ยนะ  อ๊าง~
บันทึกการเข้า

เราเป็นเช่นเราเชื่อ    :: tK ::    :: สีมา ::
ผมว่าเป็นทุกที่ในโลก ที่เวลามันเดินเร็วกว่าชาวบ้านเค้านะครับ  หมีโหด~
ซิมบับเว อาจจะยังไม่เป็น เพราะ 24 ชม. เค้าอาจจะยังยาวนานกว่า 24 ชม. บ้านเรา

แต่ความเร็วของเวลา ไม่ใช่ ปัจจัยอย่างเดียวนะสิครับ
มันก็ย้อนกลับไปว่า คำว่า ศิลปะ เราฝังหัวไว้อยู่แค่ไหนนะสิครับ  หมีโหด~

ยกตัวอย่างคนญี่ปุ่น (อีกแล้ว) ผมว่า ประเทศเค้า 24 ชม ก็คงเร็วกว่า 24 ชมบ้านเราอีก
แต่เค้าก็ยังคงศิลปะเค้าไว้ได้ในระดับที่ถือว่าดี ยิ่งเรื่องการมาประยุกต์ใช้ยิ่งดีขึ้นไปใหญ่
เพราะพื้นฐานเค้าคิดว่า ศิลปะเป็นเรื่องสำคัญอยู่ในมโนสำนึกอยู่แล้ว
ดังนั้น เราจะทำยังไงให้ เวลาเท่านี้ เราสร้างสรรอะไรได้ดีกว่านี้
และลูกค้า ก็ตั้งกฏเกณฑ์ไว้ในระดับเดียวกัน

ผมว่าตรงนี้ ก็มีส่วนนะครับ ที่ทำให้ ป้ายบางป้าย ดูดีโคตรๆ ในเวลาเดียวกันกับอีกที่ ดูไม่จืดเลย

ตัดหน้า 3 คน

// เรื่องกดดาว ของพี่ติ๊ก ใช้ได้กับเรื่อนี้นะครับ
รู้ว่าเวลาไม่มี แต่ก็ยังอยากจะตกแต่งอยู่ ถึงกับใช้ เครื่องมือให้เป็นประโยชน์
คือ พยายามดิ้นรนก่อน อย่างน้อย มันก็ดีกว่า หั่นๆไปเฉยๆก่อนใส่จาน
ผมว่า มันต้องมีตรงนี้ด้วยไงครับ
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
ไอ้ที่กดดาวน่ะไม่สำคัญนะผมว่า
สำคัญที่คิดจะให้เป็นดาวไหม หรืออยากให้มันงาม มันน่าสนใจขึ้นไหมต่างหาก
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
หรือเอาสะดวกกว่านั้นก็ไปซื้อกินปากซอย


หรือเอาสะดวกกว่านั้นอีก พี่เจนก็ไปกินกะน้องเชอรี่..
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
จากที่ผมดูมาแล้วเอามาเปรียบเทียบดูนะครับ
1.ญี่ปุ่น+เซน=มินิมอลลิสม์
2.ประเทศไทย+จารีต+ศาสนา=อลังการศิลป์(อันนึ้คือพวกลายไทยนะครับ)
ดังนั้นคนไทยเลยได้รับการปลูกฝังมาว่าศิลปะเป็นอะไรที่ยุ่งยากเข้าถึงยากพอมาถึงปัจจุบันก็ได้รับอิธิพลมาจากในอดีตเหมือนขายตรง
3.ทางด้านยุโรปนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับเพราะชนะสงครามโลกครั้งที่2 พวกศิลปปินจากที่รัสเซัยเช่น บาวเฮ้า ฯลฯที่ เก่งๆนี่หนีไปด้านนั้นหมด
///ตัดหน้า4คน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ก.ค. 2009, 14:59 น. โดย อิคคิว » บันทึกการเข้า

ส่วนเรื่องที่โอดำว่าเป็นเรื่องความเร็วแห่งเวลาอะไรนั่น
ผมว่าก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับความรักที่จะทำงานศิลปะ หรือการให้ความสำคัญในงานศิลปะนะ
เทคโนโลยีที่ดีขึ้น ยิ่งน่าจะช่วยให้เรามีเวลาคิดมากขึ้น
มีเวลาลงมือทำได้ในเวลาที่น้อยลง

ไม่ใช่เอาไว้ก๊อปกันได้ง่ายๆ
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!