หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 [8] 9 10 11 12 13 14
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ENNEAGRAM - บอกความเป็นตัวคุณ  (อ่าน 56187 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
กร๊าก อย่างแม่น
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เพิ่มเติม กับไทป์เจ็ด เจ้าสำราญ

ประสบกามชีวิตเป็นเหมือนเครื่องนำทางพวกเขา "ไทป์เจ็ด" รู้สึกดีกับ รส สี กลิ่น เสียง และสัมผัส ตัวตนและความนับถือ "ของ"ตัวเองของพวกเขาขึ้นอยู่กับการได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ พฤติกรรมทางเพศต่าง ๆของ "ไทป์เจ็ด" สะท้อนให้เห็นถึง ความอยากได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ พวกเขาไม่สนใจสิ่งที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการกระแทกในทันที พวกเขาไม่สนใจคู่ขาเก่า ๆ ไม่สนใจตัวบุคคล พวกเขาสนใจประสปการณ์ จึงเป็นคนติดเตียง เข้าข้างหลังคนอื่น และชอบความศิวิไลซ์ พวกเขารู้สึกว่าโลกนี้มีไว้เพื่อหาคู่ขา และมันขึ้นอยู่กับตัวของเราที่จะหาความสุขด้วยวิธีใด

Edit version

บันทึกการเข้า

i'll walk until i find u.


เอ้า จริงดิ่  ง่ะ

้แตกละเอียด ไทป์เจ็ด เจ้าสำราญ

ในระดับเสื่อม ความบ้าของ "ไทป์เจ็ด" ผสมกับ การต่อต้านสังคมของ "ไทป์แปด" พวกเขาอาจพัวพัน การพนัน ตลาดมืด การสำส่อนทางเพศอย่างวิตถาร ผลาญเงินทอง และสุขภาพในพริบตา พวกเขาอำมหิตโดยเฉพาะกับคนที่มีสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นของหรือบุคคล พวกเขาบ้าบิ่น และอันตรายอย่างยิ่ง อาจมีจุดจบเป็นความตาย หรืออาการวิกลจริต



ที่แปลมานี่ ไม่ได้มีอะไรดีเลยนะเนี่ย  โวย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ธ.ค. 2006, 01:04 น. โดย Sorisori » บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior
ู^
^
^ นั่นไทป์ผสม
บันทึกการเข้า

i'll walk until i find u.
กราฟอย่างกับ รูปจักรวาล  กร๊าก


เจ้าสำราญเหรอเนี่ย  กร๊าก
นักบุญ ไม่น่าเป็นไปได้เ้ลยแฮะ  ง่ะ




แปลไม่อ่อก
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior
ระดับเจ็ด "ผู้ปล่อยตัว"

ถึงจุดหนึ่ง "ไทป์เจ็ด" จะเริ่มพบว่าสิ่งที่ตัวเองแสวงหาไม่ได้นำความสุขมาให้ แต่กลับให้แต่ความทุกข์ ความรู้สึกนี้อาจทำให้ "ไทป์เจ็ด" หลุดพ้นได้ แต่ถ้าความวิตกกังวลเหนือกว่า หรือพวกเขาได้พบกับความเจ็บปวดที่มากเกินจะรับไหวแล้ว พวกเขาจะกลับกลายเป็นผู้ปล่อยตัว ทำอะไรก้าวร้าว ไร้เหตุผลเพื่อระบายความวิตกกังวล

ด้วยความที่ "ไทป์เจ็ด" ไม่เคยหันมาทบทวนสิ่งที่ตัวทำลงไป พวกเขาจึงได้แต่ประหลาดใจว่า ทำไมยังไม่มีความสุขทั้งที่พยายามไขว่คว้าหาทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พวกเขารังแต่จะยิ่งจัดการกับใครก็ตามที่ขัดขวางไม่ให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ พวกเขาอาจสำส่อนทางเพศ ติดเหล้าติดยา ลองพฤติกรรมทางเพศใหม่ ๆ เพราะต้องการความตื่นเต้นมากกว่าเดิม พวกเขาเสียศูนย์ และไม่สามารถติดต่อกับใครได้เป็นเรื่องเป็นราว ความเป็นคนสนุกสนานกำลังหายไป แม้ว่าจะยังคงชอบเล่าเรื่องตลก หรือ คุยว่าไปสนุกที่ไหนมา แต่น้ำเสียงมักบ่งบอกให้รู้ว่ากำลังโกรธ พวกเขาแสวงหาความสุขอย่างไม่มีความสุข และกลัวการอยู่คนเดียวมากขึ้น พวกเขาจะกดดันคนอื่นทุกวิถีทางให้มาร่วมทำตัวเหลวแหลกกับตน "ถ้าแกไม่ไปดื่มกับฉัน อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก"

พวกเขากำลังเสพติดสิ่งที่เชื่อว่าปลดเปลื้องความวิตกกังวลได้ พวกเขาใช้ยากระตุ้น และยานอนหลับ เกินพอดีเพราะสนองความต้องการของตัว แต่ก็ยิ่งไม่มีความสุขมากขึ้น พวกเขากลัวความเศร้าหมองที่อยู่ในจิตไร้สำนึกของตัวเอง และกลัวแม้แต่การนอน พวกเขาไม่เปิดช่องว่างให้ความอ่อนแอ ซึ่งมักเกิดขึ้นก่อนที่จะหลับสนิท พวกเขาจะพยายามอยู่ให้ดึก ออกแรงให้มาก เพื่อว่าช่วงเวลาก่อนหลับจะได้สั้นที่สุด ถ้าไม่ได้ผลก็ต้องพึ่งยานอนหลับ และเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้าก็ต้องพึ่ง คาเฟอีนอีกที เพื่อให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า พวกเขาระวังระไว แต่สิ่งที่ระวังก็คือการเข้ามาในใจของจิตไร้สำนึกของตัวเอง

ถ้าแม้ต้องทนหงุดหงิดแค่ประเดี๋ยวเดียว พวกเขาก็โกรธได้เป็นฟืนเป็นไฟ พวกเขาจะพูดจาไม่รับผิดชอบ หยาบโลน และดูถูกเหยียดหยาม เหมือนกับเด็กที่ถูกตามใจที่อาละวาดเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ พูดไม่คิด ไม่รับผิดชอบ เป็นที่รังเกียจของคนอื่น พวกเขาไม่แคร์ว่าสิ่งที่ทำลงไปจะทำร้ายจิตใจใคร หรือทำให้เสียงานเสียการ พวกเขาอาจกรีดร้อง หรือสร้างฉากขึ้นปลดปล่อยความโกรธ พวกเขายับยั้งชั่งใจไม่ได้ ถ้าโกรธก็จะขว้างปาของ ถ้าเศร้าก็จะระเบิดน้ำตาออกมา ถ้าอยากดูถูกใคร ก็จะพูดทันทีไม่มียั้ง พวกเขาไม่เก็บเพราะวิธีใช้จัดการกับความวิตกกังวล และความก้าวร้าว ของพวกเขา คือการระบายออกอย่างรวดเร็ว

การระบายอารมณ์อย่างไม่มีขอบเขตนำมาซึ่งปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม อาการของพวกเขาแสดงออกถึงความเป็นเด็ก และขาดวุฒิภาวะ และยากที่ใครจะทำพวกเขาได้นาน ๆ ถึงขั้นนี้ กลไกที่ "ไทป์เจ็ด" ใช้ป้องกันความปวดร้าวได้ทะลายลงมาแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ต้องรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น ในขณะที่ไม่มีพลังเหลือพอที่จะต่อต้านมัน พวกเขาต้องเปลี่ยนไปใช้ อาการซึมเศร้า แทนอย่างคนไทป์อื่น ๆ ซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคยมาก่อน มันจึงเป็นความรู้สึกที่เจ็บแสบมากสำหรับ "ไทป์เจ็ด" พวกเขาต้องการหนีสภาพนี้ไปให้ได้ พวกเขาไม่รู้สึกโรแมนติกกับความทรมานเหล่านี้แต่อย่างใด พวกเขาต้องการกลับไปหาสังคมเพื่อหลีกหนีความรู้สึกนี้เสีย แต่มันยากแล้วเพราะพวกเขาเสียสมดุลทางอารมณ์ไปหมดแล้ว มีทางเดียวคือต้องกลายเป็นคนวิปลาสไป
------------------
ระดับหก "นักบุญคนสำคัญ"

พวกเขากำลังสงสัยว่า เขาทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น ทำเพียงเพราะสุขใจที่ได้ทำ แม้แต่การเสียสละตัวเองก็ทำไปแล้ว แต่ดูเหมือนคนอื่นจะไม่ค่อยแคร์ ไม่มีใครเห็นความดี ดูเหมือนว่าทุกคนจะเป็นคนขี้ลืม และไม่ค่อยคิดอะไรมาก คนเหล่านี้สมควรได้รับการเตือนให้รู้อยู่เสมอว่า พวกเขาทำดีขนาดไหน

ปัญหาของ "ไทป์สอง" คือ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรให้ตัวเองได้ ถ้าไม่มีคนอื่นเข้ามารับประโยชน์ด้วย พวกเขาเริ่มยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ยกย่องตัวเอง บอกว่าตัวเองสำคัญต่อทุกคน ชมตัวเองอย่างไร้ยางอาย ทั้งที่ที่จริงทำเพื่อตัวเอง

บาปของ "ไทป์สอง" ก็คือ ความจองหอง พวกเขาชื่นชมตัวเอง และไม่ปล่อยโอกาสที่จะทวงบุญคุณให้หลุดรอดไป "รู้ไหมว่านายโชคดีขนาดไหนที่มีฉันเป็นเพื่อน" พยายามบอกให้คนหนึ่งให้ความสำคัญกับตน เพราะอึกคนหนึ่งกำลังทำอย่างนั้นอยู่ พวกเขาไม่รู้ตัวว่าตัวเองจองหอง พวกเขาเรียกร้องความสนใจในการกระทำเยี่ยงนักบุญของพวกเขา พวกเขาปรารถนาที่จะส่องแสงเจิดจรัสต่อหน้าทุกคน ความจองหองกำลังปิดหูปิดตาตัวเขาให้มองไม่เห็นจิตที่ทรมานของเขา "ไทป์สอง" เชื่อว่าหาตนคิดไม่ดีสักนิดเดียว ตนจะต้องถูกผู้คนทอดทิ้ง "ไทป์สอง" ไม่ยอมรับว่าตัวเองมีความเจ็บปวด และความพิโรธ แต่ทุกคนกำลังรู้สึกได้ด้วยสิ่งที่ "ไทป์สอง" สื่อออกมาทางอ้อม พวกเขาไม่อาจพูดอะไรอย่างเปิดอกได้ เพราะได้ลงทุนไปกับตัวตนที่จอมปลอมของเขาอย่างกู่ไม่กลับแล้ว

ความหลงตัวเองและความนับถือตัวเองได้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับพวกเขาจน พวกเขาต้องการให้คนอื่นดีกับเข้าอย่างต่อเนื่องอย่างไม่สิ้นสุด พวกเขาต้องการให้คนอื่นให้เขากลับเพื่อสนองคุณ ไม่ว่าที่จริงแล้วพวกเขาจะมีบุญคุณหรือไม่ พวกเขารู้สึกว่าคนอื่นติดหนึ้เขาอย่างไม่มีวันชดใช้ได้หมด พวกเขาคิดว่าบุญคุณของเขายิ่งใหญ่เกินจริง และคิดถึงสิ่งที่คนอื่นตอบแทนกลับมาอย่างต้อยต่ำเกินไป พวกเขาอ้างบุญคุณกับทุกสิ่งที่ดี ๆในชีวิตของคนอื่นหมด "ไทป์สอง" คิดว่าคนอื่น ๆคงไม่มีวันเป็นผู้เป็นคนแบบนี้ได้ หากไม่มีเขาเมื่อวันก่อน และพวกเขาก็กล้าที่จะทวงบุญคุณอย่างไม่ลังเล

ในระดับนี้ "ไทป์สอง" ดิ้นรนหารัก และเริ่มหาอย่างคนหน้ามืด ความต้องการส่วนตัวของพวกเขารุนแรงร้าวร้อนขึ้น แต่ยังกดเก็บไว้ พวกเขาดิ้นรนหาอะไรสักอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ที่แทนความรักที่คนอื่นตอบกลับมา พวกเขาเรียกร้องความสนใจอย่างไม่เลือกหน้า พวกเขาเข้าร่วมทุกสถานการณ์ที่ตนอาจมีโอกาสได้รับรักตอบ พวกเขาเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมทุกอัน และอยากรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น บางทีก็มีอาการปลดปล่อยทางเพศ พยายามทำให้ตัวเองเป็นที่ดึงดูด เพราะนั้นหมายถึงการเป็นคนที่มีคนอื่นรัก

พวกเขาไม่รู้ตัวว่าคาดหวังจากคนอื่นมากไป พวกเขาโกรธถ้าใครไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไปยุ่มย่ามชีวิตส่วนตัว ยิ่งเสือกเท่าไร คนอื่นก็ยิ่งวิ่งหนี และยิ่งทำให้ "ไทป์สอง" รู้สึกขมขื่นเพราะมันทำร้ายความรู้สึกของการเป็นคนสำคัญของเขาไป พวกเขามักระบายอารมณ์ด้วยการ กินจุ ดื่มเหล้า ใช้ยา แต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีคนรัก


- - ขี้เกียจตัดให้ ปวดตา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ธ.ค. 2006, 01:18 น. โดย ซือเน... » บันทึกการเข้า

i'll walk until i find u.



 ง่ะ
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior


ขี้เกียจอ่านเช่นเดียวกัน  หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
รึ จะให้ตัด
หึหึ จะ คัดเฉพาะ เนื้อๆ เลยล่ะฮะ  ฮี่...
บันทึกการเข้า

i'll walk until i find u.


ขอแบบทำรายงานส่ง อาจารย์อะ  หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
หมดดูฝรั่งอ้างอิงวิชาการ
หมอดูไทย ยื่นมือมา.... อืม ราศีดีนะเนี่ย ปีนี้จะได้เจอหมาเห่า ฟังธง!
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.


กราฟอย่างกับ รูปจักรวาล  กร๊าก




เจ้าสำราญเหรอเนี่ย  กร๊าก

นักบุญ ไม่น่าเป็นไปได้เ้ลยแฮะ  ง่ะ



แปลไม่อ่อก

ระดับเจ็ด "ผู้ปล่อยตัว"

ถึงจุดหนึ่ง "ไทป์เจ็ด" จะเริ่มพบว่าสิ่งที่ตัวเองแสวงหาไม่ได้นำความสุขมาให้ แต่กลับให้แต่ความทุกข์ ความรู้สึกนี้อาจทำให้ "ไทป์เจ็ด" หลุดพ้นได้ แต่ถ้าความวิตกกังวลเหนือกว่า หรือพวกเขาได้พบกับความเจ็บปวดที่มากเกินจะรับไหวแล้ว พวกเขาจะกลับกลายเป็นผู้ปล่อยตัว ทำอะไรก้าวร้าว ไร้เหตุผลเพื่อระบายความวิตกกังวล

การระบายอารมณ์อย่างไม่มีขอบเขตนำมาซึ่งปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม อาการของพวกเขาแสดงออกถึงความเป็นเด็ก และขาดวุฒิภาวะ และยากที่ใครจะทำพวกเขาได้นาน ๆ ถึงขั้นนี้ กลไกที่ "ไทป์เจ็ด" ใช้ป้องกันความปวดร้าวได้ทะลายลงมาแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ต้องรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น ในขณะที่ไม่มีพลังเหลือพอที่จะต่อต้านมัน พวกเขาต้องเปลี่ยนไปใช้ อาการซึมเศร้า แทนอย่างคนไทป์อื่น ๆ ซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคยมาก่อน มันจึงเป็นความรู้สึกที่เจ็บแสบมากสำหรับ "ไทป์เจ็ด" พวกเขาต้องการหนีสภาพนี้ไปให้ได้ พวกเขาไม่รู้สึกโรแมนติกกับความทรมานเหล่านี้แต่อย่างใด พวกเขาต้องการกลับไปหาสังคมเพื่อหลีกหนีความรู้สึกนี้เสีย แต่มันยากแล้วเพราะพวกเขาเสียสมดุลทางอารมณ์ไปหมดแล้ว มีทางเดียวคือต้องกลายเป็นคนวิปลาสไป


ระดับหก "นักบุญคนสำคัญ"

ในระดับนี้ "ไทป์สอง" ดิ้นรนหารัก และเริ่มหาอย่างคนหน้ามืด ความต้องการส่วนตัวของพวกเขารุนแรงร้าวร้อนขึ้น แต่ยังกดเก็บไว้ พวกเขาดิ้นรนหาอะไรสักอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ที่แทนความรักที่คนอื่นตอบกลับมา พวกเขาเรียกร้องความสนใจอย่างไม่เลือกหน้า พวกเขาเข้าร่วมทุกสถานการณ์ที่ตนอาจมีโอกาสได้รับรักตอบ พวกเขาเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมทุกอัน และอยากรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น บางทีก็มีอาการปลดปล่อยทางเพศ พยายามทำให้ตัวเองเป็นที่ดึงดูด เพราะนั้นหมายถึงการเป็นคนที่มีคนอื่นรัก

พวกเขาไม่รู้ตัวว่าคาดหวังจากคนอื่นมากไป พวกเขาโกรธถ้าใครไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไปยุ่มย่ามชีวิตส่วนตัว ยิ่งเสือกเท่าไร คนอื่นก็ยิ่งวิ่งหนี และยิ่งทำให้ "ไทป์สอง" รู้สึกขมขื่นเพราะมันทำร้ายความรู้สึกของการเป็นคนสำคัญของเขาไป พวกเขามักระบายอารมณ์ด้วยการ กินจุ ดื่มเหล้า ใช้ยา แต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีคนรัก

คัดมาแต่ใจความ ตามรสนิยมส่วนตัว  ฮี่ๆ

อ่านหลายๆอัน ไหงมันมีแต่เรื่องยา ซะแทบทุกไทป์เลย
บันทึกการเข้า

i'll walk until i find u.
เฮ้อ มันแปลว่านิสัยศิลปิน  ที่เป็นนักบุญ  เจ้าสำราญ แล้วยังเป็นนักปราญช์อีก โห
อะไรจะเยอะขนาดนั้น

บันทึกการเข้า

ท่องเที่ยวเป็นงานหลัก ถ่ายรูปเป็นงานรอง
วาดรูปเป็นงานอดิเรก ขายยาเป็นงานประจำ
 (เหงื่อแตกพลั่ก)



ไปโรงเรียนแล้วค่ะ ไหว้
บันทึกการเข้า
โอ้ว  ง่ะ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 [8] 9 10 11 12 13 14
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!