---------------
ขออนุญาตใช้พื้นที่ครับ
Manison เป็นฟอนต์แบบเซอริปที่ความเปรียบต่างสูง..มาก จึงเหมาะกับการผาดหัวมากกว่า
ที่จะใช้เป็นเนื้อความ ก่อนหน้าก็ได้ทำฟอนต์แบบเซอริฟมาแล้ว ฟอนต์นี้อยากเติมลูกกลมๆ (ไม่รู้เรียกว่าอะไร)
ที่ส่วนปลาย และใส่ความพริ้วไว้ให้มากยิ่งขึ้นกว่าตัวก่อนหน้า วาดตัวอักษรสำหรับตัวเอียงของทั้งละตินและไทย
พร้อมเพิ่มความกว้างเป็น 5 ความกว้าง มีทั้งหมด 90 สไตล์
ชื่อ Manison มากจากสองคำ คือ มณี และ อักษร
มณีเป็นหินมีค่าสวยงามและเป็นเครื่องประดับบวกกับคำว่าอักษร ให้ความหมายว่า "อักษรอันสวยงามล่ำค้า"
technical Term:
ฟอนต์มีการจัด Kerning สำหรับตัวอักษรไทยหลายคู่ โดยปกติแล้วไม่ค่อยมีการจัดกัน (คิดว่างั้น)
จะมีการจัด Kerning แบบปกติเหมือนตัวละติน และจัดแบบ Contextual Kerning สำหรับ
อักษรที่มีการพิมพ์สระหรือวรรณยุกต์บนล่างคู่กับพยัญชนะ ให้มีการ Kern เข้าหากัน
Kerning แบบปกติแล้วหากพิมพ์สระหรือวรรณยุกต์จะเสียการ Kern ไป
ตัวอย่างการเขียน Kerning แบบปกติ
feature kern {
pos nonuthai nonuthai -20;
} kern;
ตัวอย่างการเขียน Contextual Kerning
feature kern {
pos nonuthai saraiithai' -20 nonuthai;
} kern;
โดยจัด Kerning แบบปกติก่อน จากนั้นใช้ Python เขียนสคริปแปลง Kerning แบบปกติให้เป็น Contextual Kerning
โดยเรากำหนดว่าอักษรคู่ไหนที่ต้องการทำการแปลงโดยกำหนดเป็น Array List
["พยัญชนะN,,", "สระหรืออวรรณยุกต์N..", "ตัวสะกดN.."]
หรือ
["พยัญชนะN,,", "สระN..", "อวรรณยุกต์N..", "ตัวสะกดN.."]
เขียนสคริปให้ตรวจเช็คว่า อักษรตัวแรกกับอักษรตัวสุดท้ายมีค่า Kerning อยู่หรือไม่
ถ้ามีให้เขียน ot featuare file โดยดึงตัวอักษรระว่างตัวแรกกับตัวสุดท้ายมาทำ Contextual
และกำหนดค่า kerning ลงไป
ผลลัพจะได้ไฟล์ .fea
languagesystem DFLT dflt;
languagesystem latn dflt;
languagesystem thai dflt;
feature kern{
pos [nonuthai..] [saraiithai..]' -20 [nonuthai..];
.
.
}kern;
---หรือ--
feature kern{
pos [nonuthai..] [saraiithai..] [maithothai..]' -20 [nonuthai..];
.
.
}kern;
แล้วเราก็ import เข้า fontforge