หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 34
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมเนียมของภาพยนตร์  (อ่าน 114584 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เข้าใจว่าทุกคนคงจะทราบว่า
ทุกครั้งก่อนชมภาพยนตร์ จะต้องมีการแสดงความจงรักภักดี
ด้วยการยืนถวายความเคารพพร้อมเพลงสรรเสริญพระบารมี

แต่อยากทราบว่า เริ่มมีการปฏิบัติแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่
มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
และในต่างประเทศที่มีกษัตริย์เป็นประมุข มีธรรมเนียมแบบนี้มั้ย

ใครพอจะแถลงไขได้บ้างครับ

แก้ไข: เขียนภาพยนตร์ผิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มี.ค. 2006, 23:05 น. โดย [+] » บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
ไม่รู้แต่ชอบเพลงสรรสริญมาก ได้ยินในโรงหนังครั้งแรก เราน้ำตาคลอ  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

no food no fat no out no loose
"รักไม่กลัว กลัวไม่รัก
ถามไม่กลัว กลัวไม่ถาม
ยิ้มไม่กลัว กลัวไม่ยิ้ม"
ไม่ยืนยันนะครับ แต่เริ่มมีมาตั้งแต่สมัย ร.6  ครับ เป็นช่วงที่มีการส่งเสริม
การแสดงมหรสพ ในการแสดงมหรสพ บางครั้ง เสด็จท่านก็เสด็จมาชม หรือพระองค์
ทรงแสดงเองค์ จึงต้องมีการถวายพระพรก่อน อันนี้คุ้นๆจากที่เคยเรียนนะครับ ไม่
ยืนยัน ถ้าไงผู้รู้มายืนยันอีกทีนะครับ ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
ขอบคุณคุณ iodum ค่ะ   (แจ๋ว แจ๋ว)
บันทึกการเข้า

เลวยั้นเงา
เคยอ่านครับ ว่าสมัยที่เขาปฏิวัติและมีพวกของกระแสนิยมอย่างหนังเข้ามาในบ้านเราเนี่ย ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำเริ่มน่ะครับ - แต่ตอนแรกนี่เพลงมันอยู่ท้ายเรื่องนะครับ แต่ตอนหลังรู้สึกจะไม่ได้ผลเพราะลุกหนีกันก่อน เลยเปลี่ยนมาไว้ตอนก่อนเริ่มเรื่องครับ

แล้วก็มีแต่คนเข้าโรงช้า
บันทึกการเข้า
เสริมนิดนึง
สังเกตได้ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในยุคที่เกิดการรุกรานของสงคราม
เราจะได้เห็นโยบายส่งเสริมความเป็นชาตินิยมแทรกอยู่กับทุกอณูชีวิตครับ
ผิดถูกไม่รู้ เพราะจะว่าไปเราเอาไม้บรรทัด 2549 ไปวัด 24XX มันก็ไม่ตรงนัก
การแต่งกาย ดนตรี ภาษา อาหาร วรรณกรรม มหรสพ สถาปัตยกรรม
ทุกอย่างมันเพื่อการสร้างอัตลักษณ์ของชาติทั้งนั้นแล
ดังนั้นประเพณีการยืนถวายความเคารพนี่ จึงเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของไทยครับ

ป.ล.แอบแก้ชื่อจู๋โดยพลการ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เพลงสรรเสริญพระบารมี


ชอบเหมือนกันค่ะ   ฮือๆ~  ถ้าดู MV ประกอบด้วยแล้ว
จะซาบซึ้งไปกับบทเพลงค่ะ  ฟังแล้วขนลุก  

ให้ความรู้สึกที่สุดยอดค่ะ  เจ๋ง
บันทึกการเข้า

เลวยั้นเงา
เห็นวันนั้นดูรายการ

ลุงสายัญ สัญญา บอกว่า ก่อนขึ้นคอนเสิร์ต ลุงจะต้องร้องเพลงสรรเสริญก่อน (ไม่ใช่สรรเสริญหรอก...อะไรสักอย่าง = =)

เพราะเห็นว่าเวลามีพิธีเปิดอะไร คนไทยก็ควรจะระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณโดยการยืนเคารพ

แล้วลุงก็บอกว่า พวกโรงหนังเนี่ย ที่เปิดเพลงสรรเสริญกัน ก็เริ่มต้นมาจากลุงเนี่ยแหละ

...เห็นเขาว่างั้น

บันทึกการเข้า
^
เป็นมุกของแกล่ะมั้ง

ผมชอบดูหนังเปลี่ยนโรงไปเรื่อยๆ ไปดูเพลงสรรเสริญของแต่ละที่
อลังการต่างกันดี ชอบๆ
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
เวลาเพลงขึ้นนี่ บางคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยครับ

แต่ผมเป็นคนสุดท้ายเสมอที่จะนั่งลงเวลาเพลงจบ...
บันทึกการเข้า
ปกติเห็นแต่เขียนว่าภาพยนตร์นะครับ
ไม่รู้ภาพยนต์มันเขียนได้รึเปล่า

เข้าเรื่อง
เพลงสรรเสริญฯก็เคยเป็นเพลงชาติของไทยมาก่อนนะครับ อยู่ในฉบับที่ 3
(อ่านประวัติเพลงชาติได้ที่นี่ http://www.banfun.com/thai/thai-anthem.html)

แต่ก่อนน่ะ มันไม่มีโรงหนังหรอกครับ มีแต่หนังกลางแปลง โขนลิเก ดนตรีลูกทุ่งอะไรพวกนี้
เขาเรียกว่างานมหรสพครับ เมื่อกี้เลยได้มีโอกาสไปคุ้ยข้อมูลใน google ก็เลยเจอที่เว็บนี้
http://www.culture.go.th/knowledge/thaiflag/03.htm
มีอยู่ตอนนึงได้กล่าวถึงระเบียบการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติ
สมัย พ.ศ. 2478 ช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 3 ปี

ขอแอบอ้างเอามาหน่อยนะครับ
_____________________________________________________________________________________

ประกาศ
ระเบียบการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติ

โดยที่เห็นสมควรวางระเบียบการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติ คณะรัฐมนตรีจึงได้ปรึกษาลงมติด้วยความเห็นชอบของคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ให้ประกาศระเบียบการดังต่อไปนี้
๑. เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาตินั้น มีแบบสังเขปและแบบพิสดารดั่งตัวอย่างที่สอบดูได้ ณ กรมศิลปากร
๒. โอกาสอันใดสมควรจะบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และโอกาสอันใดสมควรจะบรรเลงเพลงชาตินั้น อาศัยหลักเกณฑ์ดั่งนี้ คือในกรณีใดที่มุ่งหมายจะถวายความเคารพแด่พระมหากษัตริย์เฉพาะพระองค์ก็ดี หรือ ในฐานที่ทรงเป็นประมุขแห่งชาติก็ดี สมควรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีและในกรณีที่มุ่งหมายจะแสดงความเคารพต่อชาติก็สมควรบรรเลงเพลงชาติ ทั้งนี้ภายใต้เงื่อนไขดั่งจะกล่าวต่อไป
๓. ในการพิธีซึ่งเสด็จพระราชดำเนินหรือมีกำหนดเสด็จพระราชดำเนิน หรือมีความมุ่งหมายที่จะถวายความเคารพแด่พระมหากษัตริย์นั้น โดยปกติสมควรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีแบบสังเขปแต่ถ้าเป็นพิธีใหญ่เช่นที่มีกำหนดให้แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ก็สมควรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีแบบพิสดาร
ในการพิธีดังกล่าวแล้ว ถ้ามีความประสงค์จะแสดงความเคารพต่อชาติด้วย จะบรรเลงเพลงชาติด้วยก็ได้ ส่วนจะบรรเลงแบบสังเขปหรือแบบพิสดารนั้น ให้อนุโลมตามความในวรรคก่อน
๔. ในการพิธีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนนั้น โดยปกติสมควรบรรเลงเพลงชาติแบบสังเขป แต่ถ้าเป็นพิธีใหญ่ก็สมควรบรรเลงเพลงชาติแบบพิสดาร
๕. ในการสโมสรสันนิบาต ถ้าดื่มถวายพระพรพระมหากษัตริย์ก็สมควรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ถ้าดื่มเพื่อความเจริญของชาติและรัฐธรรมนูญก็สมควรบรรเลงเพลงชาติ
๖. ในการมหรสพ สมควรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีแบบสังเขป แต่ถ้ามีการแสดงเป็นพิธีใหญ่ก็สมควรบรรเลงแบบพิสดาร
๗. ระเบียบการนี้เกี่ยวกับการบรรเลง เพราะฉะนั้นถ้าจะมีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีหรือเพลงชาติแล้ว ก็ย่อมบรรเลงประกอบคำร้องจนสิ้นบทเพลง
๘. ในกรณีอื่น ๆ ที่มิได้บ่งไว้ในระเบียบการนี้ ให้นำข้อความในระเบียบการนี้มาใช้โดยอนุโลมทั้งนี้ให้เริ่มใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๗๘ เป็นต้นไป

ประกาศมา ณ วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๗๘
พ.อ. พหลพลพยุหเสนา
นายกรัฐมนตรี
_____________________________________________________________________________________

ซึ่งแต่ก่อนเพลงสรรเสริญฯเขาจะเล่นกันหลังหนังจบ แต่คนไทยก็อย่างว่าแหละนะ หนังจบปุ๊บก็เผ่นแน่บ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ดูชัยบดินทร์โชว์ ตอนที่เอาคุณเป้า สายันต์ มาออก เขาบอกว่า ก่อนตัวเองจะเป็นนักร้อง เขาเห็นภาพเหล่านี้แล้วก็ไม่สบายใจ เลยบอกกับตัวเองว่าถ้าวันนึงมีวงดนตรีขึ้นมา เขาจะทำเพลงๆนึง ที่เอาไว้เทอดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เลยให้ครูเพลงมาแต่งเพลงให้เพลงนึง เพลงอะไรผมก็ไม่รู้ล่ะ เพิ่อที่จะเอาไว้บรรเลงก่อนเริ่มแสดง เขาก็บอกว่าหลังจากที่เขาทำอย่างนี้ ก็เลยมีคนปฏิบัตตามๆกันมา
พี่เป้าเลยบอกว่าพี่เขาเป็นคนแรกที่ริเริ่มเรื่องนี้

ส่วนต่างประเทศเป็นไงผมไม่รู้ครับ แต่เดาว่าคงไม่มีพิธีแบบนี้

ส่วนคนไทยก็ไม่แน่ครับ ต่อไปก็คงไม่มีเหลือ หากสังคมยังเป็นแบบนี้อยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 มี.ค. 2006, 23:23 น. โดย ooooo » บันทึกการเข้า
เวลาเพลงขึ้นนี่ บางคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยครับ

แต่ผมเป็นคนสุดท้ายเสมอที่จะนั่งลงเวลาเพลงจบ...


อ้าว เอ็งเองเรอะ
ถึงว่า วันนั้นในโรงมีไอ้เบ้าที่ไหนไม่รู้พยายามจะนั่งเป็นคนสุดท้ายเหมือนกัน
ตูก็ไม่ยอม มันก็ไม่ยอม
สุดท้ายก็ยืนดูโบร๊คแบ็คกันจนจบทั้งคู่ เกย์ออก
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
อ้อ - พี่แอนคือคนที่ปากป็อปคอร์นใส่หัวผมใช่มั้ย

แล้วหลบรองเท้าผมได้ไงล่ะนั่น นึกว่าปาเร็วเหนือเสียงแล้วนะ
บันทึกการเข้า
ชอบของ SF ที่มีแต่ทำนอง ใช้เครื่องดนตรีไทยบรรเลง
ชอบตอนอังกะลุงมาก

เพราะสุดๆ
บันทึกการเข้า

หมู หมา กา ไก่
ขี้หมู ขี้หมา ขี้กา ขึ้ไก่
คลิกแล้วมันส์สสส
อ้อ - พี่แอนคือคนที่ปากป็อปคอร์นใส่หัวผมใช่มั้ย

แล้วหลบรองเท้าผมได้ไงล่ะนั่น นึกว่าปาเร็วเหนือเสียงแล้วนะ


ตูไม่ได้ปา เพราะตูไม่ได้ซื้อข้าวโพดคั่ว
คาดว่าจะเป็นตาลุงข้างหลัง เอ็งเล่นยืนบังอยู่ยังงั้นแกเลยรำคาญ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 34
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!