หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 ... 15
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เงินเก็บ  (อ่าน 65116 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
73000 ล้านเอาไปทำอะไรดีครับ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

เอามั่ง
เอาไปบำรุงทุกข์ให้กับชาวบ้าน ปรนเปรอสุขให้กับตนเอง  หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า
ผมชอบท่อนเพลงท่อนหนึ่งของอัสนี-วสันต์ "เหลือเก็บค่อยเอาไปใช้ เหลือจ่ายค่อยเอาไปเก็บ" อย่าทำให้ชีวิตเป็นทุกข์ แต่เราต้องสร้างสมดุลทุกช่วงชีวิตของเรา  เจ๋ง

ชอบท่อนนี้มากเหมือนกัน มันจริงมากๆ

ตัวผมตั้งใจว่าจะ ให้ได้ 25 % ของเงินเดือน
ตอนนี้ทำงานมา 7 เดือน พลาดเป้าไปเยอะพอสมควร  ชิ

เนื่องจากบางทีมีเรื่องที่จำเป็นต้องใช้
แต่ส่วนมากจะเป็นพวกสนองตัณหามากกว่า  หื่น หื่น

บันทึกการเข้า

เพื่อนของเราชื่อความเหงา
ผมไม่เคยยืมใคร และไม่เคยให้ใครยืม เพราะพี่พูดกรอกหูทุกวัน เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร มีหลายที่เสียเพื่อนเพราะเรื่องเงินนิแหละ ฉะนั้น ตูไม่ให้ยืมนะ ฮิ้ววว
แต่ถ้ามึงเดือดร้อนแบบไม่มีอะไรกินจริงๆ เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง หมีโหดดดด

แต่ตอนนี้ประหยัดแล้วครับ ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

แม่ไม่เคยถามค่ะ เพราะว่าส่วนใหญ่แม่เป็นคนเก็บให้ด้วยซ้ำ กร๊าก กร๊าก กร๊าก นิ้งว่าน่าจะมีเก็บเยอะแล้วนะ ไม่รู้เหมือนกันแฮะ แต่ตอนป.1เก็บได้อาทิตย์ละร้อย ลันล้า ปัจจุบัน สัก50ก็บุญแล้ว ง่ะ
บันทึกการเข้า

"ความรักนั้น...ง่ายดายกว่าที่คิด...ยากเย็นกว่าที่เห็น"
นึกๆไปแล้ว รู้สึกว่าตอนเรียนตังจากที่บ้านก็ได้(ถึงจะไม่เยอะนักก็เถอะ)
แถมตอนปี 4 ก็มีเงินเดือนจากงานประจำหมื่นกว่า คือมีงานทำตั้งแต่ยังไม่จบน่ะ
ก่อนหน้านั้นก็ได้ตังจากจ็อบ และการประกวดนี่นั่นนู่น

พอมานับรวมๆแล้วรู้สึกจะได้เยอะกว่าตอนทำงานอีก  ง่ะ

แต่ไม่ยักกะเหลือสักบาท เหลือเป็นเครื่องเสียง คอม ทีวี ตู้เย็น ฯลฯ
ไอ้พวกนี้นี่เก็บซื้อเองหมด ไม่ได้ขอที่บ้านสักบาท เพราะถึงขอก็ไม่ให้อยากได้หาเอาเอง
นึกๆแล้วก็อยากกลับไปมีรายได้แบบนั้นอีกจริงๆ

บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
 ง่ะ


เครียด


บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
บริหารการเงิน...เพื่อชีวิตที่พอเพียง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2549 15:29 น.
http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9490000075207
แอบอ้าง
หลักการใช้ชีวิตแบบพอเพียงที่ทำได้ง่ายๆ คือการรู้จักบริหารการเงินของตัวเอง มีน้อย ใช้น้อย และรู้จักพอ อีกทั้งต้องรู้จักมีวินัยในการใช้จ่ายเพื่อชีวิตและอนาคตอันมั่นคง
       
       เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
       
       การเพิ่มรายได้สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การลงทุนทำมาค้าขาย หาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ โดยอาจต้องลงทั้งทุน ลงทั้งแรง หรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อเป้าหมายในการเพิ่ม เงินเดือน หรือหาโอกาสก้าวหน้าขึ้นในอนาคต โดยรายได้ในแต่ละเดือนของครอบครัว ควรจัดสรรใช้จ่ายอย่างเหมาะสม เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ไม่ควรให้มีการผ่อนชำระเกิน 30% ของรายได้ครอบครัว หรือถ้าจะก่อหนี้เงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ ก็ไม่ควรให้มีภาระการผ่อนชำระเกิน 15% ของรายได้ครอบครัว นอกจากนั้น ค่าอาหารแบ่งใช้ไป 25% ค่าเนื้อผ้าและค่าเดินทาง 10% ค่าสาธารณูปโภค 5% ค่ารักษาพยาบาล 5% และที่สำคัญอย่าลืมเก็บเงินออมหรือเงินทุน 5-10% ของรายได้ต่อครอบครัว
       
       ฉลาดซื้อ ฉลาดใช้
       
       การลดรายจ่าย คือการฉลาดใช้สิ่งของต่างๆ รอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องฉลาดซื้อด้วยเลือกซื้อแต่สินค้าที่คุ้มค่าคุ้มประโยชน์ และฉลาดใช้ด้วยการรักษาสิ่งของต่างๆ ให้คงอยู่ในสภาพที่เหมาะกับการใช้งานได้นานๆ รวมถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายจำพวก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ที่สำคัญคือการฉลาดใช้ชีวิต ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง สมบูรณ์ เพราะการเจ็บป่วย ย่อมนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
       
       วางแผนเกษียณอายุ
       
       เพราะเราไม่ได้มีแรงทำงานไปตลอดชีวิต เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ต้องหยุดทำงาน ดังนั้น การวางแผนการเงินในช่วงเกษียณอายุการทำงานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
       การหาระยะเวลาแห่งช่วงชีวิต ปัจจุบันนี้มนุษย์มีอายุเฉลี่ยอยู่ได้ถึง 72-75 ปี และด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ปัจจุบัน ทำให้มนุษย์มีอายุนานขึ้น ซึ่งอาจบวกเพิ่มได้ถึง 20 ปีจากค่าเฉลี่ยนั้น สิ่งที่ควรคำนึงในการเก็บเงินเพื่ออายุช่วงเกษียณคือระดับเงินเฟ้อ ที่มีแนวโน้มหรือคาดว่าน่าจะเป็นไปในช่วงเวลาของการเกษียณอายุ ซึ่งอาจทำให้เงินออมที่คุณหามาด้วยความยากลำบากในแต่ละปี ด้อยค่าลงอย่างช่วยไม่ได้
       
       ดังนั้นเราต้องการเงินประมาณ 70-75% ของรายได้ก่อนการเกษียณอายุ เพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายยามเกษียณอายุ โดยเฉพาะ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพที่จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเราแก่ตัวลง โดยจำนวนเงินนี้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิถีหรือไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
       
       บันทึกค่าใช้จ่าย
       
       เคยคิดบ้างไหม ว่าทำไมเงินที่หามาทั้งเดือนหมดไปอย่างรวดเร็ว สาเหตุก็คือ เพราะเราขาดความยับยั้งชั่งใจใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น ขาดการวางแผนการใช้เงินที่ดี มารู้ตัวอีกทีก็ไม่มีจะจ่ายแล้ว...
       
       หากอยากปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายให้รัดกุมกว่าเดิม วิธีง่ายที่สุดคือต้องบันทึกค่าใช้จ่ายทุกบาท ทุกสตางค์ ที่จ่ายออกไปในแต่ละวัน หมั่นสร้างหลักฐานเตือนตัวเองให้เห็นว่าในแต่ละเดือนมีค่าใช่จ่ายอะไรบ้างที่จำเป็น และไม่จำเป็น เพื่อจะได้รู้ว่าค่าใช้จ่ายสิ่งไหนควรตัดทิ้งไปในเดือนต่อไป
       
       บริหารเงินออม
       
       สุดท้ายเมื่อคุณสามารถบริหารรายได้ และค่าใช้จ่ายของคุณอย่างรัดกุมแล้ว เงินส่วนที่คุณเก็บได้คือเงินออม โดยอาจนำไปฝากธนาคาร ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิต หรือนำไปลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากว่าเงินเฟ้อที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
       
       นำเงินไปฝากธนาคาร คงเป็นวิธีบริหารเงินออมที่ดีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งผู้ออมจะได้รับดอกเบี้ยจากการฝากเงิน จำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับก็ขึ้นอยู่กับประเภทของการฝาก เช่น เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ หรือเงินฝากกระแสรายวัน ผู้ออมควรเลือกประเภทเงินฝากให้เหมาะกับตัวเอง หากต้องการใช้เงินบ่อยครั้งต่อวัน ก็เลือกฝากเงินแบบออมทรัพย์ ซึ่งสามารถฝาก-ถอน ได้หลายครั้งต่อวัน ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยรายวัน แต่กรณีที่ต้องการดอกเบี้ยมากกว่าการฝากแบบออมทรัพย์ ผู้ออมสามารถเลือกฝากเงินแบบฝากประจำ ซึ่งมีระยะเวลาในการฝากต่างกัน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน หรือฝากประจำรายเดือนยกเว้นภาษี แต่หากต้องการใช้เช็คในการสั่งจ่าย ก็สามารถใช้บริการแบบเงินฝากกระแสรายวัน
       
       หากใครที่ต้องการนำเงินไปลงทุน ก็ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเอง อย่างการเปิดร้าน หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่เลือกที่จะลงทนในตราสารทางการเงิน เช่นลงทุนในหุ้น ลงทุนในตราสารหนี้ หรือลงทุนในกองทุนรวม ดังนั้น อย่าลืมคำนึงถึงความเสี่ยงในการลงทุน และศึกษาให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจเริ่มลงทุน โดยหาข้อมูลได้จากสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือหาข้อมูลการลงทุนตราสารทางการเงินได้ที่สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน (TSI) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
       
       ข้อมูล : คู่มือชีวิตพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ
บันทึกการเข้า

[ว่างให้เช่า]
ตอนสมัยทำงานแรกๆ คิดว่าจะออมด้วยการซื้อทองเก็บไว้เดือนละ 1 บาท
แต่ก็ไม่ได้ทำ ตอนนั้นบาทละ 7 พันกว่าๆ ตอนนี้บาทละ หมื่นพันกว่าๆ  ไอ้มืดหมี



เสียดายๆ ไม่น่าพลาดเลย  ฮือๆ~ ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
งดซื้ออุปกรณ์ดนตรีช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลย  เกย์ออก
บันทึกการเข้า

วันก่อนขึ้นรถเมล์ เก็บตังค์ได้ 5 บาท  ปลื้ม
บันทึกการเข้า
ผมขึ้นรถเมล์จ่ายตัง ๘ บาทครับ
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
รถเมล์เดี๋ยวนี้ 8 บาท แล้วเหรอ ไม่ได้ขึ้นนานแล้วตั้งๆแต่มีรถไฟฟ้า
บันทึกการเข้า
 ยิ้มน่ารัก

ทำชีวิตให้มีความสุขเถอะครับ เงินน่ะเข้ามาแล้วก็ออกไป...
ใช้เหลือแล้วค่อยเก็บก็ได้...

ผมยังไม่ได้เริ่มซื้อรถ ยังไม่ผ่อนบ้านเลย (มีแต่ผ่อนที่ดินเล็กๆ อยู่แปลงนึงเดือนละไม่เท่าไร)
นอกนั้นก็ไม่มีอะไร..

ขยันทำงาน ขยันหาเงิน อย่าเกี่ยงงาน จะมีเงินเข้ามาเองครับ
แล้วก็ใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนจะไม่มีความสามารถและเรี่ยวแรงจะใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำนะครับ

ประสบการณ์มีค่ามากกว่าเงินหลายเท่านักนะ อิอิ

ผมเองก็เก็บได้ไม่มากเท่าไร หาได้มาก ก็เที่ยวมาก
หมดไปกับสิ่งที่อยากได้ laptop ใหม่ ปริ้นเตอร์ใหม่ แอร์ใหม่ โฮมเธียเตอร์ใหม่ กล้องใหม่และของฝากให้คนรอบข้าง ค่าท่องเที่ยว ล่องแพ ปีนเขา ดำน้ำ และอื่นๆ

อ้อ อีกอย่าง ผมยอมจ่ายไม่อั้นให้ที่บ้านผมมีความสุขอ่ะครับ เพราะมีเงินไปก็เท่านั้น ถ้าไม่ได้ใช้ทำให้ตัวเราและคนรอบข้างมีสุข ใช่ไหม?

ใช้ชีวิตครับ เวลางานทำให้เต็มที่ ...เวลาพักก็ทำให้เต็มที่

เงินสำคัญ แต่ความสุขของเราและคนรอบข้างสำคัญกว่านะครับ ...

 ฮี่ๆ
บันทึกการเข้า

My handsomeness is toxic to all chics.. :P
บางคนมีเงินเยอะๆแล้วมีความสุขนะครับ  ฮิ้ววว

บางคนก็ไม่...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 ... 15
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!