หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ลิขสิทธิ์ฟอนต์  (อ่าน 114103 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เป็นข้ออ้างสุดฮิตครับ คริคริ
เพื่อการศึกษานี่คือเอาไปใช้ในโรงเรียน สถาบันสอนโปรแกรม สอนออกแบบ นั่นพอไหวครับ
นิยามของไทยๆ
นั้นวัดแค่นั้นไม่ได้ครับ (เดี๋ยวหาว่าชี้ช่องแล้ว เลยเอาไปใช้กันใหญ่ แล้วบอกว่าลุงซันชี้ช่องมา)  เศร้า
การจะวัดว่าอันไหนเป็นสถาบันที่เป็นการศึกษา(รวม รร ม. ศูนย์.. หน่วยอบรม.. ฯลฯ) เขามักวัดการการได้การรับรองจากกระทรวงศึกษา(เราคงได้เห็นๆกันบ้าง มีหลายที่ที่โฆษณา
แล้วที่เหลือเป็นเถื่อน? โอโน้ ..ไม่ใช่ครับ เพราะยังมีศูนย์อบรมที่อยู่กับบริษัทหรือหน่วยงานที่ไม่จำเป็นต้องจดกับกระทรวงศึกษา แต่ถ้าเป็นสถาบัน/รร(ไม่ว่าห้องแถวหรือตึก)ที่สอนสู่สาธารณะ ไม่ได้จดกับกระทรวงอาจติดคุกได้นะครับ(ทั้งการการเปืดรร หรือ ใช้ซอฟแวร์-แต่ส่วนมากก็เป็นค่าปรับมากกว่า)
แต่นอกจากการศึกษา ยังมีใช้ส่วนตัวได้นะ(แต่ไม่ใช่เปิดห้องแถวขายของแล้วลง windows ไปทำรายการก๊อกๆแก๊กๆ ก็ถือว่าไม่ใช่ส่วนตัวแล้วนะ แต่เขาไม่จับ เพราะเหมือนตีแมงสาบที่คุณแอนนนนน ยกตัวอย่างให้ในหลล)
note:มีอีกตัวอย่างที่ผมทำงานแหละ จริงๆน่าจะเข้ากฏยกเว้นแต่ดันเอาผลงานไปออกเป็นรายการสั้นๆใน TV(ซึ่งตีความว่าไม่ใช่การศึกษาเสียแล้ว?)  ฮี่...
บันทึกการเข้า

http://www.ThaiBuddy.com (ฟรีดิกชันนารี่ ชี้แล้วแปล)
ผมรู้เล็กน้อย
ขอแอบอ้างเอาความเห็นที่คิดว่าดีมีประโยชน์มาแปะไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
ไม่อยากให้ความเห็นดีๆ ที่มีผู้เพียรพยายามสร้างมันสูญไปเปล่าๆ ปลี้ๆ

อยากให้อ่านด้วยความรู้สึกที่เป็นกลางนะครับ
ถึงผมจะยืนอยู่ฝั่งผู้ผลิตก็จริง แต่ผมก็รักในความเป็นธรรมเหมือนกัน

คือก่อนอื่นเราต้องเข้าใจคำว่า ลิขสิทธิ์ก่อนนะครับ
คือลิขสิทธิ์เป็นของเจ้าของสิทธิ์ครับ
เค้าจะกำหนดยังไงก็ได้ เป็นสิทธิ์ของเค้า แต่ถ้าเราไม่พอใจในเงื่อนไขที่เค้าตั้งไว้
เราก็ไม่ต้องใช้ ไม่ต้องซื้อของเค้า เท่านั้นจบครับ
แต่ไม่ใช่ว่า เราจะใช้ของเค้า แล้วให้เค้าตั้งเงื่อนไขในแบบที่เราพอใจ

พอจะนึกออกมั๊ยครับ คือ สิทธิ์มันเป็นของเค้า เค้าจะให้เราใช้สิทธิ์แค่ไหนก็ได้
เป็นสิทธิ์ของเค้าครับ เช่นเพลงในซีดีของแท้ เค้าระบุว่าใช้เพื่อความบันเทิงในที่พัก
อาศัยเท่านั้น แต่เรานำมาเปิดในสถานบันเทิงเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ อันนี้ผิดครับ
คือไม่ใช่ว่าเราซื้อมาถูกต้อง แล้วจะทำยังไงก็ได้นะครับ

สังเกตุประเด็นดีๆนะครับ เค้าไม่ได้ขายสิทธิ์ขาดให้กับเรา เค้าเพียงขายสิทธิ์ในการใช้ให้เราเฉยๆ
ฉะนั้นเค้าขายสิทธิ์ในการใช้ ว่าเราใช้ได้แค่ไหน เราก็มีสิทธิ์ในการใช้ได้เท่านั้นครับ
ถ้าเราต้องการใช้มากขึ้น ก็ต้องติดต่อเจ้าของสิทธิ์เพื่อจะได้รับสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นครับ

กลับกันในกรณีที่ผมรับจ้างทำฟอนต์ให้กับ บริษัทโฆษณา บริษัทนึง
เค้าจ้างผมทำและผมขายขาดให้กับเค้า
เค้าจะเอาฟอนต์ที่ซื้อมาไปทำอะไรก็ได้ เช่นดัดแปลง แก้ไข ขายต่อ ทำซ้ำ
แจกจ่าย ได้สารพัดครับ เพราะเป็นสิทธิ์ของเค้า เค้าซื้อขาดไปแล้ว

ฉะนั้นการซื้อขาด กับการซื้อสิทธิ์การใช้งาน จึงเป็นคนละกรณีกันครับ

และในกรณีที่เราซื้อฟอนต์มาใช้นั้น เป็นกรณีของการซื้อสิทธิ์การใช้งานครับ
ไม่ได้ซื้อขาดหรือจ้างผลิต เพราะฉะนั้นสิทธิ์ยังอยู่ที่เจ้าของครับ

อีกตัวอย่างนึง ที่เพื่อนสมาชิกยกมา

เรื่องการซื้อรถเก๋งมาใช้ ถูกครับ คือเราซื้อมาแล้วจะทำไงก็ได้ครับเพราะซื้อมาอย่างถูกต้อง
เช่น ซื้อรถเก๋ง แล้วเอามาบรรทุกแบบปิคอัพ สามารถทำได้ เพราะอะไรครับ
ก็เพราะคุณซื้อขาดมาแล้ว แต่ถ้าเกิดปัญหากับรถเช่น ช่วงล่างรับน้ำหนักมากเกินไป
แล้วคุณเข้าศูนย์ให้เค้าเครมช่วงล่างให้ คุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันได้
เนื่องจากคุณใช้สินค้าไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ผลิต (ใช้ผิดประเภท)
นึกออกมั๊ยครับ รถใหม่รับประกัน สามปีหรือ หนึ่งแสนโล ก็ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วจะทำอะไรก็ได้
เพราะคุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันจากผู้ผลิตได้เช่นกันครับ

ด้วยความเคารพนะครับ

ขอบคุณมากครับ

แล้วประเด็นที่ว่า
เจ้าของลิขสิทธิ์ไปตั้งข้อกำหนดในการใช้งานล่ะครับ
(เช่น ซื้อขายกันในราคาเท่านี้ ห้ามเอาไปใช้ในงานโฆษณาทีวี เป็นต้น)

กฎหมายท่านให้ทำได้ไหมครับ
หน้ามึน
ประเด็นของผมไม่ได้หมายถึงเก็บแพงเกินไป
หรือยังไง ประเด็นของผมคือ คุณจะมาจำกัดการใช้งานฟอนต์
ที่ผมซื้อไปไม่ได้ ถ้าฟอนต์ของคุณคือตัวเดิม ฟีเจอร์เดิมๆ

อย่างผมซื้อรถเก๋งมาคันนึง
ผมจะเอาไปใช้แบบรถเก๋ง
หรือจะเอาไปบรรทุกของแบบรถกระบะก็ได้
ตราบใดที่ผมซื้อมาอย่างถูกต้อง
ไม่ได้ขโมยมา

ผมเชื่อว่ากรณีนี้ ส่วนใหญ่เจ้าของสิทธิ์แพ้ทุกรายครับ
แต่กรณีส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็คือ
ไม่ได้เคยซื้อมาก่อนต่างหาก

อยากให้อ่านด้วยความรู้สึกที่เป็นกลางนะครับ
ถึงผมจะยืนอยู่ฝั่งผู้ผลิตก็จริง แต่ผมก็รักในความเป็นธรรมเหมือนกัน

คือก่อนอื่นเราต้องเข้าใจคำว่า ลิขสิทธิ์ก่อนนะครับ
คือลิขสิทธิ์เป็นของเจ้าของสิทธิ์ครับ
เค้าจะกำหนดยังไงก็ได้ เป็นสิทธิ์ของเค้า แต่ถ้าเราไม่พอใจในเงื่อนไขที่เค้าตั้งไว้
เราก็ไม่ต้องใช้ ไม่ต้องซื้อของเค้า เท่านั้นจบครับ
แต่ไม่ใช่ว่า เราจะใช้ของเค้า แล้วให้เค้าตั้งเงื่อนไขในแบบที่เราพอใจ

พอจะนึกออกมั๊ยครับ คือ สิทธิ์มันเป็นของเค้า เค้าจะให้เราใช้สิทธิ์แค่ไหนก็ได้
เป็นสิทธิ์ของเค้าครับ เช่นเพลงในซีดีของแท้ เค้าระบุว่าใช้เพื่อความบันเทิงในที่พัก
อาศัยเท่านั้น แต่เรานำมาเปิดในสถานบันเทิงเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ อันนี้ผิดครับ
คือไม่ใช่ว่าเราซื้อมาถูกต้อง แล้วจะทำยังไงก็ได้นะครับ

สังเกตุประเด็นดีๆนะครับ เค้าไม่ได้ขายสิทธิ์ขาดให้กับเรา เค้าเพียงขายสิทธิ์ในการใช้ให้เราเฉยๆ
ฉะนั้นเค้าขายสิทธิ์ในการใช้ ว่าเราใช้ได้แค่ไหน เราก็มีสิทธิ์ในการใช้ได้เท่านั้นครับ
ถ้าเราต้องการใช้มากขึ้น ก็ต้องติดต่อเจ้าของสิทธิ์เพื่อจะได้รับสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นครับ

กลับกันในกรณีที่ผมรับจ้างทำฟอนต์ให้กับ บริษัทโฆษณา บริษัทนึง
เค้าจ้างผมทำและผมขายขาดให้กับเค้า
เค้าจะเอาฟอนต์ที่ซื้อมาไปทำอะไรก็ได้ เช่นดัดแปลง แก้ไข ขายต่อ ทำซ้ำ
แจกจ่าย ได้สารพัดครับ เพราะเป็นสิทธิ์ของเค้า เค้าซื้อขาดไปแล้ว

ฉะนั้นการซื้อขาด กับการซื้อสิทธิ์การใช้งาน จึงเป็นคนละกรณีกันครับ

และในกรณีที่เราซื้อฟอนต์มาใช้นั้น เป็นกรณีของการซื้อสิทธิ์การใช้งานครับ
ไม่ได้ซื้อขาดหรือจ้างผลิต เพราะฉะนั้นสิทธิ์ยังอยู่ที่เจ้าของครับ

อีกตัวอย่างนึง ที่เพื่อนสมาชิกยกมา

เรื่องการซื้อรถเก๋งมาใช้ ถูกครับ คือเราซื้อมาแล้วจะทำไงก็ได้ครับเพราะซื้อมาอย่างถูกต้อง
เช่น ซื้อรถเก๋ง แล้วเอามาบรรทุกแบบปิคอัพ สามารถทำได้ เพราะอะไรครับ
ก็เพราะคุณซื้อขาดมาแล้ว แต่ถ้าเกิดปัญหากับรถเช่น ช่วงล่างรับน้ำหนักมากเกินไป
แล้วคุณเข้าศูนย์ให้เค้าเครมช่วงล่างให้ คุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันได้
เนื่องจากคุณใช้สินค้าไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ผลิต (ใช้ผิดประเภท)
นึกออกมั๊ยครับ รถใหม่รับประกัน สามปีหรือ หนึ่งแสนโล ก็ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วจะทำอะไรก็ได้
เพราะคุณอาจได้รับการปฏิเสธการรับประกันจากผู้ผลิตได้เช่นกันครับ

ด้วยความเคารพนะครับ

 ไหว้
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
ไหว้


สมบูรณ์แบบมากครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ช๊าดดดดดดดดดดดดเจนนนนนนนนนนคร๊าาาาาาบ ฮี่ๆ
บันทึกการเข้า
พึ่งรู้จริงๆอะว่า ฟอนต์มานมีลิขสิทธิด้วย
บันทึกการเข้า
พึ่งรู้จริงๆอะว่า ฟอนต์มานมีลิขสิทธิด้วย

รู้แล้วก็อย่า ละเมิดนะครับ
โชคชะตาขี้เหร่ วันไหน
อาจจะมีโอกาสเสียค่าปรับแพงแสนแพงเลยนะครับ
บันทึกการเข้า

รู้นานแล้วว่าฟoร์นมีลิขสิทธ์

แต่ได้ FontLab มาแล้ว(เกีั่ยวไร  ง่ะ)
เดียวคงจะมีฟoร์นของเราสัก 1 ฟอร์น ลันล้า
บันทึกการเข้า
ฟอนต์ นะ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
แก้ไข

ฟoร์น เป็น ฟoนต์

โทษทีครับ พิมพ์จนติดมือ  เฮ้ย!?
บันทึกการเข้า
ทำไมไม่กดปุ่มแก้ไขมุมขวาล่ะครับ
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
ก็ไม่เป็นไรนะ อย่างน้อยก็ยังไม่เบิ้ล
บันทึกการเข้า
ขุดนิดนึงถึงจะสะแด่วแห้ว (ศัพท์โคตรโบราณเลย)


http://www.anuthin.com/2008/01/save-tcdc.html
anuthin.com อนุทิน.คอม: อีกวิธีในการ Save TCDC


เรื่องของ TCDC ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ฟอนต์!
มาดูวิธีการ Save TCDC ในมุมของนักออกแบบที่ถูกขโมยงานกันครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ขอบคุณท่านแอนที่ขุดขึ้นมาให้อ่านค่ะ

เพิ่งจะรู้ว่า ฟอนต์มันก็มีลิขสิทธิ์เหมือนกัน

และคิดว่าหลายๆคน ก็คงไม่รู้เหมือนกันค่ะ  ไหว้

สมมุติถ้าโรงเรียนเอาฟอนต์ทำป้ายประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโรงเรียน

ถ้าเจ้าของลิขสิทธ์มาเจอ จะโดนฟ้องไหมคะ  งง
บันทึกการเข้า

zz ขี้ลืม สุดๆ  zz
ขอบคุณท่านแอนที่ขุดขึ้นมาให้อ่านค่ะ

เพิ่งจะรู้ว่า ฟอนต์มันก็มีลิขสิทธิ์เหมือนกัน

และคิดว่าหลายๆคน ก็คงไม่รู้เหมือนกันค่ะ  ไหว้

สมมุติถ้าโรงเรียนเอาฟอนต์ทำป้ายประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโรงเรียน

ถ้าเจ้าของลิขสิทธ์มาเจอ จะโดนฟ้องไหมคะ  งง


โดนครับ
บันทึกการเข้า

โดนครับ

ขอบคุณค่ะ  (แจ๋ว แจ๋ว)

ว่าแต่บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ฟอนต์ คงไม่มาตามดูพวกโรงเรียนละมั้งคะ

เอ..ชาวบ้านตาดำๆ โดนเข้าไปจะเป็นอย่างไรกันคะเนี่ย เอาเงินที่ไหนไปจ่าย  หมีโหด~
บันทึกการเข้า

zz ขี้ลืม สุดๆ  zz
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!