หน้า: 1 ... 10 11 12 13 14 15 16 [17] 18 19 20 21 22 23
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ลาบวช  (อ่าน 106660 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้


นิมนต์ปั่นบอร์ด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
รู้สึกแปลกๆ ที่กลายเป็นพระอีกรูปที่เล่นบอร์ดนี้ ฮิ้ววว

ไม่ค่อยกล้าปั่นอะไรมาก มือถือไม่ถนัดรอโน๊ตบุ๊คก่อน
ส่วนใหญ่จะเข้ามาอ่านมากกว่า รักษาภาพพจน์ความเป็นพระไว้หน่อย ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

นมัสการครูบา ไหว้
บันทึกการเข้า

ต๊กต๋าเปิ้นเป๋นดีไค่หัว ต๊กต๋าตัวเป๋นดีไค่ไห้
ฉายาหลวงพี่แปลว่าอะไรครับ  ผู้มีความรู้ในแผ่นดินหรอครับ
บันทึกการเข้า
จะแปลเช่นนั้น หรือจะแปลเป็นอื่นที่ใกล้เคียงกันก็ไม่ผิด ปลื้ม
บันทึกการเข้า

ตอนผมบวช พระเถระ(พระบวชก่อน) ก็เรียกแล้วแต่สะดวก เช่น พระเบิร์ด หลวงพี่ พระ

แต่ตอนบวชยอมรับเลยว่า รู้สึกดีมากๆ บวชตามโครงการสิบกว่านวัน เรียนทั้งวัน
เช้าฉันเช้าเสร็จเรียนพระวินัย
หลังเพลเรียน พระอภิธรรม(อันนี้ยากมาก+อิ่มไม่รู้เรื่องมากๆ)
เย็นเรียน พระสูตร


หนักเหมือนกันตอนนั้น แต่รู้สึกว่าได้ความรู้เยอะมาก ที่ชอบคือพระวินัย ได้หนังสือมีเล่มนึงด้วย วินัยพระน่ารู้ คู่มือโยม


แต่ก็อยู่ต่อยังไม่อยากสึก เพราะเหมือนยังไม่รู้สึกว่าเต็ม


ตอนสึกมายังอยู่ที่วัดเป็นอาทิตย์ๆ ออกไปเป็นเด็กวัดช่วยถือของ
เสร็จก็ช่วยที่วัดทำหนังสือสวดมนต์เพราะตั้งใจจะทำตั้งแต่ก่อนสึกแล้ว
ทำเสร็จก็เอาไฟล์ทั้งหมดยกให้ทางวัดเลย  ( ช่วงนั้นรู้สึกชีวิตมีความสุขมากๆ )

จากเป็นคนที่แทบไม่เคยเข้าวัดเลย พอเจอวัดที่เคร่ง(เถรวาท)ก็ยิ่งทำให้เราอยากอยู่ต่อ แต่รู้สึกคิดบวกกับการเข้าวัดมากขึ้น

ถ้าใครมีโอกาสไป ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง อยากทำบุญ หรือแวะสักการะบรมสารีริกธาตุและหลวงพ่อหินที่วัดจากแดง ได้นะครับ
บันทึกการเข้า

"...ถ้าสายตาเราชินกับในที่มืดแล้ว คงยากที่จะเพ่งมองโลกภายนอกได้..."
พอดีว่าบ้านติดวัด พระบางรูปก็จะรู้จักกันอยู่แล้วก็จะเรียกพระมิ้ม
พระรูปอื่นที่ไม่รู้จักกันก็จะเรียกพระใหม่ (ไม่ได้ชื่อใหม่ แต่หมายถึงพระบวชใหม่)
เรื่องเรียนนี่ไม่ได้บวชในโครงการอะไร เลยไม่มีการเรียนการสอนอะไรมากนัก
อีกทั้งเป็นสายธรรมยุติที่ไม่มีโรงเรียนอยู่ภายในวัดด้วย
ทุกอย่างต้องจัดการตัวเอง อ่านบทสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาตร อ่านวินัยมุข (ปั่นบอร์ด)

จริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไร เพราะเราเองก็คุ้นเคยกับวัดดีอยู่แล้ว
การปรับตัวก็ไม่ได้อะไรมาก ตื่นเช้าขึ้นหน่อย นอนเร็วขึ้นนิด
แต่ก็นะ วัดในเมือง มันก็คือในเมือง หาความสงบอะไรก็ไม่ค่อยได้เท่าไหร่
ตั้งใจจะบวชอยู่วัดป่าเพื่อความสบายใจของตัวเอง กลายเป็นบวชในเมืองเพื่อความสบายใจของบุพการีแทน
บันทึกการเข้า

เย้ดโด้ เป็นคนตั้งกระทู้ไว้ตั้งแต่ปี 2006

ปีหน้าได้บวชจริงแล้วโว้ยยย  กร๊าก กร๊าก 2014

แม่ง แปดปี  กร๊าก กร๊าก


บวชที่แปดริ้วอะ ใกล้ๆ ใครอยากไปก็ไปกันได้นะฮะ

ช่วงกินเลี้ยงปกติ เค้าจะมีดนตรีกัน ผมคุยกับพ่อไปคร่าวๆ ว่าจะฉายหนังเกี่ยวกับพระแทน

มี ศพไม่เงียบ นากปรก เส้าหลิน 2 ใหญ่


ไปดูหนังกลางแปลงกันฮะ


ที่จริง อยากจ้างวงแบบฮาร์ดคอร์ไปเล่นด้วย แบบกล้วยไทย แต่พ่อไม่ให้ บวกกับงบคงไม่พอ


มีใครเสนอหนังเรื่องอื่นใหม่ครับ อยากได้แบบ พระเลวๆอะ  กร๊าก
บันทึกการเข้า

กาก
แนะนำครับ ให้อ่านพระไตรปิฎกครับ
ตูอ่านมาแล้ว คอนเฟิร์ม เหมาะกับถลอกแน่นอน


http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=01&A=5597&Z=6086

ตัวอย่าง

    [๕๘] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งมีหลังอ่อน เธอถูกความกระสันบีบคั้นแล้ว ได้
อมองค์กำเนิดของตนด้วยปาก เธอได้มีความรังเกียจว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบท
ไว้แล้ว เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มี
พระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.

 กร๊าก กร๊าก

อยู่ในเล่มหนึ่งเลยครับ
หมายว่าสมัยพุทธกาลนั้น เป็นดินแดนแห่งถลอกอย่างแท้จริง คือมนุษย์เนี่ยเรื่องปี้กันเป็นเรื่องใหญ่ ใหญ่จนพระพุทธเจ้าท่านทรงบัญญัติ
ข้อห้ามเรื่องการปี้กัน เป็นข้อๆเลยก็ว่าได้ ยาวมาก และเกรียนมากด้วยครับ และเป็นเรื่องแรกสุดของเรื่องอาบัติเลยก็ว่าได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 พ.ค. 2013, 12:42 น. โดย Layiji » บันทึกการเข้า

นักเขียนการ์ตูนรายปี
 กร๊าก กร๊าก กร๊าก
บันทึกการเข้า
เช้ด ของจริงเปล่าฮะ เข้าไปดูไม่ได้บริษัทบล็อค  กร๊าก
บันทึกการเข้า

กาก
เช้ด ของจริงเปล่าฮะ เข้าไปดูไม่ได้บริษัทบล็อค  กร๊าก

จริงครับ นี่ตูยืมมาจากวัดเลยนะ
อ่ะมีตัวอย่างอีกข้อ อันนี้ตูฮาขี้ไหลเลยตอนบวช ไม่รู้บาปหรีอเปล่า


 กร๊าก กร๊าก กร๊าก

  [๖๒] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล สตรีผู้หนึ่งพบภิกษุแล้วได้กล่าวคำนี้ว่าท่านเจ้าขา นิมนต์
มาเสพเมถุนธรรมเถิด
             ภิกษุนั้นห้ามว่า อย่าเลย น้องหญิง การเรื่องนี้ไม่ควร
             สตรีนั้นแนะนำว่า นิมนต์มาเถิดเจ้าค่ะ ดิฉันจักพยายามเอง ท่านไม่ต้องพยายาม โดย
วิธีนี้อาบัติจักไม่มีแก่ท่าน
             ภิกษุนั้นได้ทำอย่างนั้นแล้ว มีความรังเกียจว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบท
ไว้แล้ว เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มี
พระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.



 กร๊าก กร๊าก เยดเข้ นิมนต์ท่านมาเสพเมถุนธรรมเถิดเจ้าค่า  กร๊าก กร๊าก กร๊าก


นี่คือตูยืมมาศึกษาหาความรู้ในรสพระธรรมนะ ดันเจอเรื่องนี้เข้านี่ตูอยากสึกออกมาเขียนการ์ตูนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 พ.ค. 2013, 13:09 น. โดย Layiji » บันทึกการเข้า

นักเขียนการ์ตูนรายปี
เย่ด มารผจญสมัยก่อนมันแจ่มๆแบบนี้เลยเร้อะ  กร๊าก
บันทึกการเข้า

กาก
พี่เลย์เคยเอามาให้อ่านทีนึง โอ๊ย ยังกะหนังสือโป๊ กร๊าก
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ตูบวชสิบห้าวัน บันเทิงเริงใจมาก  กร๊าก



แต่เรื่องอื่นๆก็เจ๋งนะ จะแบ่งเป็นตอนๆ เหมือนหนังซีรี่ย์เลย
ประมาณว่าตอนนึงโผล่มาคาแรกเตอร์นึง ทำอะไรซักอย่างแล้วก็จบไป

พอถึงตอนพระเทวทัตนี่ เล่มแรกๆออกมาเหมือนเปิดคาแรกเตอร์ไว้นิดนึงว่าเป็นตัวร้ายนิดหน่อย
แล้วก็จบไป ต้องตามอ่านต่อเล่มถัดๆไปค่อยๆเพิ่มความเข้มข้นขึ้น แต่ภาษานี่ก็ตามที่เป็นพระไตรปิฎกแหละ


ที่อ่านเนี่ยมันเห็นถึงความเกรียนของคนเลย
นอกจากเรื่องปี้ๆกัน มันจะมีเรื่องอื่นด้วย

บางตอนเป็นเรื่องคนพระที่สะสมบาตรเป็นคอเล็กชั่น  กร๊าก กร๊าก
คือนิยมบาตรที่มีลักษณะต่างๆ (ในความคิดตูคือมันคงมีลาย เคลือบทอง ดิ้นมังกร อะไรเทือกเนี้ย) กร๊าก
แล้วเปิดให้ผู้คนเข้ามาชม คนเลยไปฟ้องพระพุทธเจ้า
เลยอาบัติ  กร๊าก กร๊าก กร๊าก

เจ๋งปะล่า อินเดียแม่งโคตรเกรียนไม่แพ้เรา  กร๊าก



เสียดายอ่านจบไปเล่มเดียว มีตั้งสิบกว่าเล่ม แต่คุ้มแล้วเปิดมาเรื่องปี้กันก่อนเลย  กร๊าก กร๊าก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 พ.ค. 2013, 13:20 น. โดย Layiji » บันทึกการเข้า

นักเขียนการ์ตูนรายปี
หน้า: 1 ... 10 11 12 13 14 15 16 [17] 18 19 20 21 22 23
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!