เคยไปตัดแว่นที่บิวตี้ฟูล ท๊อปเจริญ (ปกติตัดร้านหมอ) ซึงจะไปตัดร้านพวกนี้ในกรณีเร่งด่วน เช่นแว่นแตก หรือ หาย
ซึ่ง ท๊อปเจริญหนึ่งครั้ง และ ตัดบิวตี้มาหนึ่งครั้ง
ท๊อปเจริญ เหตุเกิดจากนอนหลับทับแว่นแตก แล้ว อีกไม่กี่วันจะสอบ ต้องอ่านหนังสือ
เราคิดว่าร้านแบบนี้มันน่าจะมืออาชีพ ตัดสามนาทีได้ อะไรแบบนี้ แต่ปรากฏว่าต้องรอวันรุ่งขึ้น โหววว
เสียเวลามาก ต้องเดินทางมารับในวันรุ่งขึ้นอีก ตาก็มองไม่ค่อยจะเห็น
ครั้งต่อมา เหตุอะไรจะไม่ได้แล้ว เลยเปลี่ยนไปตัดร้าน
บิวตีฟูล ตอนนั้นมีโปร หนึ่งแถมหนึ่ง พนักงานสาวมาบอกว่าอย่างนี้นะคะ เพิ่มตังอีกหน่อยได้ ย่อ บาง มัลติโค้ด
พาวเวอร์ฟูลออปชั่นมัลติเพล็ก ใส่แล้วมองทะลุเสื้อผ้าได้ เพิ่มตังอีกหน่อยเดียวเองนะคะนะคะนะคะ
เราก็โอนเอน โดนสะกดจิตคล้อยตาม ได้แว่นมาสองอัน สนนราคาไปแปดพันกว่าบาท
ใช้เวลารอสามชั่วโมง
แถมตอนมารับแว่น ทำเลนส์ให้ตูกลับข้างอีก ซ้ายสลับขวา
เราก็ถามว่า จะต้องไปเจียใหม่หรือเปล่า
แล้วอีเจ้าหน้าที่คนที่กล่อมตูเมื่อกี้ มันเอาไปสลับข้างกันเฉยเลย
ที่นี้มันก็ไม่พอดีกรอบสิ คือมันออกมาในสภาะเบี้ยวๆบูดๆ (เลนส์ซ้ายเลยขวา ไม่ใช่อยู่ๆจะเอามาสลับได้นะเว้ยเฮ้ยยยย
เหมือนมือซ้ายมือขวา สมมุติหมอต่อมือผิด แล้วจะบอกว่าให้หยวนๆ มันไม่ใช่โว้ยยยย)
ต่อไปตูจะไม่หลงเชื่อ อีโปรโมชัน หนึ่งแถมหนึ่งแล้ว
แล้วมันก็จมน้ำลงไปใต้เขื่อนที่กาญจนบุรี
อันล่าสุด ด้วยความที่ไร้ตังค์หลังจากการไปเที่ยว
จึงคิดว่าเดินหาร้านแว่นกากๆ ที่ไม่ใช่สองร้านนี้แล้วกันวุ้ย
เลยเดินไปในห้างเซนทรัลปิ่นเกล้า เดินไปเหมือนมีGT200นำทาง
ไปเจอร้านแว่นตา ชื่อไท๊ไทย จำชื่อไม่ได้ เดินเข้าไป มีแบบ ห้าร้อยก็มี แต่กรอบมันไม่สวย เลยเลือกที่ราคาสูงขึ้นมาอีกนิด
กรอบพร้อมเลนส์อยู่ที่พันห้า กรอบแบบเดิมเลย แถมตัวเลนส์ก็มัลติโค้ตพาวเวอร์ฟูลสะบะลูบึ้ม อะไรนั่นด้วย
เรียกว่าเสป็กเดียวกะ ของเดิม ในราคาที่ถูกกว่าชิบหาย
แถมใช้เวลารอแค่ยี่สิบนาที
คือเร็วมาก เร็วสุดๆในชีวิตการตัดแว่นแล้วอ่ะ คือ ตอนที่เขาประกาศชื่อ "คุณวันสว่าง" ในใจคิดว่ามีปัญหาอะไรวะ
แต่พอรู้ว่าแว่นเสร็จแล้ว ก็ หะอะไรนะ เสร็จแล้ว
คือบางที่เราอยู่ในโลกแห่งโฆษณามากเกินไป จนคิดว่าร้านแว่นต้องท๊อปเจริญหรือบิวตีฟูลเท่านั้น
เพียงแต่สินค้าเหล่านี้ไม่ได้มีสิทธิ์เลือกมากนัก ไม่เหมือน เหมือนกับ ฝงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ที่ได้ลองใช้ด้วยตัวเอง ถ้ามันไม่ดีไม่เหมาะ
ก็เปลี่ยนยี่ห้อไป (มีไม่กี่คนที่จะเปลี่ยนแว่นใหม่ทุกเดือน มันจะอยู่กะเราไปอย่างน้อยหนึ่งปี)
การที่จะรู้ว่ามันดีไม่ดี มันก็ต้องอาศัยผู้ที่เคยที่มีประสบการณ์ มาเล่าสู่กันฟัง อย่างในกระทู้นี้
มันอาจเป็นความโชคไม่ดีของผมเองที่ไปทั้งสองร้านนี้แล้วไม่ถูกจริตของผม ซึ่งคนที่แนะนำผมมาเขาก็ใช้ดีไม่มีปัญหา
บางครั้งการซื้อสินค้า เราไม่จำเป็นต้องยึดติดกะยี่ห้อ มากเกินไปเพราะบางที สิ่นค้าเหล่านั้นเค้าเสียเงินไปในค่าโฆษณา สินค้าของเขาจึงแพงขึ้น
ในคุณภาพเท่าๆกัน
(แต่เครื่องใช้ไฟฟ้านี่ผมติดยี่ห้อนะ ต้องซื้อแต่พวก ฮิตาชิ โซนี่ เนชันแนล อะไรแบบนี้ พวก ฮานาบิชิ มิซูชิตา อะไรแบบนี้ก็
เหมือนกันนะ )