เพิ่งมาเห็นจู๋นี้
ตอนอยู่ปีสาม เพื่อนชื่อจิมมี่ (ตอนนี้เป็นพระ บวชมาสิบปีได้แล้วมั้ง)
ติวน้องอยู่หน้าคณะ ขวัญข้าวมาหาพี่ติวเข้าถาปัตย์
จิมมี่ก็รับเป็นพี่ติว เรื่องมันก็เริ่มจากตรงนี้แหละ
(ตะกี้คุณกระปูดเพื่อนสมัยเรียนโทรมาพอดี ก็เลยได้ถามดีเทลกัน)
ขวัญข้าวขึ้นไปบนตึก บนสตู เห็นล๊อกพี่ๆ เพื่อนๆ แล้วคงติดใจ
กลายเป็นขาประจำ อยู่ที่ถาปัตย์เรื่อยมา
ไม่รู้ว่าคุยถูกคอกับจิมมี่ยังไงเหมือนกัน เห็นสนิทกันมากๆ
(กระปูดบอกว่า สมัยนั้นไม่ได้บ้าเหมือนตอนนี้นะ
"เฮ้ย สมัยนั้นยังคุยรู้เรื่อง ตอนนี้บ้าแบบคนบ้าจริงๆแล้ว
กูเจอนี่ต้องรีบไปหลบหลังต้นไม้เลย"
กระปูดนักศึกษา ป.โท กล่าวเสียงสั่นๆ)
ขวัญข้าวก็เลยเป็นรุ่นผมเอง อยู่ที่สตูนั่นแหละ
แล้วก็จำรุ่นผมได้ทั้งหมด
อย่างงานโฮมปีก่อนนั่น เจอปุ๊บเดินมาทักเลย
ข. : เฮ้ย หวัดดีอ๋า ไอ้กระปูดไม่มาเรอะ
อ. : ... อือ มาแต่คงจะช้าหน่อยน่ะ
ข. : แล้วไอ้น้อยล่ะ มีลูกกี่คนแล้ว
อ. : ...
ข. : ไอ้นัทแต่งงานแล้วนะ ปีก่อนนู้น เสียดายไม่ได้ไปงานแต่ง
...
...
ช่วงแรกๆก็อยู่ที่ถาปัตย์ สักพักก็ไปคุ้นกะเพื่อนๆจิตรกรรม
(พวกโลเล รวมรส สำออย ไอ้ห่วย อะไรประมาณนั้น)
แล้วตอนอยู่จิตรกรรมช่วงนั้น ขวัญข้าวมีชื่อจิตรกรรม (สงสัยตั้งเอง) ว่า winter wind (ลมหนาว)
ไม่รู้ตอนนี้ยังจำชื่อนี้ได้หรือเปล่า
ส่วนพี่อ้อยหวาน ผมเจอแกตั้งกะสมัยอยู่หอจุฬา
มาเรียนศิลปากรก็ตามมาอีก
พี่อ้อยหวานเคยจะให้งานออกแบบศาลพระภูมิราคาห้าหกล้าน
ให้ผมกะจิมมี่ทำ
ตอนนั้นจิมมี่นอนฝันหวานถึงค่าแบบอยู่หลายคืนเหมือนกัน