หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 15
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เงินเก็บ  (อ่าน 65090 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
มีแต่มีน้อย  เศร้า
บันทึกการเข้า
ใช้เงินไม่ค่อยเป็นครับ
อีกอย่างคือได้เป็นรายวัน เลยไม่ค่อยมีปัญหา
บันทึกการเข้า
ตอนนี้ใช้เดือนชนเดือนเหมือนกัน  เฉพาะเงินเดือนหนะไม่เหลือ  แต่เก็บได้ในรูปแบบเงินออมสะสมและสหกรณ์ออมทรัพย์  ที่หักเงินเราทุกเดือน(แต่มันเบิกมาใช้ไม่ได้)

ลองคำนวณค่าใช่จ่ายแต่ละเดือน  ห่านเอ้ย  เกินเงินเดือนไปตั้งเยอะ  อยู่รอดได้ด้วย โอทีนะเนี่ย  ถ้าไม่มีมันตูอดตายแน่ๆ   ตอนนี้พยายามเก็บเงินสดไว้เพื่อเอารถไปติดแก็ส

อยากดูหนัง  อยากเที่ยว อยากโยนโบว์  อยากไปทะเล  ทำได้แค่คิดเท่านั้น  ง่ะ


ปล.ดูหนังโรงปีละ 2-3 เรื่องเท่านั้น
ปอ.ค่าขนม i-Palm มากกว่าเงินเดือนตูอีก   ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

โฮ๊ะ  โฮ๊ะ  โฮ๊ะ  โฮ๊ะ
อิจฉาไอ้เต่า กะไอ้สาม
เห็นบอกมาหลายทีแล้วว่าสามารถหาเงินเองได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้ามหาลัยด้วยซ้ำ
อันนี้ขอชื่นชมจากใจจริง เพราะคอนโทรลเงินเองได้นี่ถือว่าเอ็งเจ๋งทั้งคู่

ตูขอตังค์แม่กินจนเรียนจบ (ตอนปี 3-4 ได้เดือนละ 4000 เคยมากสุดก็ปี 5 ได้ 4500 บาท)
ซึ่งแน่นอนว่าสถานการณ์มันบังคับให้ต้องแอบทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย
เพราะคณะนี้ใช้เงินโหดหลาย (โปรเจ็คนึงก็หมดไปหลายพันละ ยิ่งตีสิสนี่หลักหมื่นครับ)
พอจบปั๊บสั่งแม่เลย ว่าไม่เอาเงินแม่แล้ว

โชคดีที่จบมาก็เป็นมนุษย์เงินเดือนทันทีเลยไม่ต้องปรับตัวอะไร
ทำงานและใช้เงินที่ได้มาจนหมด เหลือนิดหน่อยตอนปลายเดือน
แต่ทำได้แค่เดือนกว่าๆ ก็ติดทหาร เลยลาออกมาอยู่นิ่งๆ เดือนนึง
(ปรากฏว่าเดือนนั้นที่อยู่นิ่งๆ ก็มีรายได้มากกว่าตอนทำงานซะอีก)

พอเข้ารายงานตัวที่องร้อยก็ยกเงินทั้งหมดให้แม่
ตอนนั้นบอกให้ยืม แต่ตอนนี้ให้ลืมไปแล้ว (หล่อไหม)

ปลดจากทหารมาตูจึงมีเงินเก็บทั้งสิ้น.. 0 บาทไทย
วันนี้จึงเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้ง ดูซิว่าจะไปรอดได้แค่ไหน




ป.ล.
ยังมีตังค์กองทุนเว็บฟ๐นต์ที่ตูอาศัยยืมมาหมุนใช้อีกหน่อย  ฮี่ๆ
แต่ไม่เป็นไรครับ ไม่มีทางรบกวนบัญชีสาธารณะเด็ดขาด
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ยักษ์ได้มากกว่าตูห้าร้อย ตูได้เดือนละ 3500 แต่ตอนนั้นข้าวจานละ 10 บาทยังมีขาย   (แจ๋ว แจ๋ว)

หลักสำคัญผมว่าไม่ใช่เรื่องเงินเก็บ หรือการให้รางวัลกับชีวิตนะ แต่เป็นเรื่องการวางแผนชีวิต เรื่องการใช้เงินมันเป็นส่วนหนึ่ง ปัญหาที่เราเจอ ๆ กันคือ เราไม่ได้วางแผนชีวิต เลยไม่ได้วางแผนการใช้เงินตามไปด้วย เคยได้ยินข่าวคนถีบสามล้อ(หรือประมาณนี้)ถูกหวยรางวัลที่ 1 แต่ภายใน 6 เดือน เขากลับมามีสภาพเหมือนเดิมหรือเปล่า

อย่างปามนี่อีก 5 ปีสงสัยเป็นเศษรฐีนี ไว้จะไปกู้เงินบ้างนะจ๊ะ  ฮี่ๆ
บันทึกการเข้า

[ว่างให้เช่า]
ตอนมหาลัยผมได้เดือนละ 3000 ค่าหอพี่จ่ายให้ ไอ้มืดหมี จะเก็บเงินซื้อกีต้าร์ซักตัวยาก( ต่ำๆก็ 5000 อัพ )
ตอนนี้ซื้อมาหลายเดือนแล้ว กีต้าร์โมเรียบร้อย 25000 เอ็ฟเฟ็ค 13000 accessory อีกประมาณ 8000 กว่า
มันเลยเป็นสาเหตุให้เงินเก็บไม่ค่อยสวยซักเท่าไร เมื่อคืนถามเพื่อนมันเก็บได้เป็นแสนแล้ว ไอ้มืดหมี

เคยบ้าเก็บเงินช่วงทำงานแรกๆ 1 อาทิตย์ ทำงาน 6 วัน ทำความสะอาดบ้าน 1 วัน ดีไม่ดีทำมันทั้ง 7 วัน จนเริ่มรู้สึกเหนื่อย แล้วก็เลยถามตัวเองว่า กูเก็บไปทำไมวะ ไม่เห็นมีความสุขเลย หมีโหดดดด

ตอนนี้เป้าหมายคงทำเดโม่ซักอัลบั้ม แล้วก็เก็บเงินทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ก็ไปอเมริกา เอือม

ปล. ชอบเก้อว่ะ "พ่อแม่แนว"  ลันล้า
บันทึกการเข้า



ปล. ชอบเก้อว่ะ   ลันล้า
โห
บันทึกการเข้า
เวลาพ่อถาม

ผมจะตอบจำนวนเงินเกินแสนตลอดครับ
บันทึกการเข้า
...
เคยบ้าเก็บเงินช่วงทำงานแรกๆ 1 อาทิตย์ ทำงาน 6 วัน ทำความสะอาดบ้าน 1 วัน ดีไม่ดีทำมันทั้ง 7 วัน จนเริ่มรู้สึกเหนื่อย แล้วก็เลยถามตัวเองว่า กูเก็บไปทำไมวะ ไม่เห็นมีความสุขเลย หมีโหดดดด

คิดเหมือนผมตอนนู้นเลย บอกกับตัวเองเสมอ เงินมีไว้ใช้ไม่ได้มีไว้เก็บ เที่ยวแหลก อยากได้อะไรซื้อ อยากทำอะไรทำ จนมาถึงวันหนึ่งถึงคิดได้ว่า เราไม่ได้มีชีวิตแค่วันนี้ เราต้องสมดุลชีวิตให้กับทุกช่วง นั่นหมายถึงว่า ถ้าพรุ่งนี้เรายังไม่ตาย เราก็ต้องกิน อีก 10 ปี ยังไม่ตายก็จำเป็นต้องกิน ชีวิตจึงต้องวางแผน และวางเป้าหมาย คือแน่นอนว่าสุดท้ายทุกคนต้องตาย แต่ก่อนตายนี่สิ ยิ่งอยู่ในยุคบริโภคนิยม ทุนนิยม หนีไม่พ้นที่ต้องใช้เงิน ยกเว้นว่าจะปลีกวิเวกแสวงหาสัจจธรรมที่เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญในชีวิต

การสมดุลชีวิตในความหมายผมคือ เราใช้ชีวิตในวันนี้ เราต้องคิดวางแผนในวันพรุ่งนี้ด้วย เช่นวันนี้เรามี 10 บาท เราจะฟาดให้หมดทั้ง 10 บาท แล้วพรุ่งนี้ค่อยอดเอาหรือเปล่า บางคนบอก เผื่อพรุ่งนี้ฟลุ๊คหาเงินได้ 100 บาท จะไปคิดทำไมให้ปวดหัวพรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง

ผมชอบท่อนเพลงท่อนหนึ่งของอัสนี-วสันต์ "เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ เหลือจ่ายค่อยเอาไปเก็บ" อย่าทำให้ชีวิตเป็นทุกข์ แต่เราต้องสร้างสมดุลทุกช่วงชีวิตของเรา  เจ๋ง



บันทึกการเข้า

[ว่างให้เช่า]
ตอนเรียนมหาลัยได้ 2500  ง่ะ เป็นเงินเดือนของทุนกู้ยืมของรัฐบาล
ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่รอด หุงข้าว ทำกับข้าวกินเอง
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
ทุกเดือนแม่จะถามว่า เก็บเงินได้เท่าไหร่แล้ว
แล้วก็ต้องเอาไปฝากแม่ แม่จะเอาไปฝากธนาคารให้
กินดอกเล่น  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
ตอนเรียนมหาลัยได้ 2500  ง่ะ เป็นเงินเดือนของทุนกู้ยืมของรัฐบาล
ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่รอด หุงข้าว ทำกับข้าวกินเอง


ค่าหอผมก็ 2500 แล้วพี่ กร๊าก (เหลือใช้แค่เดือนละพันกว่าบาท)
เช่าอยู่ไว้เก็บของ แต่ตัวไปนอนที่คณะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ความสุข เกิดขึ้นตอนใช้เงิน ไม่ใช่เก็บเงินครับ 
แต่ต้องใช้เงินเท่าที่มีนะครับ เงินคนอื่นยิ่งใช้ยิ่งทุกข์

ปล. เรื่องให้เพื่อนยืมเงินเนี่ย ต้องคิดเลยว่าให้เปล่า เลยต้องให้แต่พองามครับ (ถ้าจะยืมรอบสองต้องคืนรอบแรกให้หมดก่อน) แต่เพื่อนที่ดีจริงๆจะไม่ยืมตังค์เพื่อนนะครับ
บันทึกการเข้า

นักเขียนการ์ตูนรายปี
พูดยากนะเรื่องให้เพื่อนยืมเงิน ผมคิดเหมือนเลย์ ถ้าดูแล้วเพื่อนเดือนร้อน และคงไม่ได้คืนแน่ ก็ให้ยืมพอประมาณ มีเมื่อไหร่ค่อยคืน

แต่ส่วนใหญ่เพื่อนในกลุ่มไว้ใจได้คบกันมานาน อย่างช่วงก่อนเพื่อนจะซื้อบ้านใหม่ให้แม่ แต่ตัวเองหมุนเงินไม่ทัน มาขอยืมระยะสั้น 6 เดือน มันทำสัญญาให้เรียบร้อย เอาโฉนดที่ดินมาวางให้ ถามมันว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ มันบอกว่า เพื่อนไว้ใจกัน แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน มันกลัวจะมีปัญหา โอ้ว ไม่คิดว่าเพื่อนมันรอบคอบขนาดนี้
บันทึกการเข้า

[ว่างให้เช่า]
กูเก็บไปทำไมวะ ไม่เห็นมีความสุขเลย หมีโหดดดด

คิดเหมือนปาล์มเลย กรี๊ดดดดด

แต่ก่อนบ้าเก็บเงินมาก ตอนปี1ได้เดือนละ3000 ใช้1000 เก็บ 2000
พอเงินเดือนพัฒนามาเรื่อยๆ เงินเก็บกลับไม่พัฒนาตามอัตราการเพิ่มของเงินเดือนเท่าไหร่  ฮิ้ววว
เหมือนมีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย จนปี3 ก็คิดว่าจะเก็บไปทำไมวะ ไม่เห็นมีความสุขเลย ดูเพื่อนๆ เขาใช้ชีวิตสนุกสนานสำราญใจ ดังนั้นเงินเดือน 5-6พัน จึงมีเหลือเก็บมั่งไม่เหลือบ้าง

ช่วงป.ตรีก็เริ่มหารายได้พิเศษไปด้วย ได้นิดได้หน่อยพอสะสมมาซื้อของที่อยากได้ อยากให้พ่อใช้โทรศัพท์มือถือ ก็ซื้อให้พ่อ ยากได้กล้องซื้อกล้อง อยากได้โน๊ตบุคก็ซื้อ(ออกเองหมื่นเดียวที่เหลือให้พ่อออกเพิ่ม ฮิ้ววว) แต่ยังกันเงินเก็บส่วนนึงไว้กันตาย

ยอมรับว่าตอนปี4 ใช้เงินมือเติบ เรียกว่าถลุงเงินก็ว่าได้ บางเดือนใช้ถึงหมื่นห้า (พ่อโอนให้ประจำทุกเดือน1หมื่น มาเยี่ยมทีก็มีแถมให้ทีละพันสองพัน) บางเดือนใช้ไม่ชนเดือนก็ดึงเงินเก็บมาใช้ก่อน เงินเดือนเข้าก็โปะคืนให้ตัวเลขสวยๆ เหมือนเดิม

เรียนจบมีเงินเก็บอยู่ 2หมื่น มาใช้ชีวิตกับพี่สาวที่กทม.แม่ให้8พันไม่พอใช้+ไม่อยากรบกวนเลยไม่ขอเพิ่ม ดึงเงินเก็บมาใช้เรื่อยๆๆ จนพี่สาวมันตีตั๋วไปเที่ยวออสฯ เราเริ่มสำนึกได้ "เออ เงินเก็บอันน้อยนิดของตูมันพอทำอะไรได้บ้างวะ" ...เปิดเทอมเรียนโท เงินเก็บนอนน่ารักอยู่ก้นบัญชีไม่ถึงหมื่น จึงสำเหนียกตัวเองได้ว่า ต้องจัดสรรชีวิตและการใช้เงินใหม่ (ที่ผ่านมาแม่พูดกรอกหูเท่าไหร่ก็ไหลออก)


ปล. ขอบคุณค่ะพี่แอ๊ะ ขอให้สมพรปาก -/\- ถ้าเป็นจริงจะปล่อยกู้ให้พี่คนแรกเลย คิดดอกไม่แพงค่ะ (ถูกกว่าดอกฯแขกนิดนึง)  (อิอิ) ไม่ต้องห่วงเรื่องทวงหนี้นะคะ หน้าที่หลักของปาล์มเวลากลับบ้านคือตามเก็บเงินที่ลูกค้าค้างชำระค่ะ  ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 15
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!