หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10 11 12 ... 15
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อการเข้าถึงพระพุทธศาสนา!!!  (อ่าน 59514 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ธรรม  สำหรับคนทุกระดับ ผู้ที่นำมาสอนเลือก ให้เหมาะสมกับระดับของผู้ถูกสอน

            เคยได้ยินมาว่าภาษาบาลี เป็นภาษาสากล ที่ใช้กันแพร่หลายในนรก มีเรื่องเล่าตลกๆ เล่าว่า
ผู้ที่ตายไปแล้วจะสามารถบอกว่าเคยทำความดีอะไรบ้าง ด้วยภาษาบาลี  ผู้ที่รุ้ภาษาบาลีมากก็จะได้เปรียบ
ผู้ที่รุ้ภาษาบาลีมาก คือคนสวดมนต์มาก ..




กรรมดี กรรมชั่วเหมือนต้นไม้สองต้น  เจริญเติบโต ไปของใครของมัน  อยุ่ที่ว่าต้นไหนจะให้ผลผลิตก่อนหลัง.....แต่  ให้ผลอย่างแน่นอนทั้งสองต้น....

ฝากลิ้งนะครับ ....  http://www.jarun.org
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
เหมือนยกเอาห้องศาสนามาไว้ที่F0nt  ลันล้า
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
ขอแบบจริงจังครับ

...

วิชาพระพุทธศาสนา
สร้างทัศนคติที่ไม่ดีของนักเรียน ต่อศาสนาครับ

แต่เดิมศาสนาเป็นเรื่องของวัฒนธรรม และวิถีชีวิต
พอหลังๆ มา คนมันมีที่ให้ไปมากกว่าวัด
กระทรวงศึกษาก็เลยบรรจุวิชาพระพุทธศาสนาลงในหลักสูตร
(รวมถึงในวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม)

เป็นไอเดียที่ดีครับ...
แต่ในทางปฏิบัติ... พบว่ามันล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงครับ

...

ผมเรียนหลักธรรมซ้ำๆ มา 6-7 รอบแล้วครับ
แต่ความสำคัญของหลักธรรรมกลับมีความสำคัญแค่
ในคืนก่อนสอบ และชั่วโมงสอบ... จากนั้นแม่งก็ไปเดินห้าง
เหล่หญิง ดูหนัง ฯลฯ...

เอาล่ะ

ในเมื่อวิถีชีวิตมันตีห่างศาสนา หากจะเอาไปยัดกลับ
มันก็ผิดธรรมชาติครับ
ไม่ซึมซับ ไม่ซาบซึ้ง... แถมยังทำให้พาลไม่ชอบเข้าวัดเข้าวาไปอีก
...
เรียนพระพุทธศาสนาแต่ไม่ได้ทำให้เป็นคนดีขึ้นเนี่ย... เสียเวลานะครับ
...

การเข้าถึงการเข้าใจพุทธศาสนาจริงๆ
ก็เหมือนการทะลวงลมปราณให้เชื่อมจุดต่างๆ ให้เดินลมปราณสะดวก
ต้องทำลายกำแพงของอคติออกไปก่อน...
บางทีอคติอาจจะมีอยู่บางๆ แต่มองไม่เห็น
...
ดังนั้นการเข้าถึงศาสนาจึงควรจะทำโดยความเข้าใจ
ไม่ใช้การท่องสูตร...  ฮิ้ววว
เราน่าจะเข้าใจว่า ทำไมพระุพุทธเจ้าถึงสอนหยั่งงั้น
ทำไมมรรคมีองค์ 8 ทำไมแบ่งเป็น ไตรสิขา ศีล ปัญญา สมาธิ
ไม่ใช่การถามคำถามอจินไตย หรือไร้สาระนะครับ
แต่ในความรู้สึกของผมมันเป็นการพิสูจน์ว่า ทฤษฎีนั้นถูกต้อง  ฮิ้ววว
...
พอเราเข้าใจถึงอะไรบางอย่างในหลักธรรม
อคติลึกๆ มันก็จะหายไปเองครับ
...

ทั้งหมดนี้โดยความรู้สึกของผมนะ
ผมเองมีอคติกับคำสั่งคำสอนทุกสิ่งทุกอย่าง
และบางทีมีความคิดลึกๆว่างมงาย...
แต่พอพยายามทำความเข้าใจจริงๆแล้ว
มันทำได้การปฏิบัติตามเป็นไปโดยความสบายใจครับ

อย่างไรก็ดี การใช้เหตุผล การเข้าใจถึงหลักธรรม
ยังคงต้องควบคู่ไปกับการปฏิบัติ การภาวนา ทำสมาธิ
ทำใจให้สงบ และมีสติ...
ยังคงเป็นอะไรที่ผมยังห่างไกลมากเลย  ฮือๆ~

บันทึกการเข้า
สมาธิ เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ง่ายๆครับ   สมถะสมาธิ  เป็นเรื่องไม่ยาก และสามารถประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้ ครับ.....
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ผมว่าที่ยากคือ สติ ครับ  ฮิ้ววว

เห็นขาวๆ เอวคอดๆ กระโปรงสั้นๆหน่อยก็  หื่น
สติแตก แล้วครับ

เอ้ย ไม่ใช่...
แต่พูดถึงการมีสติอยู่ทุกขณะเป็นอะไรที่ผมยังทำไม่ได้จริงๆ นะครับ  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า
วิชาพระพุทธเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเบืื่่อแหละ (จริงของพี่เต่านะ)

มีคนเรียนจริงๆก็พวกเด็กเรียนแหละค่ะ (เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของคะแนน) นอกนั้นฟังเพลง เล่นเกม ฯลฯ

เรียนเรื่องเทียบบาลีกับโรมันกับไทยอยู่ เป็นอะไรที่สนุกที่สุดแล้วอ้ะ  (อิอิ)

นอกนั้น ย้มยม หน้ามึน
บันทึกการเข้า

ยิ้มน่ารัก น้องดำ
จริงๆ อยากให้ข้อสอบวิชาพระพุทธศาสนาเป็นข้อสอบให้บรรยาย  หน้ามึน
บันทึกการเข้า
น่าเบื่อมากครับ .. โดยเฉพาะสุภาษิตภาษาบาลี หรือเกร็ดประวัติศาสตร์พระพุทธฯ
ปล. แต่สวดมนต์ยังพอไหวอยู่นะครับ
บันทึกการเข้า

"ถึงอาทิตย์จะอัสดง แต่กูยังมีไฟแช็ค" - Kurt Cobain -
เรื่องนี้ก็ไม่รู้นะ วิถีชีวิตมันไม่เหมือนกันด้วยมั้ง

คนบ้านนานา นอกจากยายแล้วก็ นานมากๆเข้าวัดที  (ยายก็ไปเฉพาะเวลามีใครชวนไปงานบุญต่างๆแหละ พูดตรงๆว่าไปเอาหน้า  เหลือบ ไม่งั้นมันเสียมารยาท หน้ามึน) .... เกือบๆปีละครั้งก็ว่าได้  กร๊าก (ตอนลอยกระทง เดินเข้าไปลอยกระทงที่ท่าน้ำในวัดแล้วก็ออกมาแค่นี้แหละ  ฮิ้ววว) ยายอยู่บ้านก็ ไหว้พระ อะไรไป (มันเป็นความเคยชินของเค้า)

สรุปว่าวิถีชีวิตนานาอยู่ไกลจากอะไรแบบนี้มากๆ  ฮิ้ววว (รู้สึกว่าไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเลยด้วย  ไอ้มืดหมี)

 :42:ได้ใกล้ๆบ้างก็แค่ตอนเรียนพระพุทธค่ะ (แล้วก็กิจกรรมที่ รร จัดแค่นั้นแหละ)
บันทึกการเข้า

ยิ้มน่ารัก น้องดำ
อย่างน้อยวิชาพระพุทธศาสนา ก็ยังทำให้เยาวชนรุ้สึกใกล้ชิดกับศาสนาเข้ามาบ้าง 
แม้ หลักสูตร จะเป็นอย่างไงก็ตามเถอะ
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
อืม ก็จริงนะ   ไอ้มืดหมี
อย่างน้อยๆ บางทีก็สนุกดีค่ะ   ง่ะ
บันทึกการเข้า

ยิ้มน่ารัก น้องดำ
เข้่าถึงยากนัก หันมานับถือศาสนาท่านเทพมังกรสิครับ
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM

อ่านวิถีชีวิต ของ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรซิครับ สนุกดี ออก  หมีโหดดดด

วิชาพระพุทธ สอนเพื่อให้อย่างน้อยเราก็รู้จักคำสอนศาสนานะ

ถ้าไม่สอนเราจะรู้มั้ย ว่า พรหมวิหาร 4 คืออะไร

อะไรคือ อริยสัจ 4  และอื่นๆ อีกมากมาย  ฮิ้ววว


ข้อสอบบรรยายสนุกดี เหมือนการจำลองตนเองให้เป็นคนดีโคตรๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำจริง  ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ตั้งกระจู๋ ทบทวนวิชาพุทธศาสนา ว่าด้วยพุทธประวัติ และธรรมของศาสดา บ้างดีกว่า  อย่างน้อยเยาวชนก็จะได้ทบทวนความรู้ไปในตัว ส่วนผู้ใหญ่ก็จะได้รื้อฟื้นความจำได้บ้าง....
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
อ่านวิถีชีวิต ของ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรซิครับ สนุกดี ออก  หมีโหดดดด

วิชาพระพุทธ สอนเพื่อให้อย่างน้อยเราก็รู้จักคำสอนศาสนานะ

ถ้าไม่สอนเราจะรู้มั้ย ว่า พรหมวิหาร 4 คืออะไร

อะไรคือ อริยสัจ 4  และอื่นๆ อีกมากมาย  ฮิ้ววว


ข้อสอบบรรยายสนุกดี เหมือนการจำลองตนเองให้เป็นคนดีโคตรๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำจริง  ยิ้มน่ารัก

ตกค่ะ ทำข้อสอบทีไรก็มั่วทุกที ตอบตามใจไม่อิงหลักธรรม
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10 11 12 ... 15
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!