หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 15
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อการเข้าถึงพระพุทธศาสนา!!!  (อ่าน 59508 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้






อย่าคิดว่านิพพานเป็นเรื่องไกลตัว


อย่าคิดว่าบุญกรรมเป็นเรื่องสำเร็จรูป


บันทึกการเข้า

งบน้อย
ว้ายยย

ถูกใจ เกย์ออก
บันทึกการเข้า

...
แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา ก็คือ หลักธรรม
อยากเข้าถึงพระพุทธศาสนา ก็ปฎิบัติตามหลักธรรม
ว่ากันว่า  เมื่อใดมนุษย์ไม่นำหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนมาปฏิบัติ
เมื่อนั้นหลักธรรมก็จะหายไป  ศาสนาก็จะเสื่อมสูญไปพร้อมกับหลักธรรม กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
ความจริงพิมพ์ไว้บานเลย แต่..
ลบทิ้งดีกว่า

ผมว่าเรื่องการเข้าถึงนี่คงอธิบายไม่ได้มั้งครับ
ผมก็ยังไม่เข้าถึงซะที มันมีเรื่องให้ใจวุ่นวายอยู่บ่อยๆ

การเข้าถึงจริงๆ คงหมายถึงการปฏิบัติและเป็นได้อย่างคำสอน
ผมเป็นคนนึงที่ปล่อยวางอะไรเด็ดขาดไม่ได้จริงๆ
เลิกคิด เลิกยุ่ง แต่มันก็ยังกระเพื่อมๆ อยู่ลึกๆ ทำนองนั้น

ผมเป็นคนนึงที่ขาดสติอยู่บ่อยๆ (บางครั้งขาดมากๆ)

พระบางรูปก็ยังมีกิเลส แบบผมนี่แหละ

...

ไม่รู้จะพิมพ์อะไรต่อละ บางอย่างมันรู้ๆกันอยู่ แต่อธิบายไม่ถูก
ออกแนว ถ้าเรายังหา เราก็ยิ่งไม่พบ
แต่ถ้าเราหยุดเมื่อไหร่ แม้ไม่เจอ แต่มันก็จะเจอ
555 มองหาจิตเดิมแท้ภายในจิตใจทำนองนั้น...

... คนเรานี่เข้าใจยากจริงๆ  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า
ไม่เห็นต้องวางให้หมดเลย
ไม่ค่อยเห็นความจำเป็นของการปล่อยวาง
เพราะไม่ค่อยมีความเดือดร้อนกับอะไรอยู่แล้ว(เด็กแนวเรียก ชิว ชิว)
ยกเว้นบางเรื่อง ที่ต้องเดือดร้อนด้วย เหมือนมีคนอธิบายไว้ว่าแบบนี้



กวีมิใช่นักบวช ด้วยไม่อาจทำใจให้ปล่อยวาง
กวีไม่อาจปล่อยวางด้วยไม่เต็มใจละทิ้งความงาม
นักบวชยิ่งรู้ กวียิ่งตระหนัก
เมื่อพ่ายแพ้ต่อความงามก็พ่ายแพ้ความอัปลักษณ์
เช่นดอกไม้บานแล้วโรยรา, บานแล้ว ต้องโรยรา
เด็กเด็กไร้เดียงสาแล้วหยาบกร้าน, ไร้เดียงสาแล้วหยาบกร้าน
อารมณ์กวีนี้เพื่อปีติและปวดร้าว, ปีติและปวดร้าว
ย่ำย้ำซ้ำอยู่เช่นนั้น

จากท่อนหนึ่งของกลอนโดย เดือนวาด พิมวนา
/ มติชนสุดสัปดาห์เล่มเดือนตุลา



ไม่ต้องกวีก็ได้ คนที่ทำงานเกี่ยวกับความงามทั้งหลายแหล่
ก็คงปล่อยวางอารมณ์เพื่อความงาม และความอัปลักษณ์ไม่ได้
แค่อย่าเอาไปใช้กับเพื่อมนุษย์ด้วยกันพอ เดี๋ยวเดือดร้อน  ง่ะ

บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM

เกลาตัวเองเถอะครับ

ศาสนา เป็นแค่คำบอกเล่า ถึงการปฎิบัติที่ดี มีคนทำมาแล้ว

ดูตัวเองเถอะครับ

พิจารณาตัวเองเถอะครับ

เพื่อการเข้าถึงตัวเราเอง
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ไม่รู้สิ
แต่เชื่อเรื่องการทำดีนะ
อย่างน้อยๆ ไม่ไปเบียดเบียนใครก็ดีละล่ะ
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์

 ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

นานๆ จะเข้ามาที
ถ้ายังเข้าแตกฟอง ก็คงไม่ถึงนิพพานหรอกครับ ง่ะ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
อ๋อ ยังไม่มีหมี  หน้ามึน

มิน่า ...
บันทึกการเข้า
พระพุทธศาสนามีบทบาทในชีวิตคนเราอย่างไรมั่งครับ

นอกจากจะทำบุญเพื่อหวังผลบุญ  ถามจริงๆเถอะครับ มีใครมั่งที่ทำอะไรลงไป

แล้วไม่อยากรู้ว่ามันจะเป็นผลยังไง  ก็คล้ายๆกับการทำบุญใช่ไหมครับ

ผมรู้สึกว่า พระพุทธศาสนาที่คนเราสัมผัสได้ มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

เป็นส่วนที่คนเราเอามาปรุงแต่งอีกที  เพื่อเพิ่มความน่าสนใจเข้าไป

แล้วเราจะทำยังไงดีครับ  เพื่อให้คนเราได้เข้าถึงหรือสัมผัสกับพระพุทธศาสนา

อย่างมีคุณค่า  และได้ประโยชน์สูงสุด



จริงศาสนาพุทธนี่จะบอก วิธีใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้วนะ
เช่น การทำงานเป็นทีม> สังฆวัตถุ4 พรหมวิหาร4 ฯลฯ
(เคยเจอ เหตุที่ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัว4)
ถ้าศึกษาจริงๆอย่างสังฆวัตถุ4นี่ ถึงจะมี4ข้อสั้นๆแต่มันขยายความได้เยอะนะ
ว่างๆจะขยายให้ดู

แต่ 3/4 ที่ในทะเบียนเป็นชาวพุทธไม่ได้ศึกษาอ่ะสิ

บันทึกการเข้า

รับงานถ่ายภาพ
www.rpash.com
 เคยสงสัยกันไหมครับว่า 

ทำไมพระพุทธศาสนาต้องเน้นหลักธรรมเป็นข้อๆ 

เพื่อง่ายต่อการจดจำเหรอครับ  ผมว่ามันยากกว่าอีกนะ

เหมือนเรียนฟิสิกส์  ที่เน้นความเข้าใจมากกว่าสูตรอะครับ

แล้วก็พระพุทธศาสนาเน้นภาษาบาลีเกินไปรึเปล่าครับ

 ทำให้คนเราเบื่อหน่ายที่จะศึกษา  และเหมือนเป็นกำแพงภาษาอีกรูปแบบหนึ่ง

บันทึกการเข้า

แม้ยับเยิน..บาดเจ็บสักเท่าไรยังยืนยัน  ว่านี่แหละคือชีวิตที่ต้องการ...แค่ได้ทำสิ่งนั้นที่ใจฝัน.  .ต่อให้เอา
ถ้ายังเข้าแตกฟอง ก็คงไม่ถึงนิพพานหรอกครับ ง่ะ

ตกอยู่ในวังวนหมี   หมีโหดดดด/
บันทึกการเข้า
เคยสงสัยกันไหมครับว่า 

ทำไมพระพุทธศาสนาต้องเน้นหลักธรรมเป็นข้อๆ 

เพื่อง่ายต่อการจดจำเหรอครับ  ผมว่ามันยากกว่าอีกนะ

เหมือนเรียนฟิสิกส์  ที่เน้นความเข้าใจมากกว่าสูตรอะครับ

แล้วก็พระพุทธศาสนาเน้นภาษาบาลีเกินไปรึเปล่าครับ

 ทำให้คนเราเบื่อหน่ายที่จะศึกษา  และเหมือนเป็นกำแพงภาษาอีกรูปแบบหนึ่ง



ไม่เอาเป็นข้อๆแล้วจะเอาเป็นพารากราฟ เหรอครับ

เป็นข้อแหละจำง่ายดี

อย่าง ศีล ธรรม ๕

ไตรสิกขา   มรรค๘    อริยสัจ๔
บันทึกการเข้า

กินรอบวง


ไม่ได้เน้นภาษาบาลีนะครับ

แต่เพราะใช้ภาษาบาลี ต่างหาก

 ฮิ้ววว

ใครเป็นคนสังคายนาพระไตรปิฎกละครับ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 15
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!